TECHNOLOGY : HUAWEI และ ZTE เตรียมถอนตัวออกจากโครงการทดลองและพัฒนา 5G ในประเทศอินเดีย
Huawei Technologies Co. และ ZTE Corp. กำลังเตรียมที่จะถอนตัวออกจากโครงการพัฒนา 5G ในประเทศอินเดีย เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้เลวร้ายลงที่สุดในรอบ 40 ปี หลังจากเกิดเหตุปะทะที่พรมแดนบริเวณเทือกเขาหิมาไล
อินเดียจะใช้กฎระเบียบการลงทุนที่แก้ไขเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2020 ซึ่งอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติเพื่อกีดกีนผู้ประมูล 5G จากประเทศจีนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในอินเดีย
กระทรวงการสื่อสารจะเริ่มการหารืออีกครั้งเพื่อเจรจาเกี่ยวกับการอนุมัติทดลองใช้ 5G โดยบริษัทเอกชนภายในประเทศแทนอย่างเช่น Bharti Airtel Ltd., Realiance Jio Infocomm Ltd. และ Vodafone Idea Ltd. ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาได้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาโครงการเนื่องจากการระบาดของ COVID-19
การตัดสินใจของอินเดียเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ซึ่งได้เพิ่มระดับการทำสงครามทางเศรษฐกิจกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน โดยคณะกรรมการด้านการสื่อสารของสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัททั้ง 2 แห่งคือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินเดียกล่าวว่าการประมูล 5G อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า และคาดว่าจะมีการประกาศคำตัดสินเกี่ยวกับการแบน Huawei และ ZTE ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากได้รับการอนุมัติจากสำนักนายกรัฐมนตรี
โฆษกกระทรวงการสื่อสารและสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามเพื่อขอความคิดเห็นจาก Bloomberg ในทันที ส่วนทางฝั่ง Huawei และ ZTE ก็ยังไม่ตอบกลับอีเมลเพื่อขอความคิดเห็น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อินเดียอนุญาตให้ Huawei เข้าร่วมการโครงการทดลอง 5G ได้โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ แต่ Huawei ก็ต้องถอนตัวออกไป หลังจากเกิดการปะทะกันบริเวณพรมแดน ซึ่งทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย และทหารจีนเสียชีวิตไม่ทราบจำนวน จึงได้เพิ่มความขัดแย้งให้กับทั้ง 2 ประเทศอีกครั้ง
ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อินเดียได้สั่งแบน TikTok และอีกหลาย 10 แอปพลิเคชั่นที่เป็นของจีน โดยกล่าวว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
Nikhil Batra นักวิเคราะห์ของ International Data Corp. กล่าวว่า
"โครงสร้างพื้นฐานทางด้านโทรคมนาคมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินด้านความมั่นคงของประเทศ และประเทศต่าง ๆ ก็กำลังมองหาการควบคุมทรัพย์สินพวกนั้นให้เหมือนกับที่พวกเขาควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำปะปา"
จากการคำนวณของ IDC บริษัทด้านการโทรคมนาคมหลายแห่งกำลังคาดหวังที่จะลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์ในการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน 5G และคาดว่าตลาด Router/Gateway ของระบบ 5G/LTE จะเติบโตจนมีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2024
อย่างไรก็ตาม อินเดียเองก็มีปัญหาภายในเกี่ยวกับกฏระเบียบทางด้านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและตลาด Network equipment ของพวกเขาก็ยังมีขนาดเล็กอยู่ ขณะที่บริษัทต่าง ๆ รวมถึง Bharti และ Vodafone หรือแม้แต่บริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อให้มีกำไรจากเครือข่าย 4G
นอกจากนี้พวกเขายังพึ่งพาอุปกรณ์จากจีนอย่างมากในเครือข่าย 4G และการแบน Huawei กับ ZTE อาจทำให้อินเดียมีต้นทุนในการเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยี 5G เพิ่มขึ้นถึง 35% ตามที่ Rajiv Sharma หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ SBICAP Securities Ltd. คำนวณเอาไว้ ดังนั้นความท้าทายของอินเดียจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการตัดสินใจดังกล่าว
ขณะเดียวกันก็ได้เกิดความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงและความเชื่อมั่นของ Huawei ในฐานะที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลกในตลาดเครือข่ายไร้สาย รองจากบริษัท Jio Infocomm ของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดีย ซึ่งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวเครือข่าย 5G ในเร็ว ๆ นี้โดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองโดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม
กลุ่มบริษัทของเขากล่าวว่าผู้ให้บริการเครือข่ายไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการเปลี่ยนไปใช้ระบบ 5G ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อข้อพิพาททางการเมืองที่เชื่อมโยงกับผู้จำหน่ายอุปกรณ์ของจีน ซึ่งมีบริษัทโทรคมนาคมทั่วโลกเข้ามาพัวพันด้วย
ถึงกระนั้นแล้ว ด้วยการที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังมุ่งไปสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ที่ยังทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ทำให้รัฐบาลอาจไม่สามารถผลักดันให้มีการประมูลเครือข่าย 5G ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย !!
References :
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
