4 ก.ย. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #คำพูดคือนายของเรา ]
ตั้งแต่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีอิสระในการรับงานใหม่ หลังจากพ้นกรอบเวลาเงื่อนไขที่ทำไว้กับสเปอร์ส
โปเช็ตติโน่ หรือ พอช แยกทางกับสเปอร์สตอนพฤศจิกายนปีก่อน โดยมีข้อผูกมัดที่ทำกันไว้ว่า ห้ามรับงานคุมทีมไหนจนกว่าจะครบกำหนด ไม่อย่างนั้นต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาเป็นการชดเชย
แต่ในขณะเดียวกันไก่เดือยทองก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างให้ให้ พอช ไปในระหว่างนั้นด้วย ถือเป็นการทำข้อตกลงกันเรียบร้อย
เรื่องราวในอดีตของ พอช กับสเปอร์สต้องยอมรับว่าหวานชื่นดูดดื่มกันมากกว่าขัดแย้ง นี่คือผู้จัดการทีมได้รับการยกย่องว่าดีมากที่สุดคนหนึ่งในรอบกึ่งศตวรรษหรือ 50 ปี
ไม่มีใครคิดว่าจะลงเอยเช่นนี้ แต่หากพิจารณาตามผลงานในช่วงดังกล่าวต้องยอมรับว่าทรุดหนักจริง หล่นไปอยู่อันดับ 14 บนตารางพรีเมียร์ลีก
พูดแบบเข้าใจง่ายขึ้นก็คือ มันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว พอช คุมมานาน 5 ปีเต็มด้วยกัน ไม่ได้ประสบความสำเร็จมีโทรฟี่มาประดับตู้โชว์เป็นรูปธรรมก็จริง แต่การค่อยๆสร้างทีมขึ้นมาตามแนวทาง จนเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจะเรียกว่าล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด
พอช ทั้งวางรากฐานและปลุกปั้นผู้เล่นหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มนักเตะอังกฤษ ที่ช่วยสนับสนุนทีมชาติได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นเวลาที่แยกทางกับไก่เดือยทองเรียบร้อย ชื่อของเขาจึงร้อนแรงในกลุ่มสโมสรใหญ่ที่อยากได้กุนซือมือดีไปกุมบังเหียน
บาร์เซโลน่าคือหนึ่งในนั้น เพราะกำลังเฟ้นหากุนซือสักคนที่มีสไตล์การทำทีมที่เข้ากับดีเอ็นเอของสโมสร เมื่อดูจากภาพกว้างๆแล้วก็ต้องบอกว่าเหมาะสมมาก
อย่างน้อยก็ดูดีกว่า เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ซึ่งดูตกยุค ไม่ล้ำสมัย ขาดความสดใหม่ตามคาแร็คเตอร์ของบาร์ซ่า
อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนอดีตดูจะรู้ว่า พอช มีร่องรอยความขัดแย้งไม่ลงรอยกับเจ้าบุญทุ่มแห่งกาตาลันอยู่
เมื่อปลายปีที่หลังจากตกงานไม่เท่าไร พอช ได้เปิดใจว่า หากจะรับคุมสโมสรใหม่แล้ว จะเลือกอย่างรอบคอบ โดยพยายามจะไม่ให้กระทบต่ออดีตที่เคยผ่านมาด้วย
สองทีมที่จะตกปากรับคำไม่ทำงานให้เด็ดขาดคืออาร์เซน่อล เพราะอย่างที่รับรู้กันนี่คือทีมอริของไก่เดือยทอง ชาตินี้ไม่มีทางญาติดีกันอย่างเด็ดขาด
5 ปีที่เดอะ เลน ช่วยหล่อหลอมให้ พอช เข้าใจเลยว่าดีกรีความเกลียดชังของทั้งสองทีม มันรุนแรงแค่ไหนและไม่สมควรอย่างมาก หากจะทรยศกองเชียร์สเปอร์ส เพื่อไปเป็นผู้จัดการทีมปืนโต
อีกทีมคือบาร์เซโลน่า ทั้งที่น่ามีความเหมาะสมลงตัว ถ้าจะตัดสินใจรับงานจริง
แต่เขาผูกพันกับเอสปันญ่อลเกินกว่าจะมาร่วมหัวจมท้ายกับบาร์ซ่าได้ ในเมื่อนี่คือทีมซึ่งเป็นศัตรูร่วมเมือง ซึ่งเคยกดขี่ข่มเหงกันมาตลอด
ไอ้นกแก้วเหมือนทีมรองบ่อนแห่งเมืองบาร์เซโลน่า แทบไม่มีใครมองเห็นด้วยซ้ำ พูดถึงทีมฟุตบอลแห่งเมืองหลวงของกาตาลัน ย่อมมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น
แต่ พอช ได้รับโอกาสและสิ่งดีๆมากมายในชีวิตจากการที่เอสปันญ่อลมอบให้มาตลอด เขารู้ซึ้งถึงบุญคุณนี้ดีและพร้อมจะตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์ภักดี
สมัยเป็นวัยรุ่น เขาเริ่มต้นเป็นนักเตะอาชีพกับนีเวลส์ โอลด์ บอยส์ ก่อนจะพัฒนารุดหน้า ก่อนเอาเอสปันญ่อลจะดึงมาร่วมในปี 1994
พอช รับใช้ทัพนกแก้วยาวนานถึง 7 ปี ลงเล่นทุกรายการถึง 254 นัด ทำไปได้ 12 ประตู จัดอยู่ในโหมดแข้งทรงคุณค่าอีกคน
จากนั้นย้ายมาเผชิญหน้าหาความท้าทายในลีกเอิงของฝรั่งเศส ปักหลักกับปารีส แซงต์ แชร์กแมงและบอร์กโดซ์รวมแล้ว 4 ปีด้วยกัน
แล้วในปี 2004 ก็หวนคืนสู่อ้อมกอดเอสปันญ่อลอีกครั้ง เป็นการยืมตัวก่อนในครั้งแรก ก่อนจะเซ็นสัญญาถาวร
เขารับใช้ไอ้นกแก้วทิ้งทวนอีก 2 ปี ก่อนตัดสินใจรีไทร์ที่นี่ ก่อนเลือกเดินทางสายโค้ช ไปศึกษาหาความรู้เพื่อให้ได้ใบอนุญาตหรือไลเซนส์
อีก 3 ปีถัดมาเขากลับมากุมบังเหียนเอสปันญ่อล ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอล
แม้จะเป็นสโมสรเล็กๆ เทียบไม่ได้เลยกับบาร์ซ่า แต่คุณค่าของความรู้สึกมันไม่อาจประเมิน สำหรับ พอช แล้วนี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องคว้าโทรฟี่หรือได้แชมป์อะไร
รวมแล้วกุนซืออาร์เจนไตน์ใช้ชีวิตทั้งในฐานะผู้เล่นและเทรนเนอร์ถึง 13 ปีด้วยกัน
มันมากพอที่จะทำให้เขาคิดว่า เอสปันญ่อลคือบ้านหลังที่สอง
หลังตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก โดนบาเยิร์น มิวนิคปูพรมถล่มหมดสภาพ บาร์เซโลน่าก็ตัดสินใจปลด กีเก้ เซเตียน พ้นจากตำแหน่งทันที แรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบอร์ดบริหารก็ช่วยอะไรไม่ได้
ไม่นานนักมีการเปิดเผยรายชื่อแคนดิเดตกุนซือคนใหม่จะมารับงานต่อ ชื่อของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โผล่มาเป็นเต็งหนึ่งอย่างเหมาะสมที่สุด
ประกอบกับมีข่าวว่าเขาได้ไปกินข้าวกับ โจเซป บาร์โตเมว ประธานสโมสรด้วย ข่าวลือเลยยิ่งรุนแรงเชี่ยวกรากเหลือเกิน ดูแล้วไม่น่าจะผิดไปจากนี้
แม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้ดินเนอร์อะไรเลย แต่เจอกับ บาร์โตเมว โดยบังเอิญ เพราะลูกต่างศึกษาที่โรงเรียนเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด
กระนั้นไม่มีใครสนใจนัก มันเป็นการบอกปัดตามเชิงเท่านั้นเอง เชื่อกันไปหมดแล้วว่า พอช เตรียมแต่งตัวรอก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือบาร์ซ่าคนใหม่
อย่างไรก็ตามมีการไปรื้อฟื้นคำพูดในอดีตของ พอช มาเปิดเผยอีกครั้ง มันยังคงดังก้องเด่นชัดเสมอว่าจะไม่คุมบาร์เซโลน่าเด็ดขาด มันเป็นไปไม่ได้เลย
แน่นอนนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่บอร์ดบริหารบาร์ซ่าตัดสินใจไม่เลือก พอช แล้วให้โอกาส โรนัลด์ คูมัน มาทำหน้าที่กุนซือคนใหม่ลุยสู้ศึกในฤดูกาลหน้าแทน
ก่อนจะแถลงอย่างเป็นทางการ ตอนนั้นพวกสื่อเริ่มได้กลิ่นบ้างแล้ว จัดการดัน คูมัน ขึ้นมาเต็งหนึ่งแทน ดูคุณสมบัติทุกอย่างแล้วเพียบพร้อมและเหมาะสมมากกว่า
แต่ พอช ก็เริ่มรู้ตัวแล้วเช่นกัน ตอนที่ยังเป็นแคนดิเดตนายใหญ่คนใหม่ของบาร์ซ่า เขาเริ่มเสียงอ่อย ยอมรับเคยพูดอย่างนั้นจริงว่าไม่มีวันมาคุมบาร์เซโลน่า ทว่าไม่มีทางรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
ท่าทีที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ พอจะเดาได้ไม่ยากว่า โปเช็ตติโน่ ปรารถนาจะเป็นคุมทัพอาซูลกราน่าจริงๆ
แล้วอย่างที่บอกเขาหลุดจากพันธะสัญญาที่ทำไว้กับสเปอร์สตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร ทางเปิดกว้างโล่งสะดวกดีเหลือเกิน
แม้จะไหวตัวทันออกมาพูดแก้ต่าง แต่มันสายเกินไปแล้ว บาร์ซ่าเลือก คูมัน เป็นกุนซือคนใหม่ ซึ่งว่ากันตามฝีมือหรือสไตล์การเล่นแล้ว ไม่ได้เหนือไปกว่า พอช เลย
อย่างไรก็ตามความได้เปรียบที่เคยเป็นนักเตะ ประสบความสำเร็จในอดีตอย่างงดงาม แถมแสดงแพสชั่นว่าต้องการงานนี้ เลยเบียดเข้าวินอย่างหวุดหวิด ปล่อยให้ พอช ได้แต่มองตาปริบๆผิดหวัง
ถึงตอนนี้ พอช ยังคงว่างงานต่อไปและไม่ผิดเลยหากยังมีความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้คุมบาร์ซ่าตกค้างอยู่
"ผมคิดว่าคำพูดเหล่านั้นทำให้แฟนบาร์ซ่าลังเลใจ มันเป็นเรื่องปกติผมเข้าใจได้ แต่ไม่ได้มีข้อเสนอที่จริงจังมาจากพวกเขา"
"ยอมรับว่าผมคิดผิดที่พูดออกไป จริงๆไม่ได้อยากจะสื่อแบบนั้น มันเป็นการพูดเกินจริงและยังไม่เคลียร์อีกต่างหาก"
นี่คือบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ พอช มันชัดเจนเลยว่าเขารู้สึกผิดกับคำพูดในอดีต ซึ่งพอจะเข้าใจได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้ไม่ได้งานใหญ่ที่อาจสำคัญสุดครั้งหนึ่งในชีวิต
แต่คำพูดคือนายของเรา เมื่อมันออกไปสู่สาธารณะแล้ว ไม่มีทางกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก
กว่าจะเข้าใจในข้อผิดพลาด มันก็สายเกินไปแล้ว
บทความย้อนหลังที่น่าสนใจ
[ #หัวใจดวงนี้ที่น่ากราบ ] : หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนเลยว่า ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ไม่ได้อยากเป็นนักเตะอาชีพ แต่ตั้งเป้าอยากเป็นนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จ นี่คือกีฬาที่หลงรักมากสุดอย่างไรก็ตามหลังพี่สาวประสบอุบัติเหตุ เขาเปลี่ยนใจเลือกมาเล่นฟุตบอล ด้วยเป้าหมายเดียวคือหาเงินให้มากเพื่อมาเป็นค่ารักษาก่อนประสบความสำเร็จบนเส้นทางลูกหนังอย่างน่าภาคภูมิ กลายเป็นตำนานของทีมชาติอุรุกวัยทิ้งสิ่งที่รัก เพื่อคนที่รัก จนได้รับเกียรติยศแห่งชีวิตนี่แหล่ะคือ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
[ ทำไม"ดอนนี่"เลือกมาผี? ] : แม้ดูเหมือนว่ายูไนเต็ดใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน ในการเจรจากับ ฟาน เดอ เบ็ค แต่เบื้องหลังแล้วต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อปิดดีล ปัจจัยที่ทำให้นักเตะตัดสินใจเลือกมาปีศาจแดงนั้น มีหลายอย่างเลยทีเดียว โดยเฉพาะประเด็นมองเห็นอนาคตสดใสและความยิ่งใหญ่ที่รออยู่ ที่น่าสนใจคือเขาเกือบมาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้วด้วยซ้ำ
[ #ต้องยอมถอยคนละก้าว ] : จนถึงตรงนี้ยังไม่อาจหาบทสรุปได้ เรื่องราวระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับบาร์เซโลน่าจะจบลงอย่างไร ประเมินแล้วหากจะให้ได้ผลดีเป็นประโยชน์กับสองฝ่ายมากสุดต้องถอยคนละก้าว มานั่งไกล่เกลี่ยหาทางออกเหมาะสม รวมทั้งน่าพอใจสุดตามเงื่อนไขที่พอเป็นไปได้นึกภาพ เมสซี่ ได้ย้ายตามความต้องการและบาร์ซ่าไม่ได้เสียหายอะไรมากมายดู มันพอจะมีหนทางอย่างว่าบ้างหรือเปล่า?
[ #เลือกใช้คนให้ถูกงาน ] : ถ้าดูจากประวัติการศึกษาหรือโปรไฟล์ต่างๆ เราต้องยอมรับในความสามารถของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารแมนฯยูไนเต็ดคนปัจจุบันอย่างไรก็ตาม วู้ดเวิร์ด โดนตั้งคำถามว่า นอกจากเรื่องการเงินและตัวเลขต่างๆแล้ว เขามีความรู้เรื่องฟุตบอลมากแค่ไหนกัน?ผู้จัดการทีมที่เคยร่วมงานมาอย่าง เดวิด มอยส์ หรือ หลุยส์ ฟานกัล ล้วนแต่มีประสบการณ์ตรงทั้งสิ้น จนเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของ วู้ดเวิร์ด อย่างดี
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา