4 ก.ย. 2020 เวลา 14:21 • นิยาย เรื่องสั้น
"เนโท" หนุ่มพม่าหวิดแขนขาด
และการลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่ขออนุญาติ
เรื่องเล่าเม้าท์ในครัว
ตอน...ซีรี่ส์เพื่อนสาวชาวพม่าEP12
เรื่องราวของแรงงานพม่าในจังหวัดภูเก็ต
อ่านต่อ...
...ถึงคุณผู้อ่านที่รัก...
ความเดิมตอนที่แล้ว
กดดูที่ลิงค์ด้านล่างนะคะ
ตอนเช้า ณ เมืองภูเก็ต
บรรยากาศตอนเช้าในเมืองภูเก็ต
ฉันคิดว่าไม่เหมือนต่างจังหวัดที่อื่นแน่ๆ
โรงเรียนสอนทำอาหารที่ทำงานของฉัน
เริ่มการทำงาน 8 โมงเช้า ดังนั้น
ฉันอาจจะต้องออกจากที่พักประมาณ 7 โมง
การออกจากบ้านในเวลานี้ เป็นเวลาที่เหมาะที่สุด ถึงแม้ว่าคอนโดที่ฉันอาศัยอยู่
จะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงเรียนก็ตาม
เพราะถ้าฉันออกจากที่พักช้ากว่านี้
บรรยากาศในท้องถนนนั้น
แทบจะไม่ต่างอะไรจากกรุงเทพฯเลย
แต่ก็มีหลายอย่างที่ฉันเห็นแล้ว
ฉันคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ที่เห็นได้ในเฉพาะภูเก็ต
ที่อยากเอามาเล่าให้คุณอ่าน
ที่ภูเก็ตจะมี "รถโพถ้อง"
รถโพถ้อง เป็นรถโดยสารสองแถว
ที่ไม่มีประตูฝั่งคนขับและฝั่งนั่งใกล้คนขับ
ฉันก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า...
'ทำไมรถโพถ้องถึงไม่ทำประตูให้มิดชิด'
ตอนเช้ารถโพถ้องจะมีผู้โดยสารแน่นขนัด
ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะเป็นแรงงานชาวพม่า
ที่ต่างเดินทางไปทำงานตามที่ต่างๆ
คนภูเก็ตจะนิยมมีพาหนะเป็นของตัวเอง
และถ้าใครทำงานโรงแรมหรือบริษัทใหญ่ๆ
ก็จะมีรถพนักงานบริการรับ-ส่งตามเวลา
ฉันเคยใช้บริการรถโพถ้องหลายครั้ง
ฉันเคยเห็นหนุ่มพม่าปากแดง จากการเคี้ยวหมาก
ยืนอยู่ท้ายรถ สาวๆพม่าทาทานาคาลวดลายต่างๆ
ในมือพวกเธอ จะถือปิ่นโตอาหารกลางวันมาด้วย
บางคนมีลูกเล็กๆอุ้มนั่งตัก พวกเค้าจะคุยกันบนรถ
ด้วยภาษาพม่าที่ฉันฟังไม่เข้าใจ
แต่ก็มีแรงงานพม่าจำนวนไม่น้อย
ที่มีพาหนะเป็นของตัวเอง ซึ่งรถที่พวกเขาใช้
จะเป็นมอเตอร์ไซค์ เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อ
และการเติมน้ำมันไม่สูงมาก
ค่ารถโดยสารประจำทางในภูเก็ตนั้น
ฉันคิดว่า...แพงเอาเรื่องเลย!
"อ่องเยลิน" เป็นสามีของซานดา
เขาเป็นหนุ่มพม่าวัยประมาณ 30 ต้นๆ
รูปร่างเล็กสันทัด และนิยมเคี้ยวหมาก
ฉันจะเห็นริมฝีปากของเขา มีสีแดงอยู่ตลอดเวลา
ทุกๆเช้าเขาจะขับรถมอเตอร์ไซค์
มาส่งซานดาที่หน้าโรงเรียนสอนทำอาหาร
อ่องเยลิน เป็นลูกจ้างเรือประมงที่เกาะสิเหร่
'เกาะสิเหร่' จะเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ห่างจากตัวเมือง
เพียง 4 กิโลเมตร และเป็นเกาะชาวเลเก่าแก่
ของภูเก็ต เรือประมงที่นี่จะเป็นเรือประมงลำเล็ก
สำหรับหาปลาไป-กลับ ไม่ได้ไปรอนแรมค้างคืน
เหมือนเรือประมงลำใหญ่
มะฮาย เช่าห้องพักอยู่ใกล้ๆที่โรงเรียน
เธอจึงเดินมาทำงานใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง
ส่วนพนักงานคนไทยคนอื่นๆ
ก็จะมีพาหนะเป็นของตัวเอง
บ่ายวันหนึ่งที่โรงเรียนสอนทำอาหาร
ฉันเห็นคุณนัทนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ท่าทางมี
ความกังวลและร้อนใจกับการคุยโทรศัพท์
เพื่อนนักธุรกิจของเธอได้โทรมาหา
เพื่อปรึกษาปัญหาบางอย่างที่น่าจะเป็นปัญหา
ที่ค่อนข้างเครียดพอสมควร
เมื่อคุณนัทวางหูโทรศัพท์ลง
เธอก็ได้เล่าให้ฟังว่า...
มีแรงงานชายชาวพม่าคนหนึ่งชื่อ" เนโท"
เป็นพนักงานโรงงานของเพื่อนสาวเธอ
เกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักรดูดแขนเสื้อ แรงดูดของเครื่องจักร ทำให้แขนของเขาติดไปด้วย
พนักงานชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส
จนต้องนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
และอาจจะสาหัสจนถึงขั้นต้องตัดแขน
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากพนักงานคนนั้น
ประมาทเลินเล่อ ไม่ใช่ชุดคลุมตามกฎของโรงงาน
และปัญหาที่สำคัญมากๆอีกปัญหาหนึ่งคือ
"พนักงานคนดังกล่าวยังไม่ได้ทำบัตร
ขออนุญาติเข้าทำงาน"
pixabay
(ตายล่ะหว่า...ฉันคิด)
เมื่อยังไม่มีบัตรเข้าทำงาน ปัญหาหลายๆอย่างก็ตามมา ได้แก่
1. เนโท ไม่มีสิทธิ์ประกันสังคมของ
แรงงานต่างด้าวและไม่มีประกันสุขภาพ
2. นายจ้างอาจจจะต้องเสียค่ารักษา
พยาบาลทั้งหมดให้ลูกจ้างของตัวเอง
ซึ่งค่ารักษาพยาบาลของเนโท
ก็น่าจะใช้เงินมากพอสมควร
เพราะถ้าเจ้านายของเขาไม่จ่ายให้
ฉันคิดว่า เนโทก็ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นแน่ๆ
เพราะเขาเพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน
3. การไม่ทำบัตรขออนุญาติเข้าทำงาน
ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายต้องเสียค่าปรับ
ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
เมื่อคุณนัทเล่าให้ฉันฟัง
ฉันก็รู้สึกเห็นใจเนโทเพราะกลัวว่า
'แขนของเขานั้นจะถูกตัด'
จึงได้คอยติดตามถามข่าวจากคุณนัททุกวัน
ที่ฉันสนใจเรื่ิองนี้
ก็เพราะว่าฉันเคยมีประสบการณ์
การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในห้องครัว
ที่สิงคโปร์มาก่อน แต่ฉันไปทำงานโดยถูกต้อง
ตามกฎหมายทุกอย่าง
ถึงอย่างไร การเกิดอุบัติเหตุของฉัน
ก็สร้างความยุ่งยากมากมาย
เพราะตำรวจสิงคโปร์หลายนาย
ได้เดินทางมาหาฉันที่โรงพยาบาล
เพื่อสืบหาต้นตออุบัติเหตุให้แน่ใจว่า
ฉันไม่ได้ถูกใครทำร้ายร่างกาย
และฉันเข้ามาทำงานโดยถูกต้อง
ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็แพงมาก
แต่บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
หลายอาทิตย์ต่อมา
คุณนัทเล่าให้ฟังว่า...
"เนโท"ได้รับการรักษาทันท่วงที
แขนของเขาแม้จะบาดเจ็บสาหัส
แต่ก็ไม่ถึงขั้นถูกตัดแขน
เจ้านายของเขาออกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ให้เนโทจนกว่าจะรักษาตัวหายดี
ส่วนเรื่องไม่ทำบัตรขออนุญาตินั้น...
เจ้านายของเนโทสามารถแก้ไขปัญหา
ได้ด้วยตัวเอง โดยขอความช่วยเหลือ
จากใครคนหนึ่ง ซึ่งฉันก็ไม่สามารถ
ทราบรายละเอียดตรงนี้ได้จริงๆ
ฉันรู้สึกโล่งใจไปกับเนโท
ด้วยความเข้าใจในหัวอกของการ
"เป็นแรงงานต่างด้าวเหมือนกัน"
หลายวันต่อมา
ฉันได้โทรหาจุ๊บแจง เพื่อจะถามเธอว่า...
"ไปเดทกับหนุ่มตาน้ำข้าวมา เป็นอย่างไรบ้าง"
ก่อนหน้านั้นฉันก็ยุ่งๆเพราะมีนักเรียน
มาเรียนทำอาหารหลายคน
และต้องทำขนมขายด้วย
ไหนจะเอาเวลาไปเผือก
เรื่องของพ่อหนุ่มพม่านั่นอีก
หลังจากถามไถ่ก็ได้ความว่า...
เธอได้ออกไปเจอผู้ชายต่างชาติ คนนั้นจริงๆ
ที่ร้านอาหารไทยในหาดป่าตอง
เดทแรกนัดพบ ก็ประทับใจกันและกันมาก
...แต่เธอก็มีความสุขและอารมณ์ดีได้ไม่นาน...
ความสัมพันธ์กับแม่ที่เริ่มจะดีขึ้น
จากการที่เธอคอยดูแม่ที่กำลังป่วย
ไม่ออกไปเที่ยวเตร่ยามราตรีมาได้พักใหญ่ๆ
ตอนนี้สามวันดีสี่วันทะเลาะกัน
'เธอได้ใส่ชุดเดสสีดำ เปลือยแผ่นหลัง
โชว์รอยสักมังกรตัวใหญ่ ไปเที่ยวป่าตองอีกแล้ว'
...😆😆ถ้าชอบเรื่องนี้ช่วยกดถูกใจ❤
ถ้าไม่ชอบก็กดร้องไห้😭
ถ้าชอบมากๆกดแชร์ให้ด้วยนะคะ😂😂
โปรดติดตามตอนต่อไป
"มดดี้"
ความเดิมตอนที่แล้ว
เรื่องราวทั้งหมด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา