6 ก.ย. 2020 เวลา 23:09 • ปรัชญา
รวมคน..สร้างองค์กร
"WHEN ALL WALK TOGETHER"
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงขององค์กรชั้นนำแห่งหนึ่ง ที่กำลังมีอนาคตอันสดใส เขาตั้งใจทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เข้าตากรรมการ หอบงานกลับมาทำที่บ้าน เต็มกระเป๋าใหญ่ทุกวัน ไม่เว้นแม้วันหยุด
ลูกสาวตัวน้อยวัยแค่สี่ห้าขวบกำลังน่ารัก ยืนเฝ้าคอยหน้าประตูห้อง หนูน้อยอยากจะใกล้ชิดกับพ่อด้วยการขอให้พ่อมาเล่นและให้เวลากับเธอบ้างสักนิด
แต่ด้วยยังมีความใจจดจ่อกับงานที่ต้องเร่งรีบทำให้สำเร็จ เขาจึงบอกปฏิเสธลูกสาวไปว่า
"คงไม่ได้นะลูก พ่อยังมีงานต้องทำอีกมากมาย งานของพ่อยังทำไม่ค่อยทัน ตามหลังคนอื่นๆอยู่เลยนะลูก เขาส่งกันหมดแล้ว..เดี๋ยวพ่อทำงานเสร็จช้านะ..เอาไว้วันหน้านะลูก"
ลูกสาวตัวน้อย มองด้วยนัยตาใส ในสมองของหนูน้อย ฟังพ่อพูดแล้ว คงคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร..เลย จึงบอกพ่อว่า
"เวลาหนูทำงานช้าตามหลังเพื่อนๆที่โรงเรียน คุณครูเขาจับให้หนูไปอยู่ในกลุ่มที่ช้าด้วยกัน ก็ทำกันได้พอๆกัน ทำไมเขาไม่จับให้พ่อไปอยู่ในกลุ่มทำงานช้าๆเหมือนหนูละคะ"
พ่อเริ่มรู้สึกรำคาญ..จึงรีบตัดบท
"ที่ทำงานกับที่โรงเรียนมันไม่เหมือนกันนะลูก"
และไม่อยากจะเสียเวลาอธิบายกับลูกสาว ที่คงไม่เข้าใจ ว่ามันมีผลต่อการเลื่อนตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของพ่อในเวลาอันใกล้นี้แล้ว
เลยหยิบหนังสือวารสารของหน่วยงานที่เป็นรูปตัวตึกอาคารสำนักงานที่โอ่อ่าสง่างามใหญ่โต ออกมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ได้สักประมาณ 20ชิ้นด้วยกัน
เพื่อให้ลูกสาวตัวน้อยไปต่อภาพแต่ละชิ้นให้เป็นภาพตัวอาคารที่มีความซับซ้อนพอสมควร ตามรูปเดิม
และคิดว่าการต่อแต่ละชิ้นจนเป็นภาพตึกนั้น คงใช้เวลานานเป็นชั่วโมงแน่ จะได้มีเวลาทำงานอย่างอิสระ หวังว่าลูกน้อยจะไม่มารบกวนอีก
"ลูกลองเอาไปต่อ ภาพตึกนี้ให้ได้นะลูก แล้วพ่อจะมาเล่นกับลูกนะ หลังจากที่ลูกต่อภาพได้สำเร็จนะ"
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มต้นนั่งทำงาน ต่อไปอย่างเร่งรีบ แต่เพียงแค่ประมาณ 5-6นาที หนูน้อย ก็มาบอกว่า
"พ่อขาหนูต่อเสร็จแล้ว คะ"
เขาคิดว่าลูกสาวมากวนใจอีกแล้ว คงไม่ได้ตั้งใจต่อให้เสร็จจริงๆ
แต่เมื่อสายตาเหลือบไปมองเห็นกระดาษที่ต่อกันวางอยู่ตรงพื้นนั้น เขาต้องตกตะลึงมากที่เห็นภาพอาคารสำนักงานนั้นตั้งตระหง่านครบเต็มภาพจากการต่อทุกชิ้น จึงอุทานออกมาว่า
"ลูกทำได้ยังไง ...รวดเร็วขนาดนี้..ช่างมหัศจรรย์ยอดเยี่ยมมากจริงๆนะลูก"
สาวน้อยฉีกยิ้มแก้มบานอย่างมีความสุข ที่พ่อชมเชย..และภูมิใจมาก
"ไม่ยากเลยคะพ่อ...อีกด้านหนึ่งของภาพตึกนั้นเป็นรูปหน้าคน หนูก็เอาคนมารวมกันก็เสร็จ ..แล้วก็พลิกกลับด้านมา ก็เป็นตึกของพ่อไงละคะ"
พ่ออึ้งในคำตอบของลูกน้อย และก็ได้คิดว่า ตนเองก็เช่นกันที่ควรให้ความสนใจ ในการต่อเชื่อมให้คนทุกคนมารวมร่วมกันให้ได้
องค์กร..ก็จะเกิดขึ้นได้อย่างสง่างาม
เมื่อใดที่เราให้เกียรติ์ให้ความเคารพต่อทุกคนอย่างรู้คุณค่าและวางตัวให้น่าเคารพ..ภาพของความเจริญมั่นคงยั่งยืนขององค์กรก็จะเกิดตามมา
จากบทเรียนของลูกสาวตัวน้อย ทำให้เขาตระหนักชัดเจนในใจว่า "การเป็นผู้นำนั้น คือการที่ต้องมีความรู้สึกถึงศักดิ์ศรีที่สง่างามของคนรอบข้าง..และความสง่างามของตนเองเป็นสำคัญ"
ด้วยการวางตัว..ให้....
"ความเป็นธรรมอย่างยุติธรรม..กับทุกคน
ซื่อตรงจริงใจทำตามสิ่งที่เราพูด ..อยู่เสมอ
และมีความเมตตาเอื้ออารี..กับผู้คนก่อน "
แล้วเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ของงานต่างๆย่อมบรรลุผลสำเร็จตามมาได้เอง
ดังนั้น"การที่คนเราได้รับเกียรติยศหรือตำแหน่งใดๆมานั้น..หาได้สำคัญเท่ากับว่าเรามีคุณค่าสมควรต่อการได้รับเกียรติยศหรือตำแหน่งนั้นๆสักเพียงใดต่างหาก"
เมื่อเขามีสติคิดได้ดังนั้นแล้ว ..จึงหันหน้าไปหาลูกสาวตัวน้อยที่ใสซื่อ ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความแจ่มใส และมีความชัดเจนในใจ ว่าสิ่งสำคัญในชีวิตนั้นคืออะไร
"ไปกันเถอะลูก...เราจะไปเดินเล่นด้วยกัน นะลูก.."
แล้วประตูแห่งความสุขในบ้านที่อบอุ่นก็หวลกลับคืนมา...อีกครั้ง
"When we will never walk alone..."
LL&L7/9/63
โฆษณา