5 ก.ย. 2020 เวลา 00:30 • กีฬา
"Alleskönner" - a player who can do everything
แปลตรงๆตัวว่า ผู้เล่นที่สามารถทำได้ทุกอย่าง นั่นคือคำจำกัดความจากบรรดาสื่อมวลชนกีฬาในเยอรมันใช้เรียกหนึ่งในยอดนักเตะในเวทีบุนเดสลีกาที่ชื่อว่า Kai Havertz
หลังจากที่มีข่าวว่าเจ้าตัวขอแยกตัวจากแคมป์เก็บตัวของทีมชาติเยอรมันเมื่อวันก่อน อดีตดาวเตะจากร้านห้างยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก็ได้ชักภาพเปิดตัวเป็นสมาชิกใหม่ของพลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
สรุปค่าตัวของฮาแวร์ตซ์อยู่ที่ 71 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวจากไปพร้อมทิ้งสถิติ 36 ประตู 25 แอสซิสต์ จาก 118 นัดในเวทีบุนเดสลีกาเยอรมันเอาไว้กับเลเวอร์คูเซน
photo : thesun.co.uk
ฮาร์แวร์ตซ์เป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุกและกองหน้าตัวริมเส้นด้านข้าง เจ้าตัวเซ้นสัญญาเข้าร่วมทีมเยาวชนของห้างยาตั้งแต่ปี 2010 เมื่ออายุได้ 11 ปี และลงสนามเปิดตัวกับชุดใหญ่ของเลเวอร์คูเซนเมื่อฤดูกาล 2016/17
ปัจจุบันเขาอายุ 21 ปี ฝีเท้าของเขาพัฒนาขึ้นอย่างน่าทึ่ง เป็นนักเตะที่มีเทคนิคสูง สามารถเล่นลูกหัวได้ดี และใช้งานได้ดีทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ซึ่งเจ้าตัวเคยถูกเปรียบเทียบว่ามีสไตล์การเล่นที่ละม้ายคล้ายคลึงกับสตาร์ทีมชาติเยอรมันอย่าง เมซุต โอซิล ชนิดเหมือนอย่างกับแกะ
และสิ่งเหล่านั้นเองเตะตาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด อย่างจัง ทำให้ต้องทุบกระปุกเสี่ยหมีเพื่อกระชากนักเตะรายนี้เข้าร่วมทีม
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านเกมรุกของแฟรงค์ แลมพาร์ด ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว สามารถเจาะประตูคู่แข่งได้ถึง 69 ประตู สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก เป็นรองเพียงแค่แมนซิตี้ กับ ลิเวอร์พูลทีมแชมป์ เท่านั้น
ด้วยสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมบุกเป็นหลักของแลมพาร์ดการเข้ามาของฮาแวร์ตซ์จึงถือว่าเป็นการเสริมทีมทำให้ทีมมีเมรุกที่ดุดันมากขึ้น ราวกับจับเสือมาติดปีกกันเลยทีเดียว
photo : ruiksports.com
ซึ่งก่อนหน้านี้สโมสรได้ตัว ฮาคิม ซิเย็ค และ ติโม แวร์เนอร์ มาก่อนแล้ว เปลี่ยนโฉมแนวรุกของเชลซีชนิดล้างบางกันไปเลย
ข้ามไปดูผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆบ้าง ในแดนกลางยังมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ อยู่กับทีม พูลิซิช ผลงานแจ่มขึ้นในช่วงท้ายฤดูกาลน่าจะได้เป็นตัวหลักต่อ แผงหลังเสริมทีมโดยแบ็คซ้ายฟอร์มดี เบน ชิลเวลล์ และเติมแข้งประสบการณ์อย่า ธิอาโก ซิลวา ซึ่งเชลซียังไม่หยุดเสริมทัพ ยังคงมีข่าวหนาหูที่จะเซ็นสัญญาเพิ่มกับผู้รักษาประตูมือดีอีกซักคน
ขุมกำลังของเชลซีถือว่าแข็งแกร่งน่าดูเลยทีเดียว บวกกับสไตล์การเล่นเกมบุกเป็นหลัก เล่นเกมเร็ว เปิดหน้าแลกตลอด แค่พูดก็ขนลุกแล้ว
ถึงซีซัน 2020/21 เชลซีจะถูกมองว่าเป็นเพียงเต็งสามในการคว้าแชมป์ แต่เชื่อเหลือเกินว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด และลูกทีมไม่ได้หวังเพียงแค่นั้นอย่างแน่นอน
ริบิ้นผูกถ้วยพรีเมียร์ลีกในเดือนพฤษภาคมปีหน้าอาจจะเป็นสีน้ำเงินอีกครั้ง....ก็เป็นได้
โฆษณา