13 ก.ย. 2020 เวลา 01:06 • หนังสือ
รีวิวหนังสือ: เศรษฐกิจโลก 1000 ปี โดย ลงทุนแมน
"ประวัติเศรษฐกิจแบบกึ่งสำเร็จรูป"
นี่คือ หนังสือที่รวบรวมข้อมูลพลวัตรเศรษฐกิจโลก กว่า 1000 ปี มารวบรวมควบแน่น เป็นข้อมูลที่กระชับ เขียนให้อ่านเข้าใจง่าย สนุก และจบลงด้วยการใช้หน้ากระดาษเพียง 200 กว่าหน้าเท่านั้น
https://www.theobservingmind.co/book/1000-years-of-economic-history/
เนื้อหาในเล่มแบ่งออกเป็น 25 ตอนย่อย เริ่มจากยุคกลาง มาจนถึงยุคปัจจุบัน
โดยจุดเด่นคือการเล่าแบบ Timeline ที่เน้นให้เราเห็น Dynamic ความรุ่งเรือง เสื่อมถอย ของแต่ละขั้วอำนาจ ด้วยปัจจัยคร่าวๆชี้แจงพอให้เห็นภาพ
ทำให้เราเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไปหมดเป็นห่วงโซ่ โดยเฉพาะผลกระทบจากวงจรเศรษฐกิจ ที่มีต่อขั้วอำนาจต่างๆ
ตัวอย่างเช่น
ทำไมอยู่ดีๆอิตาลีที่เจริญมากมายในยุคเรเนอซองค์ ก็เสื่อมสลาย?
ทำไมสเปน หรือโปรตุเกส จึงเป็นชาติแรกๆ ที่ได้ออกเดืนเรือค้นพบอะไรต่างๆมากมาย ทำไมไม่เป็นอิตาลี ทั้งๆที่ติดทะเลหมือนกัน?
ทำไมเนเธอแลนด์จึงเจริญอยู่ช่วงหนึ่ง ทั้งๆตอนแรกมีแต่ชาวโปรตุเกสและสเปนแข่งกัน?
แล้วทำไมอยู่ดีๆ อังกฤษและฝรั่งเศสมาเจริญแทนเนเธอแลนด์?
สภาพการเมืองที่ต่างกันระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส มีส่วนยังไงกับการที่สุดท้ายอังกฤษกลายมาเป็นผู้นำโลก?
ลัทธิจักรวรรดินิยม มายังไง?
อเมริกาและญี่ปุ่นเริ่มมีบทบาทในเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ช่วงไหน?
ทำไม US dollar กลายมาเป็นค่าเงินหลักของโลก?
ทำไมญี่ปุ่น comeback ได้อย่างรวดเร็วหลังสงครามโลกครั้งที่ 2?
สงครามเวียดนามทำให้ประเทศไทยเจริญขึ้นได้ยังไง?
ทำไมรถญี่ปุ่นจึงนิยมไปทั่วโลก ทั้งๆที่รถยุโรปเกิดขึ้นมาก่อนตั้งนาน?
สหรัฐกับบ่อน้ำมันมีความสัมพันธ์กันยังไง ?
ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ อ่านง่าย ย่อยง่าย จากฝีมือการเขียนของลงทุนแมน ผู้เล่าเรื่องอะไรก็ดูง่ายไปหมด ... จึงไม่แปลกใจที่หนังสือเล่มนี้ขึ้นหิ้งหนังสือขายดี แบบถล่มทลาย
แต่ หนังสือเล่มนี้ อาจจะไม่ใช่ "หนังสือประวัติศาสตร์" ที่ดีนัก
ความเก่งที่แท้จริงของคุณลงทุนแมน ไม่ใช่การรวบรวมประวัติศาสตร์ทั้งหลายของโลกใบนี้มาย่อไว้ในหนังสือเล่มเดียว เพราะมีคนมากมายเคยทำก่อนแล้ว และทำได้ลึกซึ้งกว่ามาก
แต่มันคือการที่เขาสามารถเขียนมันให้ง่าย สนุก กระชับ และขายได้
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะนี่คือยุคที่ข้อมูลทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง และยิ่งทำให้ข้อมูลมันเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ดีขึ้นเท่านั้น
ในแง่หนึ่ง มันจึงเป็นหนังสือที่ทำหน้าที่ให้เค้าโครงเหตุการณ์ต่างๆได้ดี
แต่กับเรื่องสาเหตุเชื่อมโยงของเหตุการณ์ต่างๆนั้น หนังสือเล่มนี้สอบตก
เนื้อหาในเล่มขาดความลึกซึ้งไปมาก และเล่าเนื้อหาแบบง่ายเกินจริง (Oversimplify) แบบสุดๆ
เช่น ย้อนกลับไปที่ประเด็นคำถามข้างต้นที่ผมยกมา หนังสือเล่มนี้อธิบายมันได้ภายในไม่กี่บรรทัด ในขณะที่สาเหตุที่แท้จริงนั้น มันน่าจะซับซ้อนกว่านั้นมากมาย ผู้อ่านที่ไม่ระวัง ก็อาจจะ Fix Idea ไป
เนื้อหาในหนังสือก็ไม่ค่อยชวนให้ผู้อ่านได้ลองคิดตามบ้าง เน้นให้คำตอบแบบสำเร็จรูปไปเลย
เราอาจจะมองว่ามันก็ดูเป็นเหตุเป็นผล Smooth ดี แต่นั่นเพราะเรามองย้อนหลัง และถูกเล่นงานด้วย Hindsight Bias
สิ่งที่เกิดในอดีตหลายๆอย่างมันอาจไม่มีเหตุผลอะไรเลยก็ได้
อาจเป็นดวงล้วนๆ (เช่น อเมริกาลาภลอยจากที่ยุโรปตบตีกันเอง)
ดังนั้น กับคำโปรยหน้าปกที่บอกว่า “เรียนรู้อดีต เพื่อเข้าใจอนาคต" นั้นจึงอาจจะไม่ใช่เสมอไป
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จริงๆ ก็อาจมีเพียงเรื่องเดียว คือ มันไม่มีอะไรแน่นอนเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นวัฏจักร
การเปลี่ยนแปลงมันมาแน่ แต่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ สิ่งสำคัญคือเราต้องตระหนักถึงมันไว้ อย่าชะล่าใจมากเกินไป
คลิกอ่านสรุปเพิ่มเติมได้ที่ link ข้างล่างครับ
โฆษณา