14 ก.ย. 2020 เวลา 00:29 • สุขภาพ
ด่วน !! จีนเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 100,000 คน โดยที่ยังวิจัยไม่เสร็จสมบูรณ์ แปลว่าอะไรกัน ลองติดตามรายละเอียดดูครับ
1
1) Sinovac Biotech บริษัทเอกชนรายใหญ่ของจีนเจ้าของวัคซีน CoronaVac ซึ่งเป็นวัคซีนหนึ่งในสี่ชนิดของจีน ที่อยู่ในระหว่างการวิจัยในมนุษย์เฟสสาม ได้รับการรับรองให้สามารถฉีดวัคซีนได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว(Authorized Under an Emergency use program) จึงได้นำวัคซีนดังกล่าวมาออกงานนิทรรศการการค้านานาชาติที่นครปักกิ่ง เมื่อวันที่ 6 กันยาบน 2563 เป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก
วัคซีน CoronaVac ของบริษัท Sinovac
บริษัทวัคซีนยักษ์ใหญ่ของจีน
2) ส่วน Sinopharm บริษัทซึ่งรัฐเป็นเจ้าของหรือเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งเป็นเจ้าของวัคซีนสองในสี่ชนิดของจีนที่ทดลองอยู่ในเฟสสามเช่นกัน ได้แถลงผ่านสถานีวิทยุแห่งชาติของจีนว่า ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจีนไปแล้วนับ 100,000 คนเช่นกัน ถึงแม้การวิจัยในเฟสสามจะยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และยังไม่ได้มีการสรุปผลงานวิจัยดังกล่าวก็ตาม
3) จีนได้เลือกยุทธศาสตร์ทางลัด (Shortcut)ในการเร่งนำวัคซีนออกมาใช้ โดยเป็นการให้วัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ผ่านการอนุมัติของรัฐบาลจีนตั้งแต่ปลายกรกฎาคม 2563
1
ภายใต้กฎหมายของประเทศจีน จะอนุญาตให้สามารถฉีดวัคซีนเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินได้ โดยต้องอยู่ในกรอบและเวลาที่จำกัดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่า ขณะนี้จีนอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวหรือไม่อย่างไร เพราะอัตราการติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนขณะนี้ก็มีน้อยมาก
โดยการฉีดวัคซีนนั้น จะดำเนินการฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ในเบื้องต้นหมายถึงบุคลากรทางการสาธารณสุขที่ต้องทำงานกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเจ้าหน้าที่ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
4) การวิจัยในเฟสสามนั้น เป็นการวิจัยขั้นตอนที่สำคัญมากและจำเป็นก่อนที่จะนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อดูประสิทธิผล(Efficacy)ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสในสถานการณ์จริงได้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้วัคซีนของบริษัท Sinopharm ได้เริ่มทดลองเฟสสามในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มอร็อกโค และเปรู โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563
ในขณะที่วัคซีนของ Sinovac ได้เริ่มวิจัยเฟสสามที่บราซิลเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 และตามด้วยการวิจัยทดลองในประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม 2563
1
สาเหตุที่ต้องทำวิจัยเฟสสามนอกประเทศจีนเพราะ จีนเองมีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อย การจะพิสูจน์ว่าวัคซีนได้ผลในการป้องกันโรคจริงหรือไม่นั้น จะต้องทำในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูง จึงเป็นเหตุที่น่าสงสัยว่า แล้วทำไมจีนซึ่งมีผู้ติดเชื้อน้อยในขณะนี้ จึงนำวัคซีนมาฉีดแล้วนับ 100,000 คน
1
5) ประเทศจีน ประเทศรัสเซีย ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนของตนเองแล้ว โดยที่การวิจัยในเฟสสามยังไม่เสร็จสิ้น
6) ส่วนสหรัฐอเมริกาเอง ก็อยู่ท่วงทำนองเดียวกัน เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศกดดัน ว่าสหรัฐฯจะมีวัคซีนฉีดแน่นอนก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 และต่อมาทาง USCDC ก็บอกว่า ได้เตรียมจะฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงในปลายเดือนตุลาคมและก่อนต้นเดือนพฤศจิกายน2563 แน่นอน สร้างความกังวลว่า การกำหนดวันดังกล่าวแบบนี้ น่าจะสัมพันธ์กับเรื่องการเมืองคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563
2
7) มีเก้าบริษัทชั้นนำของโลกที่ผลิตวัคซีน ได้ประกาศร่วมกันเป็นประวัติศาสตร์ว่า จะไม่ดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนวัคซีน จนกว่าจะมีข้อมูลวิจัยของเฟสสามครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน โดยต้องสามารถแสดงถึงความปลอดภัย(Safety) และประสิทธิผล
(Efficacy)ในการป้องกันโรคได้ จะไม่ยอมลดหย่อนเกณฑ์มาตรฐานการผลิตวัคซีน (ในเก้าบริษัทดังกล่าวนั้นไม่มีบริษัทของจีนรวมอยู่ด้วย)
6
8) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัคซีน ได้แสดงความกังวลว่า การเร่งหรือการข้ามขั้นตอนสำคัญของการวิจัยในเฟสสาม จะมีโอกาสทำให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องความปลอดภัย และอาจจะไม่มีประสิทธิผลที่สามารถป้องกันโรคได้จริง
ปัจจุบัน (11 กันยายน 2563) มีวัคซีนที่กำลังวิจัยอยู่ทั่วโลก 211 ชนิด โดยมี 9 ชนิดที่กำลังวิจัยอยู่ในเฟสสาม 4 ชนิดนั้นเป็นของประเทศจีน การวิจัยเฟสสามเพื่อจะดูสิ่งที่ไม่สามารถพบในเฟสหนึ่งและสอง เนื่องจากเป็นการทดลองในประชากรจำนวนน้อย
1
9)โปรแกรมฉุกเฉินดังกล่าว ได้รับการอนุมัติจาก State Council ของทางการจีน เมื่อ 24 มิถุนายน 2563 และในหนึ่งเดือนถัดมา คือ 22 กรกฎาคม 2563 ก็ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
2
โดยผู้อำนวยการโปรแกรมวัคซีนของจีนแจ้งว่า เน้นฉีดเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ บุคลากรทางสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง คนงานในตลาดสด เจ้าหน้าที่ทำงานขนส่งสาธารณะ และคนงานในอุตสาหกรรมบางประเภท
10)ประชาชนที่รับวัคซีนในโปรแกรมดังกล่าว ได้มีการเซ็นยินยอม และจะมีการติดตามประเมินผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิด
ผู้บริหาร (CEO) ของ Sinovac บอกว่า 90% ของพนักงานและครอบครัวได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยความสมัครใจแล้ว
บริษัทวัคซีนรายใหญ่ของจีน
11) ปลายมิถุนายน 2563 CanSino Biotech ก็ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับทหารจีนแล้วเช่นกัน
12) Dr.Moore นักวิทยาภูมิคุ้มกัน
(Immunologist) จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง Cornell กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ควบคุมได้ดีของจีน จีนน่าจะรอให้ผลการวิจัยเฟสสามเสร็จสมบูรณ์จนทราบถึงระดับความปลอดภัยและระดับประสิทธิผลของการป้องกันโรค ก่อนจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป การวิจัยในเฟสหนึ่งและสองที่มีผลค่อนข้างดีนั้น ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงในเฟสสาม เพราะอาสาสมัครที่ทดลองในเฟสหนึ่ง/สองนั้นมีจำนวนน้อย อาจจะยังไม่พบผลข้างเคียงชนิดรุนแรงแต่เกิดไม่บ่อย
ดังนั้นจึงต้องใช้ผลวิจัยในเฟสสามมาช่วยตรวจหาผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนั้น การฉีดให้คนนับ 100,000 คนโดยที่ยังไม่มีผลวิจัยเฟสสามย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
องค์การอนามัยโลก(WHO)ก็ได้ออกมาประกาศว่า การวิจัยในเฟสสามนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
Dr.Salmon ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีน Johns Hopkins กล่าวว่า เราจำเป็นต้องมีอาสาสมัครหรือตัวอย่างในการวิจัยเฟสสามที่มากพอ และจะต้องมีระยะเวลาของการติดตามประเมินผลเพื่อดูความปลอดภัย และประสิทธิผลของวัคซีนที่นานพอด้วย จึงจะสามารถเกิดความมั่นใจในการฉีดวัคซีนเป็นการทั่วไป
ปัจจุบัน Sinopharm ได้แจ้งว่า ผู้ที่รับการฉีดวัคซีนไปแล้วนั้น ยังไม่มีใครมีผลข้างเคียงที่รุนแรง และยังไม่มีผู้ใดติดเชื้อไวรัส ซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในเฟสหนึ่งและสอง แต่ได้มีรายงานว่าอาสาสมัครในเฟสหนึ่งและสองไม่มีผู้ใดมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงและในบรรดาผู้ที่มีผลข้างเคียงไม่รุนแรงนั้น ก็มีจำนวนไม่มากนัก
เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า สามประเทศมหาอำนาจของโลก ได้แก่สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน ต่างก็มีผู้นำหรือผู้บริหารประเทศที่เน้นนโยบายหรือสนับสนุนนโยบาย “การเมืองนำการแพทย์”
จึงทำการเร่งหรือลัดขั้นตอนของวัคซีน โดยเน้นไปที่ความสำเร็จของวัคซีนเพื่อสร้างความภูมิใจของคนในชาติ ซึ่งอาจจะหมายถึงการเน้นถึงระดับความนิยมในตัวผู้นำซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว หรือการทำให้ผู้นำที่มีวาระการเลือกตั้งได้รับความนิยมกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เป็นนโยบายแนวคิดที่น่าเป็นห่วงมากครับ
1
Reference
โฆษณา