1 ก.ย. 2020 เวลา 09:07 • สิ่งแวดล้อม
"ลาก่อน… ลาก่อน… หัวใจข้าเหนื่อยล้า
เหมือนดังจะเอ่ยลาตลอดไป
สายลมพัดเอื่อย เหมือนมีดกรีดขั้วใจ
เปรียบใบไม้ ที่ร่วงโรยสู่ผืนดิน
ภาพฝันที่ข้าหวัง จะเห็นเจ้ากลับสดใส
หยัดยืน เป็นขุนผาและป่าเขา
รอวันนั้นหวนคืน จะสร้างวันให้เหมือนเก่า
ด้วยแรงใจที่มุ่งหวัง และศรัทธา
ด้วยรอยยิ้ม ที่ไร้คราบน้ำตา...
ทุกครั้งที่นึกถึงหรือพูดเรื่อง สืบ นาคะเเสถียร เพลง ภาพฝัน จะแล่นเข้ามาให้หัวทุกครั้งเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นโดยกลุ่มนักอนุรักษ์ ภายใต้ชื่อ วงเผ่าไท หลังจากเหตุการณ์การยิงตัวตายของคุณสืบเพื่อรำลึกถึงคุณสืบ
หากพูดถึงนักอนุรักษ์ในบ้านเรา คงไม่มีใครไม่รู้จัก สืบ นาคะเสถียร ตำนานนักอนุรักษ์ไทย ผู้ที่มีใจรักป่าไม้ ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี
สืบ นาคะเสถียร เปรียบเสมือนเชื้อไฟแรกแห่งการอนุรักษ์ที่ยอมเผาตัวเองเพื่อให้ไฟอนุรักษ์ยังคงอยู่ต่อไป หาก สืบ นาคะเสถียร มีชีวิตอยู่ตอนนี้ปีนี้เขาจะมีอายุ 71 ปี แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขาต้องจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 41 ปี
เเม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปกว่า 30 ปี แต่พอถึงวันที่ 1 กันยายน ของทุกปี ยังมีผู้คนจำนวนมากระลึกถึงเขาเสมอ
เมื่อเช้ามืดของวันที่ 1 กันยายน 2553 สืบ นาคะเสถียรได้ตัดสินใจยิงตัวตายเพื่อเรียกร้องต่อหน่วยงานและภาครัฐให้ใส่ใจต่อการอนุรักษ์ษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง หลังจากการตายของสืบในวันนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูง และผู้ที่เกี่ยวข้องมากมาย ได้ประชุมเพื่อหาทางออกในการป้องกันการบุกรุกป่าห้วยขาแข้ง
รวมไปถึงพยายามนำเสนอข้อมูลต่อยูเนสโก เพื่อพิจารณาให้ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก เพื่อสร้างเกราะป้องกันผืนป่าแห่งนี้ไว้ ขณะเดียวกันสืบเคยได้พยายามที่จะจัดประชุมเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล และไม่มีการตอบรับ จนกระทั่งเสียชีวิต จนมีคนกล่าวว่า “หากไม่มีเสียงปืนนัดนั้น การประชุมดังกล่าวก็คงไม่เกิดขึ้น”
ในวันที่ 1 กันยายน ปีนี้กว่า 30 ปีที่ สืบ นาคะเสถียรได้จุดตัวเองให้ลุกเป็นไฟเพื่อให้ไฟแห่งการอนุรักษ์ได้เริ่มต้นขึ้น เราทุกคนต้องช่วยเติบเชื้อไฟ อย่าให้เชื้อไฟแห่งการอนุรักษ์ต้องดับมอดลง
โฆษณา