15 ส.ค. 2020 เวลา 14:30 • ธุรกิจ
รู้จักกับ “โรเบิร์ต ก๊วก” เศรษฐีเจ้าพ่อนำ้ตาลแห่งเอเชีย
รู้ไหม บุคคลที่รำ่รวยที่สุดในเอเชียคือ “มูเกซ อัมบานิ” ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม มีทรัพย์สินมากกว่า 2.4 ล้านล้านบาท
แต่หลายคน อาจจะยังไม่รู้จักกับ “โรเบิร์ต ก๊วก” มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซียของไทย
ความน่าสนใจของเศรษฐีคนนี้ คือมีอิทธิพลทางธุรกิจครอบคลุมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค แล้วโรเบิร์ต ก๊วก จะน่าสนใจอย่างไร ผู้เขียนจะไปทำความรู้จักเขาคนนี้กัน..
“โรเบิร์ต ก๊วก” หรือ “ก๊วก ฮก เหนียน” นักธุรกิจที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ้าพ่อน้ำตาล” และ “เจ้าพ่อนำ้มันปรุงอาหาร”
เพราะเขาประกอบธุรกิจ ครอบคลุมอุตสาหกรรมนำ้ตาล ไล่เรียงตั้งแต่ทำไร่อ้อย โรงงานน้ำตาล โรงโม่แป้ง
นอกจากนี้ เขายังประกอบกิจการเกี่ยวกับสินค้าครัวเรือนและอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารสัตว์ นำ้มัน การกลั่นนำ้มัน การเงิน โรงแรม ที่ดิน การค้า และสื่อสิ่งพิมพ์
ทว่ารายได้หลักของเศรษฐีก๊วกมาจากบริษัทวิลมาร์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นผู้ผลิตนำ้มันปาล์ม รายใหญ่ที่สุดในโลก
รู้ไหมว่าวิลมาร์ ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2013
แต่ปัจจุบัน วิลมาร์มีสินทรัพย์บริษัท 47,048 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูลปี 2019) เลยทีเดียว..
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เศรษฐีก๊วกจะก้าวมายืนอยู่ตรงจุดนี้นั้น ชีวิตวัยรุ่นของเขา น่าสนใจที่จะหาคำตอบเป็นอย่างมาก
ย้อนกลับไปยังจุดแรกเริ่มของโรเบิร์ต ก๊วก เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องจากพี่น้อง 3 คน ที่เกิดในปี 2466
ซึ่งตระกูลของเขา มีต้นกำเนิดจากจีน เดินทางอพยพมาที่มาเลเซีย ตั้งแต่ต้นยุคศตวรรษที่ 20
จากคำบอกเล่าของหลายคนที่ใกล้ชิด ก๊วกเริ่มต้นทำงานในฐานะของพนักงานในตำแหน่งเสมียนการค้าข้าวของบริษัท มิตซูบิชิ
ซึ่งช่วงนั้นมิตซูบิชิเริ่มมีอิทธิพลทางธุรกิจในมาเลเซีย เพราะจักรวรรดิญี่ปุ่นกำลังเรืองอำนาจ ครองความเป็นใหญ่ในสงครามบนแหลมมลายู
สำหรับก๊วก ว่ากันว่า เขามีความเพียรในการทำงาน เขาจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกการค้าข้าว
หลังจากที่สงครามสิ้นสุด ก๊วกได้นำทักษะทางธุรกิจ มาสานต่อ โดยเริ่มค้าขายสินค้าทางการเกษตร ซึ่งมีคู่ค้าชาวญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรอยู่เบื้องหลัง
ในปี 2504 ก๊วกลงทุนซื้อนำ้ตาลราคาถูกจากอินเดียมาขายต่อ ทว่าราคากลับพุ่งสูงขึ้น จึงทำให้เขาทุ่มเทลงทุนกับสินค้านำ้ตาลต่อเนื่อง
กระทั่งครองตลาดน้ำตาลของมาเลเซียกว่า 80% ผลิตน้ำตาล 1.5 ล้านตันต่อปี หรือเท่ากับ 10% ของการผลิตทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ ก๊วกจึงได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาน้ำตาลแห่งเอเชีย” นั่นเอง..
ปี 2514 เขาได้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างโรงแรมที่มีชื่อว่า “แชงกรีลา” แห่งแรกในสิงคโปร์ ก่อนที่จะแบ่งไปลงทุนบนเกาะฮ่องกงในปี 2520 ซึ่งได้สร้างความมั่งคั่งให้กับก๊วกอย่างทวีคูณ
หลังจากนั้น ก๊วกก็ได้ขยายการลงทุนสำหรับโรงแรมแชงกรีล่าขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในฟิลิปปินส์ จีน อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย
โดยโรงแรมแชงกรีล่าในไทย ตั้งอยู่ริมแม่นำ้เจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร เป็นโรงแรมที่ได้รับอิทธิพลจากสังคมชั้นสูงอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับธุรกิจเพาะปลูก ก๊วกได้ดำเนินกิจการเหล่านี้มาเนิ่นนาน ก่อนที่จะนำพื้นที่เพาะปลูกปาล์มและธัญพืช รวมเข้าเป็น Wilmar International ในปี 2550
ทำให้บริษัทนี้ กลายเป็นผู้แปรรูปน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก ในเวลาต่อมา..นั่นเอง
ปัจจุบัน เศรษฐีก๊วกมีทรัพย์สินอยู่ที่ 11,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 342,100 ล้านบาท
และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆ ของ “โรเบิร์ต ก๊วก ฮก เหนียน” มหาเศรษฐีที่รำ่รวยที่สุดใน..มาเลเซีย
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
โฆษณา