1 ก.ย. 2020 เวลา 02:02 • การศึกษา
DATA พาเพลิน : Breaking Post!
"เลือกตั้งสหรัฐ 2020"
( 60วันก่อนการเลือกตั้ง ) ตอนที่ 1
เนื่องจากติดภารกิจ
การงานอันรีบเร่งมาพักหนึ่ง
ซึ่งจะไปคลี่คลายจริงๆคือเดือนตุลาคม
โพสต์นี้กระผมจึงฮึดสู้กันซะหน่อย
เพราะเดี๋ยวจะหายหน้า...นานเกินไป
โพสต์นี้ขอเกาะติด
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 59
ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้
ตอนนี้เริ่มมีการวิเคราะห์, ข้อมูล
และทำนายผลการเลือกตั้ง ทยอยออกมามากมาย
วันนี้ DATA พาเพลิน จึงขอนำข้อมูลด้านหนึ่ง จาก"กู๋" มาให้ทุกท่านได้รับทราบ
ในช่วง 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง
ผมขอเริ่มจากคีย์เวิร์ด 2 คำ
คือชื่อของ ปธน.คนเดิมและ ผู้ท้าชิง
12 เดือนที่ผ่านมา เฉพาะสหรัฐอเมริกา
1
ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 (คนปัจจุบัน) อายุ 74 ปี
จากพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี (สมัย บารัก โอบาม่า) อายุ 77 ปี จากพรรคเดโมแครต
การต่อสู้ระหว่างผู้ชายสูงอายุ 2 คน
ที่มีชะตาของโลกเป็นเดิมพัน
ผู้ชายสูงอายุ 2 คน ที่มีข่าวฉาวให้ได้ขุดคุ้ย...ไม่แพ้กัน
ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อย
ยังไงก็ได้...ขิงแก่
2
(2)
จากกราฟ คีย์เวิร์ด "โจ ไบเดน" ดูเหมือนจะพุ่งขึ้นในช่วงเดือนสิงหา ที่ผ่านมา
แต่เมื่อนำทั้งสองคำมาเปรียบเทียบกัน ผลปรากฏว่า...
3
(3)
ใช่ครับ
คีย์เวิร์ด "ทรัมป์" (สีแดง) ดูจะได้รับความนิยมมากกว่า
"โจ ไบเดน" (สีฟ้า) อย่างเห็นได้ชัดเจน
คราวนี้ผมขอลงรายละเอียด ของคำที่เชื่อมโยงกับทั้ง 2 คน
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อปูพื้นให้เห็นภาพกว้างกันก่อน
โดยผมจะแบ่งคำเป็น 2 ประเภท
คือ คำที่เป็นไปในทางบวก และ
คำที่เป็นไปในแง่ลบ
และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ผมจะไล่มาจากซ้ายมือ โดยสรุปนะครับ
"ทรัมป์" มีคำที่เกี่ยวข้องที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์และเป็นไปในทิศทางบวกคือ...
Donald Trump
- "ภูเขารัชมอร์" ทรัมป์ ปราศรัยและปลุกความเป็นชาตินิยม เนื่องในวันชาติที่ผ่านมา
- "ไมเคิล บลูมเบิร์ก" มหาเศรษฐีหมื่นล้าน และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากพ่ายแพ้ในศึก Super Tuesday ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบไพรมารีของพรรคเดโมแครตใน 14 ของสหรัฐฯ (พ่ายแพ้แก่โจ ไบเดน) ทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความโดยบอกว่าบลูมเบิร์กว่าคือผู้แพ้ที่สุดในค่ำคืนวันอังคาร และละลายเงินกว่า 700 ล้านดอลลาร์ที่ใช้ในการหาเสียงของเขาไปอย่างไร้ค่า
ต่อมา "ทรัมป์" คำที่เกี่ยวข้องที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์และเป็นไปในทิศทางลบคือ...
- "น.พ. แอนโทนี เฟาซี" ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ และเป็นหัวหน้าทีมเฉพาะกิจที่ทำเนียบขาวตั้งขึ้นเพื่อประเมินและรับมือต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เขาอาจเป็นนักวิทยาศาสตร์คนเดียวในสหรัฐฯ ที่คนอเมริกันเชื่อถือมากที่สุดในสถานการณ์โควิด-19 นี้
แต่นโยบายการป้องกันที่เฟาซีนำเสนอกลับไปขัดหูขัดตาทรัมป์ และทีมงานของเขา เนื่องจากเฟาซีมักออกมาแก้ไขข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำพูดต่าง ๆ ของทรัมป์ที่ส่วนใหญ่มักเพ้อเจ้อและไม่จริง ทำให้ขณะนี้เฟาซีถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์
แต่ในสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้
ผู้ที่มีปัญญา
...ย่อมเชื่อหมอ มากกว่านักการเมือง
น.พ. แอนโทนี เฟาซี
- ต่อมา คือ 3 คำ
ที่อยู่บนเนื้อเรื่องเดียวกัน
"Whistleblower" (วิสเซิลโบลว์เออร์)
"ยูเครน"
"Impeachment"
มีการร้องเรียนกระทำผิดกฎหมาย การใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การทุจริต หรือการกระทำที่เป็นภัยต่อสุขภาพและความปลอดภัยของสังคม ซึ่งทรัมป์ถูกร้องเรียนและกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อให้ถูกถอดถอนให้ออกจากตำแหน่ง (Impeachment) หากกระทำผิดจริง
ในกรณีนี้คือการที่ทรัมป์ได้โทรศัพท์ไปกดดันประธานาธิบดีของยูเครนให้ขุดคุ้ยและสอบสวนลูกชายของโจ ไบเดน (ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ท้าชิงการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 ของพรรคเดโมแครต) ว่ามีส่วนในการฉ้อโกงรัฐบาลยูเครน (ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ทำการสอบสวนไปแล้วและไม่พบการทุจริต)
- "Hoax" ทรัมป์บอกว่า โคโรน่าไวรัส (ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Covid-19) เป็นเรื่องหลอกลวง
- "แมรี แอนน์ แมคเลาด์ ทรัมป์" นักจิตวิทยาวัย 55 ปี หลานสาวของทรัมป์ และเป็นบุตรสาวของเฟร็ด ทรัมป์ จูเนียร์ พี่ชายผู้ล่วงลับของทรัมป์ เขียนหนังสือที่ชื่อ Too Much and Never Enough : How My Family Created The World ‘S Most Dangerous Man (มากเกินไปและไม่เคยพอ : ครอบครัวของข้าพเจ้าสร้างบุคคลที่อันตรายมากที่สุดในโลกได้อย่างไร) ออกมาแฉถึงพฤติกรรมด้านมืดของทรัมป์
Mary Anne Trump
ด้วยความที่เธอเป็นนักจิตวิทยา เธอเชื่อว่าการที่ทรัมป์มีนิสัยที่ผิดแปลกประหลาดผิดจากคนปกติทั่วไป ทั้งการ
กระทำและความคิด น่าจะมาจากปัญหาที่เขาไม่ได้รับความรักจากแม่ในช่วงวัยเด็ก และทรัมป์ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อ (ปู่ของเธอ) ที่เป็นพวกประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ร่ำรวย แต่ลึกๆแล้ว และคิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่าผู้อื่น ต่อต้านสังคม ต่อต้านชาวยิว เป็นอันธพาล เหยียดผิว เหยียดเพศ เกลียดชังมนุษย์ที่อ่อนแอกว่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติในตัวทรัมป์แทบทั้งสิ้น
สุดท้าย คำว่า "Ban" คือการที่ทรัมป์ไล่แบนบรรดาสินค้าและบริการของจีนในสหรัฐ (อย่างเช่น แอป TikTok ฯลฯ)
ซึ่งคำนี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างทิศทางด้านบกและด้านลบ คือมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้ที่ไม่เห็นด้วย
คราวนี้มาดูฟาก โจ ไบเดน กันบ้าง
โดยเริ่มจาก "ไบเดิน" คำที่เกี่ยวข้องที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์และเป็นไปในทิศทางบวกคือ...
Joe Biden
- "Super Tuesday" และ "ไมเคิล บลูมเบิร์ก"อยู่บน timeline เดียวกัน
เป็นการชนะการเลือกตั้งแบบไพรมารีของพรรคเดโมแครตใน 14 ของสหรัฐฯ ทำให้"ไมเคิล บลูมเบิร์ก"คู่แข่ง ประกาศถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมาสนับสนุน "โจ ไบเดน"
คู่แข่งให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแคตรสู้ศึกกับทรัมป์
- "Delegate" ได้รับเลือกให้ท้าชิงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 กับทรัมป์
- "รองประธานาธิบดี" โจ ไบเดน เคยเป็นรองประธานาธิบดี ในสมัย บารัค โอบาม่า
ต่อมา "ไบเดน" คำที่เกี่ยวข้องที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์และเป็นไปในทิศทางลบคือ...
- "ภาวะสมองเสื่อม"และ"การพูดติดอ่าง" เป็น 2 คำ ข้อกล่าวหาที่ให้ร้าย ไบเดน
- มี 3 คำที่อยู่บน timeline เดียวกัน
"Tara Reade"
"การทำร้ายทางเพศ"
"การข่มขืนกระทำชำเรา"
อดีตทีมงานของนายไบเดนสมัยที่เขายังเป็นวุฒิสมาชิกอยู่ (เมื่อปี ค.ศ. 1993) ออกมากล่าวหาว่า นายไบเดนล่วงละเมิดทางเพศกับเธอ ขณะที่ไบเดน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
Tara Reade
- มีอีก 2 คำ ที่อยู่บน timeline เดียวกัน
"Burisma Holdings" และ
"ยูเครน"
นายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของโจ ไบเดน อายุ 49 ปี เข้าดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท Burisma Holdings บริษัทเอกชนผลิตแก๊สธรรมชาติยักษ์ใหญ่ของยูเครน ในช่วงที่โจเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยประธานาธิบดีโอบาม่า
Hunter Biden
โดยเป็นประเด็นที่ทรัมป์ โจมตีฮันเตอร์ ว่า ทุจริต คอรัปชั่น และ โจ ไบเดน ก็มีส่วนรู้เห็นและปกปิดข้อมูลเพื่อช่วยลูกชายตัวเอง
ทรัมป์ ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยื่นมือเข้าช่วยในการสืบสวน โจ ไบเดน และบุตรชาย ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม โดยบทสนทนาทางโทรศัพท์ของทรัมป์และผู้นำยูเครน ถูกนำมาเปิดเผย "Whistleblower" และนำไปสู่ความพยายามถอดถอนตำแหน่งประธานาธิบดีจากทรัมป์อยู่ในขณะนี้
ทั้งหมดนี้
คือภาพกว้างในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ผมขอมาต่อในคราวหน้านะครับ
ว่าเราจะเจออะไรที่เชื่อมโยง
ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
และมันสามารถจะให้ข้อมูลกับเรา
ได้มากพอที่จะทำนายได้ว่า...
"ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป คือใคร" ได้บ้างมั้ย
โพสต์นี้ขอจบเพียงเท่านี้
ขอบพระคุณทุกการติดตาม
บุญรักษา"กัลยาณมิตร"ทุกท่าน
DATAPAPLEARN
DATAพาเพลิน
***หมายเหตุ DATA ข้อมูลที่เกิดขึ้นในโพสต์นี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลคำค้นหาบนแพลตฟอร์มของกูเกิ้ลอย่างเดียวเท่านั้น ข้อมูลและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการรวบรวมและบันทึก ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ผู้เขียนและทีมงาน DATA พาเพลิน มีเจตนารมณ์เพื่อให้ชุดข้อมูลดังกล่าว เกิดการต่อยอดทางความคิดแก่ผู้อ่าน ไม่ได้มีความประสงค์จะชี้นำในเรื่องใดๆแต่อย่างใด
โฆษณา