14 ส.ค. 2020 เวลา 06:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เรือนหอ... หมอเจษ
ณ อนามัยห่างไกลเมืองแห่งหนึ่ง มีหมอหนุ่มอุทิศตนให้คนยากไร้ เขาทิ้งอนาคตที่สวยหรูในเมืองกรุง มุ่งหาความสงบในชนบท เขาย้ายไปตามที่ทุรกันดาล เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ หมอหนุ่มหล่อมีนามว่า เจษฎา หรือ ใครๆก็เรียกว่าหมอเจษ นอกจากจะมีใบหน้าหล่อเหลาแล้ว ยังมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ตาตี่ แบบลูกคนจีนอีกด้วย เมื่อมาที่หมู่บ้าน สาวใหญ่สาวน้อยจึงมีอาหารการกิน มาฝากไม่ขาดสาย
.. ความรักของคน... กับผี เริ่มก่อตัวขึ้น..
หลายครั้งที่เขาได้รับโทรศัพท์จากแม่ให้เขากลับไปช่วยดูแลกิจการต่อที่บ้าน ที่เปิดเป็นร้านขายยาขนาดใหญ่อยู่ที่กรุงเทพ เนื่องจากเป็นลูกชายเพียงคนเดียว แต่เขาก็ปฏิเสธ เพราะชอบชีวิตลุยๆแบบนี้มากกว่า
วันแรกที่เขาย้ายเข้ามาอนามัยแห่งนี้ มีพยาบาลคนหนึ่งมีอายุมากแล้วกับแม่บ้าน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่อีก หนึ่งคน ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี หลังจากตรวจคนไข้เสร็จเขาได้ออกไปเยี่ยมชมวถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ "ชื่อหมู่บ้านดงเคียน" อาจจะมาจากชื่อต้นตะเคียนที่มีอยู่มากมาย ในหมู่บ้านนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ นานๆจึงจะนำผลิตไปขาย และซื้อสิ่งของจำเป็น กลับขึ้นมา ชาวบ้านยังห่างไกลคำว่าเทคโนโลยีนัก อย่าว่าแต่สัญญาณมือถือเลย แค่โทรทัศน์ ทั้งหมู่บ้านก็มีแค่บ้านครูใหญ่เพียงหลังเดียวเท่านั้น
ทุกเช้าหมอเจษ จะมาที่อนามัย แต่เช้าตรู่ และแวะไปพูดคุยกับครูใหญ่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นคนกรุงเทพ เหมือนกัน ครูใหญ่ได้ย้ายมาสอนที่นี่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วและได้แต่งงานกับสาวสวยประจำหมู่บ้าน ลงหลักปักฐาน อยู่ด้วยกันจนมีลูกชาย และลูกสาว 2 คน
วันหนึ่งขณะที่หมอเจษ กำลังตรวจคนไข้รายสุดท้ายเสร็จ สายฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างบ้าคลั่ง เขาแปลกใจที่อยู่ๆฝนเกิดตก ทั้งที่ไม่ตั้งเค้ามาก่อน พยาบาลรุ่นพี่ มีนามว่า ดวงใจ วันนี้ลาป่วยเนื่องจากส้มตำเมื่อวาน ทำพิษ เขากำลังจะปิดประตูอนามัยลง ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างหญิงสาว ตากฝนเปียกปอนวิ่งเข้ามาหลบในอนามัย ใบหน้านั้นซีดขาว ตัวสั่นเทา เขาเห็นดังนั้นจึงโบกมือเรียกให้เข้าไปข้างใน และยื่นผ้าห่มสำหรับคนไข้ให้ พร้อมกับถามว่า เป็นอะไรถึงวิ่งตากฝนมาที่นี่
สาวปริศนา... ที่มาพร้อมฝน
สาวน้อยน่าจะอายุประมาณ 18 ปี ใบหน้าแม้จะซีด แต่กลับมีดวงตาที่สวยเสน่ห์ ริมฝีปากที่สั่น ขยับขึ้นลงนั้น มันทำให้ใจหมอหนุ่มนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ หญิงสาวบอกว่าเธอปวดหัว ขอให้หมอหนุ่มช่วยตรวจดูอาการให้เธอด้วย เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อาจวัดชีพจรคนไข้ได้ เขาจึงคิดเอาเองว่าม เขาอาจจะใจเต้นแรง และไม่มีสมาธิเลย หญิงสาวถามหมอหนุ่ม ด้วยเสียงใสกังวาน มันทำให้หัวใจเขาพองโตขึ้นเรื่อยๆ หมอค่ะ หนูเป็นอะไร หมอหนุ่มยิ้มแก้เก้อ ไม่อาจบอกว่า เขาไม่สามารถประเมินอาการของคนไข้รายนี้ได้เลย แม้จะพยายามข่มสมาธิแล้วก็ตาม
เขาจึงจัดยาแก้ไข้ แก้ปวดเบื้องต้น และกำชับว่าหากมีอาการให้รีบมาหาหมอทันทีเลยนะ หลังตรวจคนไข้สาวเสร็จฝนที่ตกแบบบ้าคลั่ง กลับหยุดแบบดื้อๆ ทำเอาหมอหนุ่มงงเป็นไก่ตาแตก
หลังจากนั้นคนไข้สาวก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหมอหนุ่ม เธอคอยแวะเวียนทำอาหารมาให้หมอหนุ่มอยู่เสมอ ชาวบ้านต่างสังเกตุว่า ช่วงนี้ หมอหน้าตาซีดเซียว ดูแปลกๆไป หญิงสาวมีนามว่า "เคียน" อาจจะมาจากบ้านดงเคียนที่เธออาศัยอยู่ก็เป็นได้ เธอมักจะมาหาเขาตอนเช้าตรู่ หรือไม่ก็ตอนที่อนามัยใกล้จะปิด ช่วงเย็นๆ
หมอเจษเคยถาม ครูใหญ่ ว่ารู้จักหญิงสาวที่ชื่อเคียน หรือไม่ ครูใหญ่ครุ่นคิด แล้วก็เงียบไป
หมอหนุ่มแอบปลูกต้นรักกับสาวชาวป่าจนเย็นวันหนึ่ง จึงขอมาส่งที่บ้านหญิงสาว เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง อยู่ลึกเข้าไปชายป่า ทั้งสองข้างทางเป็นดงกล้วย และต้นตะเคียน ปกคลุมอยู่ตลอดทาง บ้านของหญิงสาว อยู่ติดกับบ้านอีกหลัง ซึ่งมีเสียงเด็กน้อยร้องจ้า มาเป็นระยะ หมอเจษจึงถามหญิงสาวว่า อาศัยอยู่คนเดียวหรือ เคียนตอบว่า อยู่กับน้องสาว พร้อมกับชี้มือไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งติดกัน พร้อมบอกว่า น้องสาวเลี้ยงลูกอ่อน คนเดียว หมอเจษจึงถามว่าแล้วสามีของน้องสาวอยู่ที่ไหน เคียนจึงตอบว่า สามีของน้องสาวได้หนีไปเมื่อ 3 เดือน ก่อนที่หมอเจษจะมาที่นี่ และเป็นหมอที่อยู่อนามัยแห่งนี้ ได้ยินดังนั้นเขาอดคิดไม่ได้ว่า เพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่หมอคนก่อน จึงรีบย้ายไปอย่างกระทันหัน เขาจึงได้มาประจำการแทนที่อนามัยแห่งนี้
หลังจากพูดคุยกันสักพัก เขาจึงได้ขอตัวกลับ และอดถามไม่ได้ว่าน้องสาว ของเคียนชื่ออะไร บางทีเขาอาจจะช่วยตามหาสามีของน้องสาวอีกแรง
น้องสาว ชื่ิอ "นี" จ๊ะ เมื่อพูดคุยรู้เรื่องแล้วเขา ก็ได้กลับบ้านพักไป
เช้าตรู่ของอีกวัน ครูใหญ่รีบมาพบเขาที่อนามัย พร้อมพูดกับเขาเรื่องหญิงสาวที่ชื่อเคียน หมอเจษ ผมอาจจะยังบอกหมอไม่ได้วันนี้ แต่ผมว่าหมออยู่ห่างๆผู้หญิงคนนั้นจะดีกว่า ครับ เพราะผมสงสัยเรื่องที่เกี่ยวกับหมอคนก่อน ที่ย้ายกระทันหันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ หมอเจษยิ้มกริ่ม คิดในใจ ก็แหงสิ ไปทำเขาท้องก็รีบเผ่นหนี ไม่ใช่แค่เกี่ยวนะเป็นตัวต้นเหตุเลยหร่ะ แต่ชายหนุ่มไม่ได้พูดออกไป พร้อมกับกล่าวขอบคุณครูใหญ่ ที่เป็นห่วงเขา คนไข้เริ่มทยอยมา ครูใหญ่จึงลากลับไป
เย็นวันนี้ อนามัยกำลังจะปิด ฝนเกิดตั้งเค้ามามืดราวกับฟ้าจะถล่ม เสียงลมพัดใบไม้น่าหวาดกลัวยิ่งนัก พลันปรากฏร่างหญิงสาววิ่งมาด้วยความร้อนใจ อ้าวเคียน ทำไมวิ่งตากฝนมาหร่ะ หญิงสาวรีบตอบกลับหมอเจษไปว่า ลูกของนีไม่สบายมากฝนตกจึงไม่สามารถพามาตรวจได้ ด้วยสัญชาติญาณ ของหมอ เขาจึงรีบเตรียมกล่องเครื่องมือ และอุปกรณ์ตรวจไข้ติดตัวไป พร้อมกับขับมอเตอร์ไซค์เก่าของอนามัย ฝ่าสายฝนไปด้วยความเร่งรีบ
........ โคร้มมมมมมมมมมมมมมม......
เช้าวันถัดมาหมอหนุ่มตื่นมาพร้อมอาการ ปวดตามตัวเล็กน้อย เสียงเคียนเรียกให้ตื่น เขาจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น เคียนส่งยิ้มให้แล้วพูดว่า เมื่อคืนเขาและเธอ ขับรถฝ่าสายฝนมา และเกิดล้ม มิน่าหร่ะ เขาจึงปวดตามตัว แล้วอดถามไม่ได้ว่า ลูกของนีเป็นอย่างไรบ้าง เคียนตอบว่า ได้ยาในกล่องอุปกรณ์ อาการไข้ลดลงและดีขึ้นมากแล้ว
ก่อนที่หมอเจษจะถามอะไรต่อ เขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากหน้าบ้าน ชาวบ้านและครูใหญ่เดินมาดูอะไรกัน เคียนรีบเรียก หมอเจษให้เข้าไปในบ้าน แต่หมอเจษยังคงค้างคากับคำถามของครูใหญ่เมื่อวาน จึงเดินออกไปหา
เขาพบมอเตอร์ไซด์ของอนามัยล้มอยู่ใกล้ๆ ดงกล้วยข้างทาง พร้อมกับชายคนหนึ่งที่เนื้อตัวเปียกปอน คว่ำหน้าอยู่ ครู่ใหญ่จึงได้พลิกร่างของชายคนนั้นดู พระเจ้า!!!! นี่มันเขาหนิ แล้วที่ยืนอยู่นี่เขาตายแล้วงั้นหรือ เขาทรุดลง แล้วตะโกนออกไปสุดเสียง แต่กลับไม่มีใครได้ยินเสียงเขาเลย เคียนเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว ปลอบว่า เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ ไม่ดีใจหรือ
เช้าวันถัดมา ชาวบ้านได้นำศาลมาตั้งตรงบริเวณดงกล้วย ตรงข้ามต้นตะเคียนใหญ่
พร้อมกับติดป้ายว่า "เรือนหอ หมอเจษ"
ผมพึ่งรู้ว่า เคียนนั้น มาจากคำว่า ต้นตะเคียน ส่วนน้องสาวที่ชื่อนี ก็คือผีตานีนั่นเอง หมอคนก่อนที่รีบย้ายกลับไป เพราะไปแอบหลงรักผีตานี แต่รู้ความจริงก่อนจึงรีบย้ายหนีไปอย่างกระทันหัน
หมอเจษได้แต่ยิ้มแห้งๆ มองดูเรือนหอของเขาด้วยความ หดหู่ใจ
ที่มารูปภาพ
ขอขอบคุณ ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ฝากกดไลค์กดติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ 😊😊
โฆษณา