12 ก.ย. 2020 เวลา 14:00 • กีฬา
นิวคาสเซิล – นักเตะใหม่ – ไมค์ แอชลี่ย์ และกลุ่มทุนซาอุฯ ที่พรีเมียร์ลีกไม่อนุมัติ
.
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกำลังจะกลับมาบรรเลงเพลงแข้งกันอีกครั้งในค่ำคืนนี้ ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวายในตลาดนักเตะ มีทีมหนึ่งที่เสริมทัพได้เข้าตากรรมการมากนั่นก็คือทีมสาลิกาดง “นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด” ถึงแม้จำนวนนักเตะหรือมูลค่าจะเทียบกับทีมในวรรณะเศรษฐีอย่าง “เชลซี” ของ “แฟรงค์ แลมพ์พาร์ด” ไม่ได้ แต่กุนซืออย่าง “สตีฟ บรู๊ซ” ถือว่าออกหมัดเด็ดในการแก้ปัญหาปืนฝืดของบรรดากองหน้าในทีม เมื่อคว้า “คัลลัม วิลสัน” มาจากบอร์นมัธด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์
เพิ่มตัวเลือกในแดนหน้าหลัง “ดไวท์ เกล” ศูนย์หน้าที่ทำประตูไป 4 ประตูในฤดูกาลก่อน เจ็บหนักจนต้องพักยาวถึง 4 เดือน “โจเอลลิงตัน” ศูนย์หน้าตัวหลักชาวบราซิลเจ้าของค่าตัว 40 ล้านปอนด์ไม่ฮอตเหมือนที่คาดหวังไว้ หลังกดไปเพียงแค่ 2 ประตูจากการลงเล่นครบทั้ง 38 นัดในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน ส่วนเสือเฒ่าอย่าง “แอนดี้ แคลโรลล์” ในวัย 31 ปี คงฝากผีฝากไข้อะไรไม่ได้มากนัก ฤดูกาลก่อนก็ยิงไม่ได้สักประตู เมื่อนับรวมจะนวนประตูที่กองหน้าทั้งสามคนทำรวมกันได้แค่ 6 ประตู
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สตีฟ บรู๊ซจะต้องร้องขอกองหน้าตัวเป้ามาเพิ่มศักยภาพให้กับทีม และท่านประธานตัวแสบอย่าง “ไมค์ แอชลีย์” ก็ไม่ทำให้กุนซือที่เขาลากตั้งมากับมือไม่ผิดหวัง หลังเจรจากับบอร์นมัธสำเร็จ ก็รีบส่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวไปรับ “คัลลัม วิลสัน” มาตรวจร่างกายและเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา
วิลสันเองก็รีบหยอดคำหวานเอาใจสาวกทีมสาลิกาดงว่า “อลัน เชียร์เรอคือฮีโร่ของสโมสรแห่งนี้ ผมได้ปรึกษากับเขาในระหว่างเดินทางมาที่นี่ เขาย้ำกับผมว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง และบอกว่าถ้าผมทำงานหนัก ทำประตูได้มาก แฟนบอลจะต้องรักผมอย่างแน่นอน”
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่มชมบอร์ดบริหารและท่านประธานตัวแสบคือการลงทุนอันชาญฉลาดในตลาดนักเตะรอบนี้ เพราะสามารถจับนักเตะฟรีเอเยนต์อย่าง “ไรอัน เฟรเซอร์” และ “เจฟฟ์ เฮนดริค” มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว ถือเป็นการเสริมแดนกลางของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
ในรายของเฟรเซอร์ซึ่งหมดสัญญากับบอร์นมัธนั้นเคยตกเป็นข่าวย้ายทีมกับทีมใหญ่อย่างอาร์เซน่อลในฤดูกาลก่อน ปีกชาวสก็อตในวัย 26 ปี ถือเป็นนักเตะตัวหลักของทีมบอร์นมัธมาตลอดการลงแข่งในศึกพรีเมียร์ลีกก่อนจะพลาดตกชั้นไปในซีซั่นก่อน
ความเร็วและการกระชากลากบอลของเฟรเซอร์ถือเป็นอาวุธเด็ด เมื่อผนึกกำลังกับ “อัลล็อง แซงต์-มักซีแม็ง” ปีกดาวรุ่งสัญชาติฝรั่งเศสที่ฟอร์มร้อนแรงมากในฤดูกาลก่อน เชื่อเหลือเกินว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลเหล่าทูน อาร์มี่ได้อย่างแน่นอน
ส่วนเฮนดริคที่พึ่งหมดสัญญากับเบิร์นลี่ย์นั้นถือเป็นการเสริมห้องเครื่องตัวฉกาจอีกคนเข้าไปในทีม จำนวนการลงเล่นถึง 122 นัดตลอด 4 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีกให้กับต้นสังกัดเก่า บอกได้เลยว่าหมอนี่คือของจริง คือตัวหลักของทีม คือนักเตะที่วิ่งขึ้นวิ่งลงชนิดที่ไม่มีเหน็ดเหนื่อย คือนักเตะสไตล์บ็อคทูบ็อค ที่จะเข้ามาเพิ่มมิติให้กับแผงกลางของทีม ซึ่งมี “จอนโจ เชลวีย์” เป็นแม่ทัพ และ “ไอแซค เฮย์เดน” เป็นตัวปัดกวาดอยู่หน้าแผงหลัง
ทั้งหมดนี้ถือเป็นรางวัลปลอบใจของสาวกทูน อาร์มี่ หลังจากที่ผิดหวังกับการเทคโอเวอร์จากกลุ่มทุนซาอุฯ หลังพรีเมียร์ลีกปฏิเสธเข้าซื้อสโมสรของกลุ่ม PCP Capital Partners, the Reuben Brother และ the Public Investment of Saudi Arabia (PIF) ไปจากอ้อมอกของท่านประธานตัวแสบอย่างไมค์ แอชลีย์ โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มทุนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประเทศซาอุดิอาระเบีย
ซึ่ง “สตีฟ บรู๊ซ” เองก็ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “สโมสรนิวคาสเซิลของเราเหมือนกำลังโดนพายุซัดโหมกระหน่ำ โดยเฉพาะในสัปดาห์นี้กับนักเตะที่เราซื้อเข้ามา ไม่เคยมีมาก่อนที่เราจะเซ็นผู้เล่นกว่าหนึ่ง สอง สาม หรือสี่คน เท่ากับที่เราพึ่งทำสำเร็จ และนั่นช่วยให้อารมณ์ของทุกคนดีขึ้น ไม่ใช่แค่แฟนบอล แต่รวมไปถึงบรรดาเหล่านักเตะ สต๊าฟโค้ช และผู้จัดการทีมด้วย ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำเข้ามา เราทำงานกันอย่างเงียบๆ เพื่อฝ่ามันออกมาให้ได้ แน่นอนว่าเมื่อเราข้ามผ่านเส้นออกมาด้วยความรวดเร็ว ผมคิดว่าทุกคนจะต้องยินดีกับงานที่พวกเราทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน”
“นิวคาสเซิล” มีโปรแกรมที่จะออกไปเยือนขุนค้อน “เวสต์แฮม” ในค่ำคืนนี้หรือเช้าวันอาทิตย์ เวลา 02.00 น. รอชมกันครับว่าเหล่านักเตะใหม่ของทีมสาลิกาดงจะสร้างอิมแพ็คให้กับทีมได้ขนาดไหน
Writer : MenthoL
โฆษณา