31 ส.ค. 2020 เวลา 03:47 • ท่องเที่ยว
ทริปพาน้องๆเที่ยวอ่าง
"ไอ่เนส" รุ่นน้องที่ขึ้นดอยด้วยกันบ่อยๆทักใน
เฟซบุคมาว่า "ทริปหน้าไหนดีพี่"
เนื่องด้วยอะไรไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะไปเห็นโพสจากเพจที่ติดตามอยู่เอารูปมาอวด จึงตอบไปโดยไม่คิดว่า "อ่างขาง"
จากนั้นไอ่เนสมันเลยไปจัดแจงลางาน กำหนดวันเรียบร้อยเลยเว้ย เอาวะ เลยตามเลย ไปก็ไป
ผ่านไปวันสองวัน ไอ่เนสมันก็ทักเข้ามาอีก ว่าจะมีเพื่อนไปด้วยอีกสองคน คือโย กับ เก่ง ทั้งสองคนก็ลางานเรียบร้อย สรุปคือห้ามเลื่อน ห้ามยกเลิก
ก่อนเดินทางหนึ่งวัน ผมได้ชวน "อู๋" ไปด้วย
อู๋เนี่ย เป็นคนที่ผมเดินทางไปกางเต๊นท์บนดอยหัวแม่คำด้วย เขาทำเพจอยู่ ชื่อว่า Rikimaru Through the Wind เป็นเพจเกี่ยวกับการขับ Ninja 400 คู่ใจ ท่องไปเรื่อย
เรานัดเวลาเดินทางกัน เป็นเวลาหลังเที่ยง ผมขับรถฮอนด้าดรีม 125 แก่ๆ ไปรับเนสมัน ส่วนเจ้าโย กับเจ้าเก่ง จะเอารถไปคนละคัน อู๋จะขับรถตามไปหาทีหลัง
ทริปนี้ ผมไม่ได้เตรียมของไปเยอะนัก เพราะเนสบอกว่า อาหารการกิน เก่งเป็นคนจัดการ เลยเอาไปแค่อุปกรณ์ส่วนตัว กับเตาสนาม เผื่อต้มน้ำเล็กๆน้อยๆ กับแก๊สที่เหลืออยู่ไม่น่าจะถึงครึ่งกระป๋อง
พอไปถึงจุดนัดพบ คือบ้านโย คำถามแรกที่โยถามออกมาคือ "ใครเป็นคนต้นคิดกินหมูกะทะ?"
ห๊ะ!! หมูกะทะ แล้วจะแบกกันไปยังไง? เอามอเตอร์ไซค์ไปกัน
สรุป เป็นไอเดียเนสมัน คุยกันกับเจ้าเก่งว่าจะช่วยกันเตรียมของสองคน
เก่งมาถึงจุดนัดพบ พร้อมกับของพะรุงพะรัง มัดอยู่เต็มรถ ทั้งกระติกน้ำแข็ง หม้อหมูกะทะ สัมภาระส่วนตัว
คุยกันว่าถ้าฝนตกก่อไฟไม่ได้ จะทำไง เก่งว่าก็ใช้เตาสนามของผมก็ได้ ผมตอบไปว่าแก๊สเหลือนิดเดียว ต้องแวะซื้อ เจ้าเก่งเลยอาสากลับไปเอาแก๊สที่บ้าน มันบอกว่ามีสำรองอยู่
เก่งออกไปซักพักใหญ่ๆ ก็กลับเข้ามา ได้อะไรมาเพิ่มไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มันลืมแก๊สกระป๋อง!!! รายว้าาาา กลับไปเอาแก๊ส แต่ดันลืมแก๊ส
เลยบอกว่าช่างมันเถอะ ช้ากว่านี้จะเสียเวลาเดินทาง
ออกเดินทางประมาณบ่ายแก่ๆ ตกลงกันว่าจะไปแวะซื้อของสดที่ฝาง เพื่อไปทำหมูกะทะกินกัน
เราขับรถมาตามเส้นทาง ท่าตอน แม่อาย ก็แวะพักรถที่ปั๊มน้ำมัน ระหว่างอยู่ในปั๊มก็เห็นอู๋ ที่ขับรถตามมาขับเลยเราไป ผมรีบโทรหา แต่ก็ไม่รับ
พอถึงฝาง เราแวะตลาดสดกัน เพื่อซื้อวัตถุดิบ อู๋โทรมาบอกอยู่ทางแยกขึ้นดอยอ่างขางแล้ว ผมก็บอกให้อยู่ตรงนั้นรอ แต่เหมือนจะสื่อสารกันผิดพลาด อู๋ดันขับรถกลับมาที่ตลาดสดอีกเพื่อจะมาสมทบ
พวกผมออกจากตลาด เจออู๋สวนทางมา อยู่อีกฝั่งหนึ่ง เจ้าเนสโบกมือให้ก็ไม่เห็น ผมโทรหาก็ไม่รับ พอถึงตลาด อู๋ก็โทรมาหาผม ผมบอกออกมากันแล้ว คลาดกัน จึงตัดสินใจรออู๋ที่ทางขึ้นดอย
ระหว่างรอ เจ้าโยก็ถามขึ้นมาว่า แล้วถ่านสำหรับก่อไฟล่ะ เอามารึยัง เจ้าเนส เห้ย!! ออกมาดังๆ ลืมเอามาด้วย ปัญหาเกิด ก็ต้องคิดหาทางแก้ สุดท้ายก็ไปขอซื้อจากร้านขายของชำแถวๆทางขึ้นดอย เขาเอาไว้ย่างเนื้อขาย เนสมันก็ไปอ้อนวอนขอซื้อเขาจนได้ ก็จบปัญหาไป
พออู๋มาถึง เราก็มุ่งหน้าขึ้นดอยต่อ
ทางขึ้นอ่างขางมีอยู่สองทาง คือทางฝางที่เราขึ้นกัน กับทางเชียงดาว
ทางเส้นนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ถนนดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ความชัน ความโค้ง ยังโหดไม่เปลี่ยน เราถือโอกาสนี้มาลองถนนใหม่ด้วย
มาลองถนนใหม่
จากปากทาง แค่ 26 กิโลเมตร แต่พอมาได้ซักพัก เจอความโหดเข้าไป เกียร์ 1 ยังเอาไม่อยู่ วิ่งจนรอบหมด ผมกับเนสต้องใช้เท้ายันขึ้นไป ส่วนเจ้าเก่งที่แบกถังน้ำแข็งกับสัมภาระมาเต็มรถขึ้นไม่ไหว จนต้องวกกลับไปตั้งหลักเพื่อให้มีแรงส่ง
สวัสดีเจ้าถิ่น
สุดท้ายก็ถึงดอยอ่างขาง ข้างบนนี้ไม่มีที่พักให้ ทั้งรีสอร์ท บ้านพัก จุดกางเต๊นท์ โดนปิดหมด ยกเว้นตรงจุดชมวิวม่อนสน ที่อนุญาตให้กางเต๊นท์ได้
เมื่อพวกเราไปถึง มีเต๊นท์กางอยู่ก่อนแล้วสองเต๊นท์ หนึ่งในนั้นคือเจ้าของเพจที่ผมเห็นเขาโพสรูปดอยอ่างขาง จนเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้นั่นแหละ ชื่อเพจ "จ่าพาเที่ยว"
คืนนี้นอนนี่นะ
ทักทายจ่าไปนิดหน่อย ก็ลงไปจับจองที่กางเต๊นท์กัน จัดการเสร็จเรียบร้อย ปูเสื่อ เอาของออกมา เตรียมหั่นผัก หั่นหมู เจ้าเนสก็โพล่งขึ้นมาว่า "ลืมเอามีดมา!!!"
ทีนี้เจ้าโยก็บ่นใหญ่เลย หมอนี่เป็นขาบ่นประจำทริป บ่นได้ทุกเรื่อง สุดท้ายก็ได้มีดพกเอนกประสงค์เล็กๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นของโย หรือว่าของเนส แต่ก็พอแก้ขัดไปได้
พอเริ่มเตรียมของไปได้ซักพัก ซวยแล้ว!!! ฝนตก!!!
รีบเก็บของใส่ถังน้ำแข็ง วิ่งเข้าในร่มกันแทบไม่ทัน
ฝนตกมาเรื่อยๆ ตกแบบปรอยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ฟ้ามืดแล้ว คนก็เริ่มหิว ผมเลยคุยกับโยว่า ถ้าไม่หยุดจริงๆก็แผนสอง เอาหม้อสนามที่โยมันพกมาด้วย ต้มหมู ต้มผัก กับเตาสนามของผม ทำเป็นสุกี้ แบ่งกันกินคนละถ้วย จบ
แต่โชคยังไม่หมด รออยู่ประมาณสองชั่วโมง ฝนเริ่มซา ฟ้าเริ่มมีแสงดาว เราจึงออกมาก่อไฟปิ้งหมูกันต่อ
นั่งกินหมูกะทะ ชมวิวกันไป
นั่งกินหมูกะทะ ชมวิวยามค่ำคืนของตัวเมืองฝาง โดยมีเจ้าถิ่นมานั่งเฝ้าอยู่สามตัว เสวนากันพอหอมปากหอมคอ เริ่มจะทนอากาศเย็นไม่ไหว ก็แยกย้ายกันเข้าเต๊นท์นอน
จบวันที่หนึ่ง
=============
รุ่งเช้า ประมาณตีห้ากว่าๆ ผมได้ยินเสียงอู๋เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วแวะคุยกับใครซักคน ปรากฏว่าเป็นโย
เจ้าโยนอนในเต๊นท์ไม่ได้ เพราะโดนเสียงกรนของอู๋และเก่งกระหน่ำเข้าไป จนต้องหนีออกมาผูกเปลสนามนอนข้างนอก
ผมโผล่หัวออกจากเต๊นท์ที่เปียกโชก เพราะฝนตกมาอีกระลอกตอนตีสาม บรรยากาศภายนอกไม่ต่างอะไรกับฤดูหนาว หมอกปกคลุมเต็มไปหมด อากาศดีสุดๆ
บรรยากาศยามเช้า
ประมาณหกโมงกว่า เจ็ดโมง เนสกับเก่งยังไม่ตื่น ผม อู๋ และโย ชวนกันเดินขึ้นยอดดอยอ่างขาง
เดินขึ้นยอดอ่างขาง 600 กว่าเมตรเอง ชิลๆ
เจอความชันเข้าไป เริ่มจะไม่ชิลละ
ไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ดอกไม้ป่า ได้ฝนก็เริ่มผลิบาน
ระยะทางสู่ยอดดอยก็ไม่ได้ไกลมาก แค่ 600 กว่าเมตร ปกติก็เดินได้สบายๆ แต่เจอความชันของดอยอ่างขางเข้าไป เล่นเอาก้าวขาแทบไม่ออก อากาศก็เย็น เหงื่อโชกซะงั้น มันชันแบบว่าต้องก้มตัวคลานขึ้นไป เดินตรงๆไม่ได้ จะหงายหลังตกดอยเอา (ความจริงมันก็มีทางที่ไม่ชันอยู่นะอ้อมๆไป แต่ผมเดินตรงขึ้นมาเพราะใกล้กว่า)
กว่าจะถึงยอดได้แทบแย่ เหนื่อยสุดๆ โทรเรียกให้เนสเอาน้ำขึ้นมาให้ ซักพัก เจ้าเนสก็เดินแก้เสื้อดุ่มๆขึ้นมา ในมือถือน้ำสองขวด หอบแฮ่กๆ บอกว่า แก้เสื้อทิ้งตั้งแต่สามร้อยเมตรแรกแล้ว
แต่พอมาถึงก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ภาพที่เห็นสวยงามจนที่ไม่สามารถจะถ่ายทอดออกมาด้วยรูปถ่ายได้ ต้องไปสัมผัสด้วยตาตัวเอง (จริงๆแล้วถ่ายรูปห่วย)
ถึงยอดแล้ววววววว แทบตาย
ไอ่เนส ผู้เอาน้ำสองขวดขึ้นมาส่ง
ไอ่โย ผู้ที่บ่นได้ทุกเรื่อง
มีไอน้ำ มีแสงแดด ก็มีรุ้งกินน้ำ เพิ่งเคยเห็นรุ้งกินน้ำที่เกิดจากหมอกเป็นครั้งแรก มองด้วยตาสวยงามมากๆ
ต้นไม้ใบหญ้าชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน
เสพบรรยากาศกันประมาณสองชั่วโมงก็ตัดสินใจเดินลงยอด เพื่อมาเก็บเต๊นท์ จ่าพาเที่ยวหายไปแล้ว พวกเราต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรองท้องไปก่อน
เคลียร์ขยะ เก็บสัมภาระเสร็จ ก็หยิบหมวกกันน็อคเปียกๆใส่หัว เพราะเอารองน้ำฝนไว้ทั้งคืน แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับ
ขากลับเราใช้เส้นทางบ่อน้ำมันฝาง - แม่สรวย และมีออกนอกเส้นทางนิดๆ โดยตั้งใจจะไปกินข้างกลางวัน พร้อมจิบกาแฟที่ดอยช้าง แต่ผิดแผน เพราะหลังจากกินข้าวเสร็จ ฝนได้กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนทุกคนเปียกไปทั้งตัว เลยตัดสินใจมุ่งหน้ากลับ บ้านใครบ้านมัน
จบทริปหลงๆลืมๆ ทุลักทุเล แต่ก็มันส์ ได้ประสบการณ์ดีๆ
พบกันใหม่ทริปหน้าครับ
#ข้างทาง
โฆษณา