16 ส.ค. 2020 เวลา 04:02
ชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากสลัมสู่เศรษฐี ชีวิตของหนึ่ง จักรวาล
ถ้าพูดถึงโปรดิวเซอร์ดนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย ชื่อที่น่าจะได้ยินคุ้นหูที่สุด ต้องมีชื่อของ คุณหนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม อยู่ในนั้นแน่นอน
คุณหนึ่งจักรวาล หรือครูหนึ่ง เป็นมิวสิคไดเรกเตอร์ของรายการเพลงชื่อดังอย่าง The mask singer และ The golden song ทั้งสองรายงานได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ในเรื่องของคุณภาพดนตรีที่ถูกใจผู้ชมรายการอย่างมาก
1
ใครจะไปรู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ หนึ่งจักรวาลต้องผ่านอะไรมาบ้าง......
หนึ่งจักรวาลเริ่มต้นชีวิตวัยเด็กในสลัมคลองเตย พ่อเป็นคนขาพิการ ทำงานขับรถรับจ้างเลี้ยงครอบครัว ส่วนแม่เป็นคนไม่มีการศึกษา ไม่มีอาชีพ ฐานะทางบ้านยากจนและอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นแหล่งเสื่อมโทรมของสลัมคลองเตย
ชีวิตวัยเด็กรายล้อมไปด้วยยาเสพติด ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น หนึ่งบอกว่า “งง ๆ อยู่เหมือนกันที่รอดมาได้ เพื่อนรุ่นเดียวกันตอนนี้เสียชีวิตหมดแล้ว เพราะว่าทุกคนติดยา”
ตอนเด็กๆ ถ้าอยากได้ของเล่นก็อะไร ก็จะไปนั่งรอที่คลอง ขยะอันไหนที่ลอยมาตามน้ำ ก็จะคอยสอยไปเล่น ที่คลองเตยมีขยะเยอะมาก ทำให้เค้ามีของเล่นเยอะมาก
1
ชีวิตของหนึ่งจักรวาล มีวันนี้ได้เพราะดนตรี..... พ่อของหนึ่งจักรวาล กลัวลูกตนเองจะติดยาเหมือนคนอื่นๆในสลัม จึงฝากลูกไปเรียนดนตรีกับเพื่อนของพ่อ ซึ่งเป็นนักดนตรีเล่นแอคคอเดียน
นอกจากนี้พ่อของหนึ่งจักรวาล เป็นครูสอนร้องเพลงให้นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อย่าง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, ชินกร ไกรลาศ, สายัณห์ สัญญา, พุ่มพวง ดวงจันทร์
นั่นทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขา เต็มไปด้วยดนตรี.....
จากนั้นเขาได้เรียนดนตรีจริงจังตอน ม.1 ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์
“พ่อบอกให้ไปเรียนเปียโน ไปวันแรก ครูถามว่าใครจะเรียนเปียโน ทุกคนยกหมดเลย มีผมคนเดียวที่ไม่ยก เพราะผมไม่รู้จักเปียโน ผมรู้แต่ว่าไอ้ที่ผมเล่นที่บ้านมันคือคีย์บอร์ดและออร์แกน แล้วผมก็โดนจับเรียนไวโอลิน จบเอกไวโอลินมา”
แต่ความพยายามของเด็กชายจักรวาล ไม่มีสิ้นสุดง่ายๆ วิธีการเรียนเปียโนของเค้าคือ ไปแอบดูครูซ้อม วันหนึ่งได้ยินเสียงเปียโนลอยมา จึงเดินตามเสียงเปียโนไปถึงห้องซ้อมเปียโน เห็นครูท่านหนึ่งนั่งเล่นเปียโนอยู่ มีหนังสือเพลงอยู่ข้างหน้า จึงเก็บเศษกระดาษ เศษเหล็ก เก็บขวดชั่งกิโลขายเพื่อไปซื้อหนังสือโน้ตเพลง แล้วกลับมาที่เดิม แอบฟังครูเล่นเปียโนพร้อมกับเปิดหนังสือหน้าเดียวกันแล้วฝึกดูตาม
1
ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เด็กคนอื่นอาจจะไปเดินเที่ยวห้าง แต่เด็กชายหนึ่งจักรวาลจะใช้เวลาทั้งเสาร์และอาทิตย์ไปแอบฝึกเปียโนที่วิทยาลัย เพราะเป็นเวลาเดียวที่เปียโนว่าง
ทำแบบนั้นอยู่เป็นเดือน เป็นปี........จนชำนาญ
เมื่อเด็กน้อยอายุเพียง 16-17 ปี คิดว่าตนเองชำนาญแล้วจึงขอไปพิสูจน์ตนเองตามร้านคาเฟ่ต่างๆในฐานะนักดนตรี แต่ชีวิตจริงยากลำบากกว่ามาก มีหลายครั้งถูกนักดนตรีด่า ตำหนิ และหลายครั้งถูกไล่ออกจากงานเพียงเพราะอ่านโน๊ตไม่ได้
1
แต่ไม่เคยมีคำว่าท้อจากผู้ชายคนนี้ หนึ่งจักรวาลยังคงฝึกฝนตนเองอยู่เรื่อยๆ ทั้งยังสมัครงานตามร้านคาเฟ่และผับต่างๆ เพื่อได้ฝึกปรือฝีมืออยู่เสมอ
1
วันหนึ่ง เค้าคิดได้ว่าทำไมเราไม่ลองแต่งเพลง แต่งดนตรีใหม่ดูบ้าง แม้จะโดนค่อนขอดว่า...."ทำไปก็เหนื่อยเปล่า"
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ทำให้หนึ่งจักรวาลมีวันนี้ เพราะ 1. มีทัศนคติที่คิดบวกอยู่เสมอ 2. มีความเพียรเป็นนิจ 3.ทำตนเป็นแก้วน้ำที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เสมอ และสุดท้ายคือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
สิ่งเหล่านี้คือทำให้ชื่อของ หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม กลายเป็นหนึ่งในมิวสิค ไดเร็กเตอร์และโปรดิวเซอร์แนวหน้าของประเทศไทย ทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และทำตามอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ชื่นชม...........
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย
โฆษณา