9 ก.ย. 2020 เวลา 04:14 • กีฬา
ดีอยู่แล้ว...จริงหรือ?
การรอคอยกว่า 1 เดือนกำลังจะสิ้นสุด...ฤดูกาล 2020/21 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
ดีอยู่แล้ว...จริงหรือ?
โปรแกรมคร่าวๆของนัดเปิดฤดูกาล เริ่มที่คู่เปิดซิง ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ฟูแลม เปิด คราเวน คอทเทจ รับมือ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า เปิดบ้านรับน้องใหม่ที่ห่างหายจากเวทีสูงสุดไป 16 ปี อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส งานหนักรับ ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน, ด้านพระเอกประจำตลาดนักเตะอย่าง เชลซี เยือนเอเม็กซ์ สเตเดียม ของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน
ส่วนยักษ์ใหญ่แห่งแมนเชสเตอร์ยังไม่มีโปรแกรมลงเล่นทั้งสองทีม
หลังจากที่ผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก เมื่อซีซันที่แล้ว หงส์แดงยังคงถูกมองว่าเป็นเพียงทีมวางอันดับ 2 ที่จะคว้าแชมป์ในซีซันนี้เท่านั้น
การเสริมทีม ณ เวลานี้ ลิเวอร์พูล ยังคงได้เพิ่มเพียง คอสตาส ซิมิกาส เข้ามารับบทบาทอะไหล่ของ แอนดรู โรเบิร์ตสัน เพียงคนเดียว ส่วนรายของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่มีข่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลก่อน ตอนนี้ยังเงียบกริบ
photo : liverpoolecho.co.uk
ส่วนขาออกตอนนี้มีแนวโน้มอย่างสูงที่จะเสีย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ออกไปให้กับยักษ์ใหญ่บาร์เซโลนา เพื่อป้องกันการเสียตัวไปแบบฟรีๆในซัมเมอร์ปีหน้า เนื่องจากเจ้าตัวไม่ประสงค์จะยืดสัญญาออกไปแต่อย่างใด
ในส่วนนี้จึงไปที่ถกเถียงในบรรดา เดอะ ค็อป ในโซเชียลอย่างเมามัน เดอะ ค็อป จำนวนไม่น้อยแสดงชัดเจนถึงความไม่พอใจในท่าทีของสโมสรในตลาดนักเตะรอบนี้ โดยเฉพาะในกรณีของ ติอาโก้ ซึ่งล่าช้าเอามากๆ ทั้งที่ค่าตัวของนักเตะอยู่ที่ 27 ล้านปอนด์ เท่านั้น
ยิ่งสโมสรมีท่าทีจะปล่อย ไวจ์นัลดุม ไปบาร์เซโลนาด้วยค่าตัวราว 25 ล้านปอน์ด หักลบกันแล้วลิเวอร์พูลจ่ายเพิ่มเพียงไม่เท่าไหร่
จะว่าไปตัว คล็อปป์ เองคงมีแผนการทำทีมไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทุ่มซื้อนักเตะระดับท็อปในช่วงปีแรกๆ ทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โม ซาล่าห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อลิสซอน เบ็คเกอร์, ฟาบินโย และ นาบี้ เกอิต้า นักเตะเหล่านี้ทะยอยตบเท้าเข้าสู่รั้วแอนฟิลด์ในช่วง 3 ปีแรกของการคุมทีมของคล็อปป์
และหลังจากที่จบซีซัน 2018/19 ด้วยอันดับที่ 2 เป็นรอง แมนซิตี้ เพียงแค่ 1 คะแนน ใกล้เคียงกับการคว่าแชมป์แบบสุดๆ แต่ใครจะคิดว่าซัมเมอร์นั้น คล็อปป์ เลือกที่จะเสริมทีมเพียงแค่นักเตะอะไหล่อย่าง เอเดรียน, เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก และ ทาคูมิ มินามิโนะ เพียง 3 คนเท่านั้น ต่างจากแมนซิตี้ ที่เสริมทัพไปกว่า 100 ร้านปอนด์ในซัมเมอร์เดียวกัน
แต่ในที่สุด คล็อปป์และลูกทีม ก็สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019/20 ได้สำเร็จ ทิ้งห่างแมนซิตี้ถึง 17 คะแนน
ต่อเนื่องมาถึงซัมเมอร์นี้ คล็อปป์ ยังคงเสริมทีมไม่หวือหวาเช่นเดิม เค้าเลือกที่จะคว้าตัว คอสตาส ซิมิกาส เข้ามาเพื่อเป็นอะไหล่ของ ร็อบโบ้ เท่านั้น ซึ่งมองเผินๆอาจจะเห็นว่าไม่ตื่นตาตื่นใจ หรือบางคนคิดว่าไม่มีประโยชน์ ไม่สามารส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ในปีหน้าได้ แต่ในความจริงแล้วจะเห็นได้ว่ามันคือส่วนที่ลิเวอร์พูลยังขาดอยู่
ร็อบโบ้ สวมชุดแดงลงสนามฤดูกาลละเฉียดๆ 50 นัด ในช่วง 2 ฤดูกาลล่าสุด ซึ่งถือว่าหนักพอสมควร และถ้าเกิดเค้ามีอาการบาดเจ็บตัวเลือกในตำแหน่งนี้ของคล็อปป์ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตน ดังนั้นการเข้ามาของ ซิมิกาส อาจจะเป็นจุดเล็กๆในตลาดนักเตะ แต่เชื่อว่าน่าจะเติมเต็มระบบของคล็อปป์ ได้ดีทีเดียว
photo : premierleague.com
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาดนักเตะของลิเวอร์พูลจะดูเงียบเหงาราวกับเดินเท้าผ่านป่าช้าวัดดอน ทว่าในแคมป์ฝึกซ้อมของลิเวอร์พูลไม่เป็นเช่นนั้น
คล็อปป์ กำลังสานต่ออีกหนึ่งนโยบายการทำทีมของเค้าที่เค้าประกาศเอาไว้มาตลอดนั่นก็คือการผลักดันดาวรุ่งขึ้นสู่ชุดใหญ่เพื่อเป็นกำลังหลลักในอนาคต นักเตะดาวรุ่งหลายคนเริ่มได้รับโอกาสในการลงสนามตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงเกมปรีซีซันที่ผ่านมา และยังมี ริอาน บรูว์สเตอร์ กลับมาจากการยืมตัวกับ สวอนซี ซิตี้ ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งทำผลงานได้ดีในชุดสีแดงในช่วงปรีซีซัน
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ทำให้ คล็อปป์ ยิ้มแก้มบานก็คือฟอร์มที่ดีวันดีคืนของนักเตะแดนซามูไรที่ชื่อ ทาคุมิ มินามิโนะ นั่นเอง
photo : english.kyodo.net
"ในเมื่อนักเตะที่มีนั้นดีอยู่แล้ว และยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ แล้วจะซื้อนักเตะเพิ่มไปทำไม" คล็อปป์พูดประโยคนี้เอาไว้ได้น่าสนใจ
แต่ "ดีอยู่แล้ว" จะ "ดีพอ" ที่จะป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ มันคืออีกเรื่องนึง
นักเกรียน
โฆษณา