10 ก.ย. 2020 เวลา 11:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
มู่หลาน 2020 เวอร์ชั่นคนแสดง อย่าโฟกัสแค่ "หลิวอี้เฟย"
มู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดง (Mulan 2020) เป็นหนังไลฟ์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ที่ดิสนีย์ลงทุนสร้างด้วยงบสูงราว 6,000 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) แต่ชะรอยจะคุ้มทุนช้า เพราะโควิด-19 ทำให้เลื่อนเข้าฉายทั่วโลก เฉพาะประเทศไทยก็เลื่อนมา 4 ครั้งแล้ว
ประเทศไทยติดอันดับ 3 ที่มู่หลานทำเงินได้มากที่สุด ส่วนอันดับหนึ่ง คือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาดว่าเป็นเพราะมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่รัดกุมในระดับที่ประชาชนไว้วางใจใช้บริการโรงหนังได้ และมู่หลาน 2020 เป็นหนังเรื่องแรกที่เปิดตัวทำรายได้สูงสุดของไทยในปี 2563 นี้
เหตุผลที่ส่งให้ "มู่หลาน 2020" ปังฉุดไม่อยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ยังไม่ออกโรงฉายคือนางเอกนั่นเอง "หลิวอี้เฟย" เคยรับบทเป็นนางเอกซีรีส์มังกรหยกเป็นเรื่องราวที่คุ้นชินกับคนไทยหลายเจเนอเรชั่น จึงไม่ยากที่เธอจะถูกจับตามองกับตำนานมู่หลานนี้
" "หลิวอี้เฟย" นักแสดงหน้าเดียว "
ภาพ : Disney
คนดูหลายคนยังบอกเหมือนกันว่า "หลิวอี้เฟย" เป็นนักแสดงหน้าเดียว ซึ่งหากคุณคาดหวังว่าจะเห็นเธอยิ้ม หัวเราะ แบบหลุดๆ หรือต้องส่งอารมณ์ด้วยสายตาขั้นสุด บอกเลยว่ามู่หลาน 2020 ไม่เป็นแบบนั้น แต่ด้วยความหน้าเดียวของเธอแบบเสือยิ้มยาก เหมาะสมกับบทมู่หลานมากที่สุด ทางนิกิ คาโร (Niki Caro) ผู้กำกับเลือกเธอจากนักแสดงสาวกว่า 1,000 คนที่มาแคสติ้ง
บทฮัว มู่หลาน เปลี่ยนชีวิตหลิวอี้เฟยให้ก้าวสู่นักแสดงระดับสากลเป็นที่เรียบร้อย ความสวย และความสามารถของนักแสดงหญิงคนนี้เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากมู่หลานคือบทบู๊ และหลิวอี้เฟยเล่นบทต่อสู้เองเกือบตลอดทั้งเรื่อง
ภาพ : Disney
แม้ว่าคนดูจะพูดว่า "ยังไงก็รู้ว่าเป็นผู้หญิง" สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่คงความเป็นดิสนีย์เอาไว้ แต่ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งภาพ และมุมมอง ผิดไปจากหนังเจ้าหญิงดิสนีย์อื่นๆ อย่างโฉมงามและเจ้าชายอสูร หรือมาเลฟิเซนต์ ดูเป็นหนังแอ็กชั่นสไตล์จีนๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าผู้กำกับจะเป็นชาวนิวซีแลนด์
" โควิดแจ้งเกิดหรือแจ้งดับให้ "มู่หลาน 2020" และ "หลิวอี้เฟย" "
ภาพ : Disney
เนื่องจากต้นปี 2020 เกิดเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเกิดของ "หลิวอี้เฟย" ยังมีประเด็นว่าสหรัฐฯ เคยตั้งข้อสงสัยว่าประเทศจีนเป็นต้นตอปล่อยโควิด-19 หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีดิสนีย์ผู้สร้างนี้ เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาโดยกำเนิด แต่นำเสนอภาพยนตร์ยกย่องวีรสตรีจีนอยู่ ยังเป็นประเด็นที่ขัดแย้งกันอยู่ระหว่างการเมืองและธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิง
ภาพ : Disney
"หลิวอี้เฟย" ในบท "มู่หลาน" เป็นตัวแสดงเดียวที่ดึงเนื้อหาทั้งเรื่องอยู่ บทบาทของเธอทำให้ตัวละครอื่นๆ กลายเป็นตัวประกอบเท่านั้น คนดูเฝ้ามองว่าเธอจะพูดอะไร เธอจะแต่งตัวอย่างไร เธอจะออกมาในบทแบบไหน และเมื่อถึงฉากที่หลิวอี้เฟยจะบู๊ คนดูก็ลุ้นว่าหน่วยก้านจะสมจริงหรือเปล่า เพราะมู่หลานจะต้องเข้มแข็ง และมาดมั่นพอในแบบฉบับของนักสู้
ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่องมู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงนี้เริ่มถูกแบนในหลายประเทศ เนื่องด้วย "หลิวอี้เฟย" นักแสดงนำได้เคยโพสต์ประเด็นเกี่ยวกับการเมืองระหว่างฮ่องกงและจีนในปี 2019
สุดท้ายเครดิตของเรื่องขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ ตั้งอยู่ที่เขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งมีค่ายกักควบคุมชนกลุ่มน้อยที่กำลังเป็นประเด็นปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน จึงเกิดเป็นประเด็นแบนมู่หลานขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ #BanMulan #BoycottMulan #MilkTeaAlliance
" คำวิจารณ์ "MULAN 2020" เทียบ "MULAN 1998" "
สำหรับเวอร์ชั่นคนแสดง มีคอมเมนต์ถามหาฉากสัตว์พูดได้ และการใช้เวทมนตร์คาถา ส่วนความชอบนั้นยังบอกไม่ได้ว่าคนดูชื่นชอบมู่หลานเวอร์ชั่นการ์ตูนหรือคนแสดงมากกว่า เพราะว่าจำนวนผู้รีวิวในเว็บไซต์วิจารณ์ภาพยนตร์ต่างๆ ไม่เท่ากัน
- imdb.com มู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงได้ดาว 5.5 ดาว เมื่อเทียบกับมู่หลานเวอร์ชั่นการ์ตูนได้ดาว 7.6 ดาว
- rottentomatoes.com มู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงได้คะแนนจากนักวิจารณ์ 53% ในขณะที่เวอร์ชั่นการ์ตูนได้รับคะแนน 85%
" เรื่องย่อ "มู่หลาน 2020" "
กล้าหาญ ซื่อสัตย์ “ข้าจะนำเกียรติยศมาสู่เราทุกคน”
ภาพ : Disney
Trailer ที่เปิดตัว "มู่หลาน" พยายามสื่อตัวละครนี้เป็น ลูกสาว - ผู้นำ - นักรบ - เด็กผู้หญิง - ทหาร - พี่สาว - ผู้แอบอ้าง - นักสู้ ปิดจบด้วยคำพูดว่า กล้าหาญ ซื่อสัตย์ “ข้าจะนำเกียรติยศมาสู่เราทุกคน” สอดคล้องกับตัวตนของมู่หลานที่เป็นตำนานเล่ากันในประเทศจีน
ตัวละครมู่หลานเป็นส่วนหนึ่งที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนานในประเทศจีน โดยเล่ากันในลักษณะขับเป็นกลอน ส่งต่อมาเป็นเนื้อเรื่องการแสดงนาฏศิลป์อุปรากรจีน และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง ส่วนเนื้อเรื่อง Mulan 2020 สอดคล้องกับนิยายเรื่องสุยถัง (隋唐) ซึ่งเกิดขึ้นในราชวงศ์ชิง โดยนักเขียนชื่อ ฉู่ เหรินโฮ่ว (褚人獲) นำมาปรับแต่งเรื่องราวของมู่หลานที่เข้าเป็นทหารแทนบิดา
- กล้าหาญ
โดยสรุปแล้วยังไม่มีใครการันตีได้ว่า เรื่องของมู่หลานเกิดขึ้นในราชวงศ์ใดกันแน่ แต่ที่เข้าใจได้ตรงกันก็คือ สาวน้อยผู้นี้ต้องเข้ารบแทนบิดา เนื่องจากเห็นว่าบิดาชรามากแล้ว ถือเป็นความกตัญญูพื้นฐานของชาวจีนที่น่ายกย่อง ส่วนข้อที่ถกเถียงกันในประวัติศาสตร์คือการที่สตรีเข้าร่วมรบ ถือว่าเป็นเรื่องผิด จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวละครมู่หลานมีตัวตนจริง หรือเป็นเพียงนิยายที่ถูกแต่งขึ้นมาแน่
1
- ซื่อสัตย์
ตอนจบของ "มู่หลาน" ในบทประพันธ์และในประวัติศาสตร์นั้นยังคงเป็นอีกข้อถกเถียงกัน บางตำนานเล่าว่ามู่หลานไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ขอแค่ม้าเร็วเพื่อกลับมาหาพ่อของตน บางตำนานเล่าว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านพ่อก็เสียชีวิตจากไปแล้ว และแม่ก็ได้ไปแต่งงานกับสามีใหม่ที่อยู่อีกฝ่ายของสงคราม ทำให้มู่หลานรับไม่ได้ ขอจบชีวิตตัวเอง ความซื่อสัตย์ของมู่หลานอาจหมายถึงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณธรรมของคนจีน
" สิ่งที่ถูกตัดออกจาก "มู่หลาน 2020" "
(บรรทัดต่อจากนี้อาจมีสปอยล์บ้าง)
ภาพ : Disney
หากคุณเคยดูมู่หลานเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นในปี 1998 ต้องบอกว่ามู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ เป็นหนังแอ็กชั่น ไม่เน้นความเป็นเจ้าหญิงสไตล์ดิสนีย์ และเนื้อหาไม่เหมือนเวอร์ชั่นการ์ตูน แถมตอนจบพระนางก็ไม่ได้ครองคู่กันตรงๆ เพราะทีมผู้กำกับได้วางเนื้อหาให้ตรงกับตำนานมู่หลานมากที่สุด
1
แน่นอนว่าเวอร์ชั่นคนแสดงนี้คนจีนไม่คาดหวังให้ดิสนีย์มองวัฒนธรรมจีนเป็นเรื่องตลก เหมือนเวอร์ชั่นการ์ตูน 1998 ที่มีเทพประจำตระกูลเป็นมังกรชื่อ "มูชู" คอยช่วยเหลือ แต่เนื่องจากหลายฉากที่เจ้ามังกรตัวนี้เล่นมุกตลก จึงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางลบจากชาวจีน ว่าการนำเทพปกรณัมให้มีบทตลกแบบนี้อาจไม่เหมาะสม
รวมถึงฉากบางฉากจากการ์ตูนที่ดูเหนือจริง ก็ทำให้ดูเบาลง และภาคนี้ไม่มีตัวละคร "หลี่ชาง" ที่ดูเหมือนเป็นเจ้าชายสไตล์ดิสนีย์ภาคการ์ตูน แต่มีเพื่อนร่วมรบวัยเดียวกันคือ "ฮงฮุย" และเพิ่มตัวละครผู้ที่สอนมู่หลานให้เป็นนักรบกล้าหาญคือ "แม่ทัพถัง" ให้คงอรรถรสให้เดินเรื่องไปทางหนังสงครามได้จบแบบไม่ขัดความรู้สึก
1
มู่หลานเวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์เพลง นางเอกไม่ร้องเพลง Reflection แต่เป็นเสียงของ Christina Aguilera ใน Trailer ประกอบภาพยนตร์ตั้งแต่ มู่หลานเวอร์ชั่นการ์ตูน 1998 และ MULAN 2020
" "มู่หลาน 2020" สมบูรณ์แบบด้วยนักแสดงจีนที่พูดภาษาอังกฤษเป๊ะ "
ภาพ : Disney
มู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ทำให้คนดูทั่วโลกรู้สึกลื่นไหล ไม่ต้องฟังเสียงพากย์ที่ผ่านการแปล หากคุณปิดซับไตเติลแล้วดูภาพ ฟังเสียงออริจินอล จะให้เข้าถึงอารมณ์ภาพยนตร์ได้ถึงแก่นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Gong Li หรือ Donnie Yen นักแสดงทุกคนฝีมือขั้นเทพ สำเนียงภาษาอังกฤษไม่มีติดขัด และเสียงที่กระแทกกระทั้นออกมาในบทที่ต้องใช้อารมณ์มันไม่เพี้ยนไปจากความรู้สึก จึงเดาไม่ยากเลยหากมู่หลานเวอร์ชั่นนี้จะเข้าชิงรางวัลสำคัญของปี 2020 ด้านนักแสดงจากเวทีใดเวทีหนึ่ง
" ดู "มู่หลาน 2020" ได้ที่ไหน "
สำหรับประเทศไทยนั้นต้องซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ในโรงก่อน และลุ้นว่าช่วงปลายปีทางดิสนีย์จะเปิดให้ชาวไทยดาวน์โหลดแอปฯ สตรีมมิง Disney Plus+ ได้หรือไม่
มู่หลานฉบับนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ดูแล้วจะยิ้มตาม "MULAN 2020" เวอร์ชั่นคนแสดงเป็นหนังสงครามปลุกใจแบบชาตินิยม มีบรรยากาศตึงเครียดระดับหนึ่ง แต่เป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุขเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาด สุดท้ายนี้สรุปได้ว่า "MULAN 2020" ผิดแผกไปจากเวอร์ชั่นการ์ตูนในปี 1998 และกลายเป็นหนังการเมืองไลฟ์แอ็กชั่นที่สร้างกระแสสังคมลุกฮือขึ้นมาพูดถึงสิทธิมนุษยชนในจีน ทั้งๆ ที่ค่ายผู้สร้างเป็นสัญชาติอเมริกัน ดังนั้นหากผู้ชมจะเลือกชมหรือไม่ชม คนที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือผู้สร้างเองเต็มๆ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
👉 ศึกหนัก “มู่หลาน” เจอบอยคอตผสมโควิด ลุ้นทางรอดดิสนีย์สู้เกม “สตรีมมิง”
👉 มาดูกับมาดาม : ‘Mulan’ การกลับมาของ “ฮัว มู่หลาน”
👇 อ่านบทความต้นฉบับ 👇
โฆษณา