9 ก.ย. 2020 เวลา 23:05 • การศึกษา
สวัสดีครับ ผมพาสเตอร์สันตินะครับ งานของผมก็จะสอนแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตทั่วๆไปนะครับ ก็อยากที่จะมาแนะนำตัวและรู้จักกันเอาไว้ เผื่อตอนที่มันมีปัญหาเกิดขึ้นมาตอนนั้นก็สามารถที่จะช่วยได้
แต่ก็อยากที่จะมีโอกาสได้เข้าบรรยายให้ฟังเรื่อยๆ ด้วย ไม่ต้องรอให้มีปัญหาเกิดขึ้นมาก่อนเกี่ยวกับโลกของจิตใจของทุกคน เพราะคุณค่าประโยชน์มีมากมายมหาศาล และไม่สามารถหาฟังได้จากที่ไหนง่ายๆ ไม่ใช่พาสเตอร์ทุกคนจะพูดเรื่องแบบนี้ ส่วนมากจะสอนศีลธรรมเหมือนศาสนาอื่นๆทั่วๆไปซึ่งมุ่งเน้นไปที่การประพฤติภายนอกก่อน แต่ของเราจะมุ่งเน้นไปที่จิตใจข้างในเลย ซึ่งมันเป็นตัวคอยควบคุมพฤติกรรมภายนอก
ผ่านๆมาคนส่วนมากจะไม่รู้เรื่องนี้ก็เลยใช้ชีวิตกันแบบยากลำบากเพราะติดอยู่ในกรอบความคิดแคบๆ ที่ตนเชื้อว่าทำแบบนี้ๆ แล้วปลอดภัย ถ้าผิดไปจากนั้นก็ไม่กล้าทำอะไรกับมันเลย ซึ่งถูกต้องถ้ามันผิดมันไม่ดีไม่ใช่จริงๆ ก็ไม่ควรไปทำ แต่ปัญหาตอนนี้คือเราไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด เพราะมาตรฐานแต่ละคนหรือแต่ละประเทศไม่เหมือนกันเลย
ยกตัวอย่างคนปาปัวนิวกินีประเทศออสเตรเลีย พวกเขามองว่าการกินศพญาติดี ถูกต้อง สมควรทำ แต่บ้านเราบอกไม่ดี ไม่ถูก ไม่ควรทำ ถ้าเอาใกล้ตัวเข้ามาหน่อยบ้านเราพรรคการเมืองไหนดี ถูกต้อง ทุกพรรคบอกรักชาติทำเพื่อประเทศเหมือนกันทั้งหมด แต่เป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้? หรือแม้แต่ในครอบครัวปกครองกัน ใช้หลักอะไร ส่วนมากคนส่วนใหญ่ก็จะจบลงที่เอา"ตัวเอง" คิดหรือต้องการยังไง เพราะใจจริงๆ มันวางใจใครไม่ได้เลย รู้สึกว่าการเชื่อตัวเองนี่ล่ะดีที่สุด เสี่ยงน้อยที่สุดละ
แต่ก็เป็นปัญหาอีกตรงที่คนเราไม่ได้รู้จักกับ"ตัวเอง" จริงๆ การใช้ชีวิตแท้จริงก็เลยเหมือนกับกำลังเชื่อหรือติดตามคนที่ยังไม่เคยได้รู้จักกับมันจริงๆ ว่าไอ้คนที่เรียกว่า"ตัวเอง" คนนี้ มันมีประสงค์ดีต่อเราจริงๆไหม ซึ่งผมจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับ"ตัวเอง" คนนี้ครับ เพราะมันสำคัญมากแน่ๆ กับการที่เราจะติดตามใครสักคน ถ้าเลือกผิดนั่นก็หมายถึงตายได้เลยทีเดียว
หลายคนก็จะไม่เคยได้ยินหรือได้คิดกับมุมนี้จริงๆ เพราะเชื่อว่าไอ้"ตัวเอง" ที่กำลังพูดถึงนี้คือตัวของเราเองจริงๆ แต่แท้ที่จริงมันไม่ใช่ ในเราตอนนี้จริงๆ มันมีสองครับ ผมขอให้ลองคิดย้อนกลับไปมองช่วงชีวิตที่ผ่านๆมาของแต่ละท่านนะครับ ลองนึกถึงเหตุการร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับเราแล้วเรากลับมาคิดเสียใจทีหลังว่าทำไมถึงพูดหรือทำแบบนั้นออกไปด้วย ก็คงมีหลายเหตุการทั้งเล็กและใหญ่ คือหลายเรื่องเราก็รู้นะว่ามันไม่ดี ไม่ควรทำ แต่มันก็ทำออกมาเรื่อยๆ คือเราไม่ได้สามารถควบคุมให้เราทำแต่สิ่งดีๆ ได้ตามความต้องการจริงๆ ทุกๆ ปีใหม่เราเขียนแผน เราตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถเป็นตามนั้น
มีหลายคนก็ถึงขนาดว่าต้องพิการหรือติดคุกหรือถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ส่วนคนที่ยังไม่ถึงขนาดนั้นได้ยินข่าวก็อาจจะคิดว่าคนพวกนั้นโง่เขลาหรือเลวร้ายยิ่งกว่าตน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ เหมือนแค่ยังไม่ถึงคิวของตัวเองเท่านั้นเอง ชีวิตที่ไม่เคยได้รู้จักกับโลกของจิตใจจึงไม่ต่างจากหมูที่กำลังรอเวลาถูกส่งเข้าโรงเชือด ทุกคนก็เป็นเช่นนั้น
ไอ้ตัวเองของเราที่เราติดตามเชื่อวางใจมันตลอดมาแท้จริงจึงไม่ได้น่าเชื่อถือเลยเพราะมันไม่ได้ดีด้วยกับตัวเราเองจริงๆ แต่ผู้ที่เราควรจะเชื่อถือและฝากชีวิตได้จริงๆ ตอนนี้ก็คือ"พระเจ้า" ซึ่ง"พระคัมภีร์ไบเบิ้ล" จะเป็นคู่มือช่วยให้เราสามารถที่จะแยกเสียงในตัวเราได้ว่าเป็นเสียงใครที่กำลังนำชีวิตของเรา พระเจ้าหรือวิญญาณชั่ว มีสองแหล่งนี้เท่านั้นที่กำลังคอยจูงนำชีวิตของเรา วิญญาณชั่วต้องการพาเราไปสู่ความตายแต่พระเจ้าต้องการพาเราไปสู่ชีวิต
เหมือนตอนแรกเริ่มปฐมกาลพระเจ้าสร้างมนุษย์มาเพื่อให้เชื่อวางใจเพียงพระองค์แต่มารซาตานมาบอกให้เชื่อจิตสำนึกดีและชั่วแทน คือพยายามหลอกให้มนุษย์ไปสนใจอยู่แต่กับการประพฤติของร่างกายภายนอกแทนจิตใจภายใน
อย่างตอนนี้การที่พระเยซูได้มาตายไถ่บาปมันส่งผลให้มนุษย์ได้กลับมาบริสุทธิ์ชอบธรรม กลับมาเป็นลูกของพระเจ้าได้อีกครั้งหลังจากที่ทำผิดถูกตัดขาดจากพระเจ้าเพราะอาดัมมนุษย์คนแรกที่ไปเชื่อมารซาตานล่อลวง การแช่งสาปก็เลยเข้ามายังโลกทำให้โลกเต็มไปด้วยความชั่วร้ายเช่นทุกวันนี้ สิ่งที่ต้องระวังก็คือการหันกลับออกไปเชื่อจิตสำนึกดีและชั่วอีก ไปสนใจอยู่แต่กับการประพฤติภายนอกอีก อย่างคนส่วนมากตอนนี้กลัวจะไม่มีกิน ผลที่ติดตามมาก็คือจะมุ่งหน้าหาและเก็บเงินทองเหมือนพวกคนป่วยรอบสระเบธซาธา ในพระธรรมยอห์นบทที่5 ที่มีความหวังกับสระนั่นว่าจะสามารถช่วยตัวเองให้หายป่วยได้ แต่ความจริงมันไม่สามารถช่วยได้ แค่ถูกมารซาตานหลอก เป็นเรื่องโกหก เรื่องจริงมีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่กำลังดูแลปากท้องและชีวิตของมนุษย์ทุกคน
หลายคนก็กำลังเสียเวลาเหมือนกับคนป่วยรอบสระในพระธรรมยอห์น5 คือพวกเขาจดจ่อรอว่าเมื่อไรที่น้ำจะกระเพื่อมแล้วจะได้โดดลงไปก่อนคนอื่นแล้วก็จะหาย เชื่ออยู่แบบนั้น ซึ่งมันไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นเป็นจริงได้ เหมือนกันคนมากมายก็กำลังเชื่อว่ามีหนทางรอดอื่นอยู่ไม่เชื่อว่ามีเพียงทางพระเยซูเท่านั้น ก็ไม่เชื่อว่ากำลังถูกมารซาตานหลอกให้เสียเวลาไปเปล่าๆ จนกว่าจะตาย กับการดิ้นรนรับผิดชอบชีวิตของตัวเองและหาความสุขกับทางโลกวัตถุซึ่งตายไปแล้วนับแต่อาดัมนำความบาปเข้ามา ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนกำลังอยู่กับความฝัน การจะได้หลุดพ้นออกจากทุกปัญหาของคนเราตอนนี้มันง่ายมากนะ ก็แค่หันกลับมาเชื่อพระเยซู เหมือนกับชายป่วยสามสิบแปดปี พอเชื่อพระเยซูเขาก็สามารถที่จะลุกขึ้นยกแคร่เดินกลับบ้านได้เลย
การเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการติดตามความจริงในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ เส้นทางนี้ในโลกจึงเป็นเส้นทางที่สมควรติดตามมากที่สุด เพราะเป็นใจเดียวกับพระเจ้าและอยู่กับความจริง
อ.สันติ, ณัฐวิภา เบอร์, ไลน์ 085 083 5433, 094 432 0889
โฆษณา