27 ก.ย. 2020 เวลา 02:30
จักรวาลเรื่องเล่าจากชมรมศิลป์ : #4
I can only draw what I see.
กับอีกด้านที่(อาจ)มองไม่เห็น
"เสร็จหรือยังค่ะ คุณพ่อ"
ภาพของซูซานที่ยืนอยู่บนทุ่งหญ้าและท้องฟ้าสดใส ทำให้ผมนึกถึงภาพของภรรยาและลูกชายคนแรกของผมที่ยังคงกระจ่างชัดเจนในใจแม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม
Claude Monet : Woman with Parasol (facing left) 1886 - Musee d'Orsay, Paris, France
วันนั้น...เราสามคน ผม กามีย์ ชวนชองลูกชายตัวน้อยของเราออกไปเดินเล่นบนเนินกว้างไม่ไกลจากบ้าน กามีย์ภรรยาของผมยืนอยู่บนเนินหญ้าและท้องฟ้าที่สดใสของฤดูใบไม้ผลิ ในขณะที่ชองกำลังเดินกลับมาหาแม่ สายลมที่พัดไหวทำให้ผ้าคลุมหน้าของเธอ พริ้วปลิวตามลมลู่ไปบนใบหน้างดงามของเธอ ขณะที่เธอกางร่มเพื่อบังแดดที่ส่องมาจากด้านหลัง แสงแดดที่ตกกระทบด้านหลังทำให้เธอดูเสมือนนางฟ้าที่ลอยลงมาจากสรวงสวรรค์ เป็นภาพที่สวยงามจนทำให้ผมอยากบันทึกภาพบรรยากาศความสุขแบบนี้ไว้...ตลอดไป
2
"ใกล้เสร็จแล้วล่ะกามีย์ ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ นะ ขอเวลาผมไม่นาน" ผมบอกภรรยา ในขณะที่มือรีบปาดพู่กันไปมาบนผืนผ้าใบอย่างรวดเร็ว เพื่อเก็บความประทับนี้ไว้ให้เร็วที่สุด "เสร็จแล้วล่ะ" ผมพูดพลางมองภาพบนผืนผ้าใบที่สื่อความรู้สึกของผมออกมาได้แม้จะเป็นภาพที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดแบบเหมือนจริงตามจารีตนิยมในเวลานั้น
"ไหนขอดูภาพหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง" กามีย์เดินย้อนกลับมาเพื่อดูภาพที่ผมวาดเธอ "ภาพอะไรเนี่ยไม่เห็นหน้าเลย อุตส่าห์ให้ยืนอยู่ตั้งนาน" เธอพูดค้อนๆ แล้วก็ช่วยผมถือกระเป๋าพู่กัน เพราะผมต้องถือภาพที่เพิ่งจะวาดเสร็จไปด้วย
Claude Monet : Woman with a Parasal 1865 - National Gallery of Art, Washington DC
"พีร์...ทำไมยืนมองภาพนิ่งนานอย่างนี้" เสียงของอลิซ ทำให้ผมตื่นจากภวังค์ของจินตนาการที่เกิดจากภาพที่อยู่ตรงหน้า พลางหันไปยิ้มเขินๆ แล้วตอบอลิซไปว่า "ภาพสองภาพนี้คล้ายกันมากเลย แต่จากข้อมูลเป็นภาพที่วาดห่างกันตั้ง 20 ปี"
หลังกลับจากวอชิงตัน ดีซีครั้งนั้น อลิซกับผมทำงานร่วมกันในอีกหลายโครงการจนเราค่อนข้างสนิทกัน วันนี้อลิซชวนผมมาเดินงานนิทรรศการภาพวาดศิลปะของ โกลด มอแน (Claude Monet) ที่กำลังจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ใกล้ที่ทำงานของเรา
"ใช่แล้วค่ะภาพ Woman with Parasal ที่มอแนวาดเป็นภาพแรกคือภาพภรรยาและลูกชายของเขา หลังจากนั้นเกือบ 20ปี มอแนวาดภาพ Woman with Parasal อีกภาพ ภาพนี้ว่ากันว่าเป็นภาพของซูซานลูกเลี้ยงของเขา เพราะในเวลานั้นภรรยาและลูกชายของเขาในภาพเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่" อลิซตอบผมแบบคนที่รู้ข้อมูลดี โกลด มอแนเป็นหนึ่งในศิลปินในดวงใจของเธอ จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอรู้ข้อมูลค่อนข้างดี
"สวัสดีครับ ทั้งสองคน" เสียงทักดังขึ้นมาทำให้เราสองคนหันไปมองเจ้าของเสียงทันที แดนนั่นเอง "สวัสดีครับแดน " ผมตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะเป็นมิตร นึกดีใจที่ได้เจอกับแดนอีกครั้งหนึ่ง แดนทำหน้าที่ซื้อขายงานศิลปะ ลูกค้าของแดนหลายคนเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ที่ผมทำงานอยู่ด้วย และเขาคือคนที่พาผมไปสัมผัสบรรยากาศของการประมูลภาพ จนทำให้ผมได้เริ่มสัมผัสถึงความซับซ้อนของโลกศิลปะกับการเงิน
แดนหันไปมองภาพ Woman with Parasal ของซูซานแล้วพูดว่า "ความยากของศิลปะแบบอิมเพรสชันนิซึมของมอแน คือการถ่ายทอดความรู้สึกที่มองเห็นให้ออกมาเป็นภาพอย่างเร็วที่สุดก่อนที่ภาพจริงที่เห็นตรงหน้าจะเปลี่ยนไป"
1
"คงไม่มีภาพไหนจะเด่นชัดเท่าภาพนี้ที่แสดงให้เห็นความสามารถของศิลปินที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากจากกระแสลมที่พัดแรง สังเกตฝีแปรงที่ปาดอย่างเร่งรีบบนผืนผ้าใบและชุดของสุภาพสตรีกับผ้าพันคอที่ไหวตามลม ความเร็วในการวาดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถถ่ายทอดจังหวะของภาพที่เห็นเพียงชั่วขณะเท่านั้น"
ช่างสมกับเป็นนักค้างานศิลปะจริงๆ ... ผมคิดในใจ
"มอแนคือหนึ่งในศิลปินที่บุกเบิกการสร้างศิลปะสมัยใหม่ ที่ฉีกกรอบที่ยึดถือกันมาตั้งแต่อดีตหลายร้อยปี กว่าที่ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิซึมของเขาและเพื่อนจะได้รับการยอมรับก็เมื่อพวกเขาเข้าสู่ช่วงปลายของชีวิต ช่วงแรกเขาจึงมีชีวิตที่ยากลำบากมากทีเดียว" แดนพูดถึงชีวิตมอแน ที่ไม่ต่างจากชีวิตของศิลปินคนอื่นๆ ในยุคนั้น
Claude Monet : The Artist's house at Argenteuil 1873 - The Art Institute of Chicago
"ผมรู้จักภาพของมอแนจากภาพวิว ทิวทัศน์ และดอกบัวในบึง แต่ไม่ค่อยเห็นภาพวาดบุคคลของมอแนเลยนะ" ผมพูดด้วยความประหลาดใจ
"คนส่วนใหญ่คุ้นกับภาพบัวในบึง ภาพต้นไม้ และภาพวิวของมอแนมากกว่าภาพคนนั่นแหละ" อลิซพูดขึ้น "ภาพคนที่มอแนวาดส่วนใหญ่เป็นภาพครอบครัวของเขา ทั้งกามีย์ ชองและลูกชายคนเล็ก แต่เมื่อกามีย์และชองเสียชีวิต มอแนก็แทบจะไม่วาดภาพคนอีกเลย"
1
"ภาพของมอแนส่วนมากที่เราเห็นกันจะเป็นภาพวาดภายในบ้านในสวนของเขา ช่วงนั้นเขามีนายหน้าที่เข้ามาช่วยทำหน้าที่ขายภาพให้กับเขา หากเขาไม่ได้พบกับนายหน้าคนนั้น ทุกวันนี้เราอาจไม่รู้จักมอแนและศิลปะแบบอิมเพรสชันนิซึมก็ได้นะ" แดนพูดขึ้นบ้าง
Claude Monet : Water Lilies and the Japanese bridge 1897–1899 - Princeton University Art Museum
"การที่มอแนมีนายหน้าทำหน้าที่ขายภาพให้กับเขา ทำให้ภาพของเขามีอยู่ในแทบทุกพิพิธภัณฑ์และตลอดชีวิตเขาวาดภาพถึง 2,500 ภาพเชียว" แดนพูดต่อ
"มิน่าล่ะ คนส่วนใหญ่ถึงรู้จักมอแน และมีภาพของมอแนให้เราเห็นค่อนข้างมาก" ผมตอบเมื่อได้ฟังข้อมูลทั้งที่อลิซและแดนพูดให้ฟัง
"คุณสองคนคงเห็นแล้วนะว่า อาชีพของผมมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ศิลปินเป็นที่รู้จักนะครับ แดนพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างภูมิใจ เราสามคนกลั้นเสียงหัวเราะของพวกเราแทบไม่ทัน ลองเผลอหัวเราะดังๆ ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เงียบสงบ.. คงถูกเจ้าหน้าที่เดินมาตำหนิแน่ๆ
จู่ ๆ อลิซก็เปลี่ยนเรื่องคุย "แดน คุณเห็นข่าวปานามาเปเปอร์หรือยัง" ผมฉงนกับชื่อข่าวที่อลิซพูดถึงและนึกไม่ออกว่าปานามาเปเปอร์คืออะไร
"นอกจากเห็นข่าว ผมยังเห็นหลักฐานด้วยนะครับ" แดนตอบกลับด้วยใบหน้าที่อมยิ้มแบบคนที่รู้มากกว่าอีกฝ่าย
"อย่าบอกนะว่านี่คือสาเหตุที่คุณมาพิพิธภัณฑ์ในวันนี้" อลิซพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
"คุณสองคนอยากเห็น... หรือเปล่าล่ะครับ" "หลักฐานของมอแน..." แดนพูดช้าแบบเน้นคำด้วยสีหน้าที่แฝงแววเจ้าเล่ห์นิดๆ แล้วหันมาอธิบายให้ผมที่ทำหน้างง งง ว่า
"ปานามาเปเปอร์ เป็นข้อมูลที่หลุดออกมาจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในปานามา มีข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรมและการฟอกเงินระดับชาติด้วยนะ ภาพของศิลปินหลายคนเช่น ปิกาโซ และ มอแน ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่เกิดจากการฟอกเงินด้วย"
เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาในพื้นที่ด้านในของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดสำหรับเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น นอกจากงานศิลปะจำนวนมากที่เก็บไว้เพื่อเตรียมจัดแสดง ยังมีห้องสำหรับการบำรุงซ่อมแซมงานศิลปะด้วย เมื่อแดนพาเราสองคนเข้าไป มีคนหลายคนอยู่ในห้องนี้แล้ว แดนแนะนำเราให้รู้จักกับทุกคนในห้อง ทำให้เราทราบว่าแดนได้รับคำขอจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอให้เข้ามาช่วยเกี่ยวกับหลักฐานที่เอฟบีไอยึดมาจากคดีฟอกเงินคดีหนึ่ง
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณสองคนทำงานในสถาบันการเงินคงจะช่วยให้เราเข้าใจรายละเอียดบางอย่างได้นะครับ" ปีเตอร์ หัวหน้าทีมเอฟบีไอ พูดกับเราทั้งสองคน
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของเราเป็นภาพดอกบัวในบึง หนึ่งในผลงานดอกบัวของ โกลด มอแน
Claude Monet : Nymphéas avec reflects de hautes herbes 1914-17 - Courtesy of Sotheby’s.
"เราเพิ่งได้รับภาพมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ส่งมอบจาก Freeport (คล้ายคลังสินค้าทัณฑ์บน)แห่งหนึ่งในยุโรปที่ผู้ต้องสงสัยนำทรัพย์สินและงานศิลปะที่ได้จากการฟอกเงินไปเก็บไว้"
1
"ไม่ง่ายเลยนะครับกว่าที่เราจะทำเรื่องเพื่อขอให้ส่งทรัพย์สินเหล่านี้มาให้เรา Freeport มีกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็นประโยชน์และคุ้มครองลูกค้าของเขาในการเก็บสินค้าแบบปลอดภาษีศุลกากร"
ปีเตอร์พูดกับเราทั้งสามคน
"แต่ที่ยากไม่แพ้กัน คือการหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายภาพจากสถาบันประมูลแต่ละแห่ง"
จากนั้นปีเตอร์มองไปที่แดนแล้วพูดขึ้นว่า "ได้ข้อมูลอะไรมาบ้างหรือเปล่าครับ" คำถามที่คาดหวังว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดี
"ผมได้ข้อมูลเพียงบางส่วนครับ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์หรือเปล่า คุณก็คงทราบดีว่าการขอข้อมูลจากสถาบันประมูลเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย" แดนตอบ
"เป็นข้อกำหนดของสถาบันประมูลที่จะไม่เปิดเผยที่มาและข้อมูลผู้ซื้อและผู้ขาย ผมต้องอาศัยความสนิทกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันประมูล"
"ขอเปิดสมุดข้อมูลก่อนนะครับ" แดนพูดค้างระหว่างพยายามเปิดดูข้อมูลที่จดเอาไว้ในสมุดโน้ตเล่มเล็ก
"ภาพนี้ถูกประมูลในปี 2013 ด้วยราคา 9ล้านปอนด์ จากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมา ภาพนี้ก็ถูกนำกลับมาประมูลที่สถาบันประมูลแห่งเดิมอีกครั้ง ครั้งนี้ผู้ชนะการประมูลด้วยราคา 33.8ล้านปอนด์ หลังจากนั้นไม่มีการนำมาประมูลอีกเลย การซื้อขายทั้งสองครั้งดำเนินการผ่านนายหน้าตัวแทนที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งทางสถาบันไม่ยอมให้ข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขายใดๆ เลย ทางนั้นตอบเพียงว่าเป็นการซื้อภาพเพื่อสะสมส่วนบุคคลเท่านั้น"
1
หากผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับกระบวนการสร้างราคาผ่านวิธีประมูลก็คงจะแปลกใจกับราคาที่ก้าวกระโดดเกือบ 4 เท่าภายในปีเดียวอย่างแน่นอน และทำให้ผมนึกถึงเอกสารเผยแพร่ของบริษัทการเงินแห่งหนึ่งที่แนะนำให้นักลงทุนลองลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกด้วยกราฟผลตอบแทนที่เพิ่มหลายเท่าตัว ตกลง...อะไรเป็นเหตุผลสำคัญที่ราคาของงานศิลปะเพิ่มขึ้นมหาศาลกันแน่! เพราะการตีค่าจากโลกการเงินอย่างนั้นหรือ? แสดงฐานะ ลดภาษี ลงทุน ฟอกเงิน... หากศิลปะคือเรื่องของคุณค่าทางใจเพียงอย่างเดียว มูลค่าแท้จริงของศิลปะเป็นเท่าไหร่กันแน่....
Credit : www.forbes.com/sites/susanadams/2013/11/27/how-smart-is-investing-in-art/#6b349e7e3fba
"ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ แดน เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ เอฟบีไอคงต้องพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับนายหน้าตัวแทนที่รับงานนี้ เพื่อนำตัวมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หวังว่าจะไม่เป็นคุณนะครับ แดน"
น้ำเสียงของปีเตอร์ที่พูดนิ่งๆ ทำให้ผมเดาไม่ออกว่าเขาตั้งใจจะหมายความอย่างไร
"ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ ภาพนี้ถูกประมูลในอังกฤษนะครับไม่ใช่ในรัฐนี้ " แดนตอบเสียงหนักแน่น รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าของปีเตอร์แสดงถึงความโล่งใจในคำตอบที่ได้รับ แล้วพูดขึ้นว่า "ผมถึงขอให้คุณมาเป็นผู้ช่วย คุณคงได้ข้อมูลเร็วกว่าทางผมที่ต้องเสียเวลาทำเรื่องข้ามประเทศ คดีนี้...ดูแล้วทางโน้นไม่ค่อยอยากช่วยเราเท่าไหร่ ผมคิดว่าคงมีบุคคลที่เขาไม่อยากให้กระทบไปถึง"
"ข้อมูลที่ผมได้มาคือการประมูลทั้งสองครั้งไม่มีการนำภาพออกมาจาก Freeport แต่อย่างใด ดูแล้วคงต้องมีเงื่อนงำบางอย่างแน่นอน" ปีเตอร์พูดกับทีมงานให้รีบดำเนินเรื่องขออนุมัติทางกฎหมายเพื่อเข้าตรวจค้น Freeport
พอจบคำพูดของปีเตอร์ แดนก็พูดขึ้นทันทีว่า "ปีเตอร์ คุณก็ทราบดีนะครับว่าการขอเข้าตรวจค้น Freeport เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และสิ่งที่เป็นเหตุผลทางอ้อมที่ Freeport ใช้จูงใจลูกค้าของเขาแทนเรื่องทางภาษี"
1
"คดีนี้เป็นการฟอกเงินระดับโลก เมื่อผมรับผิดชอบคดีนี้ ผมก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่" ปีเตอร์พูดขึ้น
Credit : www.widewalls.ch/magazine/freeport-risks-art-storage
เราสองคนออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ระหว่างที่เราแวะพักและดื่มกาแฟ ผมก็พูดกับอลิซว่างานศิลปะราคาแพงนำไปใช้เป็นช่องทางไหลของเงินเพื่อหลบหลีกกฎระเบียบและกฎหมายได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ
อลิซยิ้มแล้วตอบว่า "ศิลปะด้านที่เรามองเห็นคือด้านสว่างที่สร้างความรู้สึกประทับใจ สวยงาม แต่อีกด้านของศิลปะที่เรามองไม่เห็น...คือด้านที่ถูกบิดเบือนเพื่อซ่อนเร้นด้านมืดต่างๆ ไว้ โลกการเงินก็มีทั้งสองด้านแบบเดียวกัน เงินจึงไหลไปในทั้งสองด้านของศิลปะได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ"
ผมเลยพูดแบบขำๆ ว่า "แล้วมีศิลปะที่แสดงทั้งสองด้านพร้อมกันหรือเปล่า"
"มีสิ สัญญาว่าครั้งต่อไป เราไปดูงานศิลปะที่สะท้อนทั้งสองด้านด้วยกันนะ" อลิซพูดขึ้นก่อนที่เราจะออกจากร้านกาแฟแห่งนั้น
Everyone discusses my art and pretends to understand, as if it were necessary to understand, when it is simply necessary to love.” Claude Monet.
1
Credit : www.azquotes.com/quote/203070
เรื่องสั้นนี้แต่งขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินในการอ่านเท่านั้นครับ บางส่วนเป็นข้อมูลที่ค้นจากแหล่งต่างๆ และบางส่วนเป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นเพื่อการดำเนินเรื่อง
เรื่องสั้นตอนนี้เขียนขึ้นเพื่อขอขอบคุณสำหรับ 4000 Followers ครับ
Credit : Freepik.com
โฆษณา