ทริปวันสงกรานต์
สวัสดีวันหยุดพิเศษครับ เป็นปีแรกเลยนะที่หยุดส่งกรานต์เดือนเก้า ก็แปลกๆ อยู่เหมือนกัน ที่ต่างจากสงกรานต์ของทุกปีก็คือไม่มีงานรื่นเริงไม่มีเล่นน้ำที่สำคัญ “ไม่มีเงิน” ฮาฮาฮา
วันหยุดทั้งที่ ก็ต้องพักผ่อน หาอะไรพิเศษๆ ทำจริงมั๊ยครับ สำหรับการไปท่องเที่ยวนั้น ผม คงเว้นไว้สักระยะ ด้วยปัจจัยอะไรๆ หลายอย่าง แต่การท่องเที่ยวพักผ่อนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเดินทางไปไหนไกลอย่างเดียวนิ จริงมั๊ยครับ
เช้าวันใหม่ ณ บ้านสวน บรรยากาศเย็นสดชื่น พร้อมกับ สีชมพูสดใสของ “ดอกพวง ชมพู” ริมรั้ว ที่สดชื่นเต็มที่ หลังจากที่ฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา
สดชื่นดี น้ำฝนยังเกาะอยู่เลยครับ
ขณะที่ผมถ่ายภาพนี้เป็นเวลาราวๆ 06.30 น. ผมล้างหน้า ล้างตาเสร็จ ก็มานั่งรอหน้าบ้าน เพื่อใส่บาตรก่อน โชคดีตรงที่ หน้าบ้านมีพระผ่านทุกเช้าเลย
พร้อม
มาแล้วๆ
ระหว่างนั่งรอพระอยู่บนถนนหน้าบ้าน ผมก็ต้องสะดุ้งโหยงๆ ด้วยความตกใจเพราะว่าจู่ๆ เหมือนมีอะไรมากัดที่ขา แว๊ปแรก “งูกัด” ผมกระโดดออกจากที่นั่ง ขนมไปทาง คนไปทาง
พอหันกลับมา ก็ถึงบางอ้อ!! มันไม่ใช่งูแต่เป็น “ปู” ยืนอ้าก้าม เตรียม งับ ผมอีกรอบอยู่ เง็บๆ
“โอ้ยน้อ” มานั่งรอใส่บาตร แต่ดันมาขวางทางเดิน ปู เคยแต่เล่นปูไต่ แต่นี่ปูหนีบ ตกใจแทบแย่!! ผมจึงต้องขยับให้ท่านเดินผ่านไป จึงจะสงบลงได้
แอบมางับขาเรา
หลังจากเสร็จกิจของสงฆ์แล้ว ผมรองท้องก่อนด้วย “ไข่ ตับ ข้าว” ตามที่เห็น ผมถือ ว่า สำคัญมาก ข้าวเช้าต้องกิน ห้ามพลาด
กินข้าวไปดู กระต่ายไป เพลินดีครับ เจ้าสองตัวนี้ ผมตั้งชื่อมันว่า “แป๊ปซี่” กับ “แฟนต้า” พอผมเรียกมัน มันก็ไม่หันหรอกครับ
นอกจากจะเอาแตงกวาไปให้ มันก็จะวิ่งมารับ แบบ กล้วๆ หน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นตัวประกอบ ที่ทำให้ได้บรรยากาศเลยทีเดียว
วันนี้เราจะตั้งแคมป์กัน ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ ข้างบ้านนี่ล่ะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง หากเราคิดว่าบรรยากาศมันคือ ทับเบิก มันก็จะกลายเป็น ทับเบิก ตามที่เราตั้งใจนั่นเอง
เริ่มกันที่ โต๊ะ เก้าอี้ พัดลม และ เครื่องเสียง เครื่องดื่ม แหม่ๆ พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม ซะอีก
จะว่าไปแล้ว กว่าจะจัดสถานที่เสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงพอดี วันนี้ได้“ใส้ปลาช่อน” มาครึ่ง กก.
มาว่ากันถึงที่มาที่ไปก่อน ของแบบนี้ ใช่ว่านึกอยากกิน ก็ไปตลาดซื้อมาเลยนะครับ เพราะปลาช่อน 1 ตัว มีใส่เพียง 1 ใส้เท่านั้น
ดังนั้น ที่ได้ผมน่ะ ผมจองเค้าไว้ล่วงหน้าแล้ว ใส้นี้มาจากไหน คำตอบ คือ ปลาช่อน เลี้ยง นี่ล่ะครับ ตัวมันเค้าแยกไปทำตากแห้ง ใส้แยกขายสด เป็นการเพิ่มมูลค่าของ ปลานั่นเอง สำหรับราคา ผมขออุบไว้จะดีกว่าครับ
ใส้ปลาพร้อม
เริ่มที่การทำความสะอาด “ใส้ปลาช่อน” กันก่อน ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับ ว่าผมทำ ตามแบบของผมเอง อาจผิดเพี้ยนไปจากสูตรที่มีอยู่บ้างก็ต้องขออภัย จัดการล้างใส้ ปลาด้วยน้ำผ่าน 2-3 รอบ แล้วปิดท้ายด้วย น้ำโซดา เพื่อให้เมือกต่างๆ ออกไปด้วย
เครื่องปรุง ประกอบด้วย พริก หอมแดง กระเทียม ตำพอหยาบๆ สำหรับผัก ประกอบด้วย ต้นหอม ผักชีลาว ผักอีตู่ (โหระพา) และ ตะไคร้บุบ เป็นอันว่าครบ
จัดการตั้งเตา (ยังไม่ต้องเปิดแก๊สนะ) วางหม้อน้อยลงไป ตามลงด้วย “ใส้ปลาช่อน” ตะไคร้ เครื่องปรุง และ ปิดท้ายด้วย ผัก ทั้งหมด
ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า เล็กน้อยก่อน และ เปิดแก๊ส เบาๆ ปิดฝาไว้
รอสักพัก น้ำที่อยู่ ในใส้ ในผัก และ เครื่องปรุง จะออกมา เปิดฝาชิมดู ปรุงเพิ่มด้วย น้ำปลาร้า และ น้ำปลาเล็กน้อย
ตั้งไฟไว้อีกแปป เป็นอันพอนะครับ อย่าต้มไว้นาน ใส้ปลามันจะเละไม่น่ากิน
รสชาติหรอครับ ขมอำล่ำ น้ำซุปมันย่อง จากมันปลา ซดร้อนๆ แซบคักคับ
มีไข่ปลาติดมาด้วย
เมนูถัดมาเป็น ใส้อ่อนทอดกรอบ ที่เห็น คือ ผมนำใส้อ่อนมาล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ จัดการต้มให้สุก
แล้วจึงหมักด้วย กระเทียม พริกไทย ซอสหอยนารม น้ำปลา และ น้ำตาลปีปเล็กน้อย ไว้ก่อน ดังนั้น ไว้ใจได้ ทอด เบาๆ ก็สุก
ใช้ไฟอ่อนๆ ทอดให้เหลือง ผมหันไปผสม น้ำลำใย แป๊ปเดียว พอหันกลับมา อ่าว!!! ดำซะแล้ว ฮาฮาฮา แต่ก็กินได้ครับ ไม่เป็นไร
รายการสุดท้ายนี่ เป็นเมนูเก็บตก คือ มีไก่ย่างวิเชียร เหลืออยู่สองสามชิ้น จัดแจง ฉีกๆ ออกจากกัน เอาไปทอดใหม่ ทอดมันทั้งกระดูก และ เนื้อนั่นล่ะ ผลที่ได้ออกมาก็ คือ ความกรอบ กินได้ทั้งกระดูก เลยครับ
ทานคู่กับส้มตำ ที่ได้จากมะละกอสด มาจากข้างบ้าน แหม่!!! เข้ากันอีกแล้ว
สำหรับวันนี้ มีหลายเมนู และ ยาวหน่อย ก็ต้องขออภัยนะครับ
แต่ก็ถือว่าผมได้ออกมาตั้งแคมป์แล้ว สนุกไปอีกแบบ สำหรับวันนี้ ก็ต้องขอลาไป เพียงเท่านี้ อาหารพร้อม เต็นท์พร้อม คืนนี้จะเล่นรอบกองไฟกัน
พร้อมนอนครับ
สวัสดีครับ
พิลา
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
