14 ก.ย. 2020 เวลา 04:57 • สุขภาพ
ถ้าวัคซีนต้านเชื่อโควิด-19ช่วยให้รอดชีวิต ถ้าฉันฉีดเข้าไปใครจะมารับรองว่าฉันจะไม่ป่วยหรือถ้าไม่ฉีดน่าจะดีกว่า เพราะสุดท้ายคนที่แข็งแรงคือคนที่ธรรมชาติเลือกที่จะให้รอด ใครบอกได้บ้างว่าสรุปอะไรดีที่สุด การเร่งพัฒนากันเกินไปดีหรือเปล่า
cr:BBC.NEWS.COM
เมื่อผู้นำหลายๆประเทศกำลังทำสงครามกับมหาเชื้อโรค" โควิด-19" นอกจากต้องใช้ทุนมหาศาลเพื่อวางแผนซื้อวัคซีน รวมทั้งต้องระดมให้
ความช่วยเหลือ และค่าใช้จ่ายกับเงินจำนวนมากมายเพื่อมากู้วิกฤต ไม่มีก็ต้องหากู้ยืม เพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกไวรัสทำร้ายทำลายชีวิต ความเป็นอยู่ ธุรกิจ การงาน และสุดท้ายการดำรงชีพในการใช้ชีวิตแต่ละวัน และกับการลงทุนในวัคซีนทั่วโลก
แต่มีส่วนหนึ่งกำลังคิดว่าวัคซีนไม่จำเป็น และไม่ต้องการที่จะฉีด
WHOได้ออกมาประกาศว่า
1ใน10ภัยคุกคามภาวะสุขภาพของมนุษย์คือการขาดความเข้าใจ
ในการรับวัคซีนพื้นฐานในมนุษย์ และปฏิเสธการฉีดวัคซีน
cr:ภาพจากข่าวกรุงเทพธุรกิจ
เหตุผลจากการศึกษาวิจัยและการรวบรวมความรู้และการสัมภาษณ์ผู้ที่ปฏิเสธวัคซีนมาจาก
1.ความเชื่อและทัศนคติของคนที่ปฏิเสธ
กลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ความเชื่อที่ได้รับการถ่ายทอดหรือจากประสบการณ์ที่มีอคติ ตัวอย่าง เช่น ภายหลังการรับวัคซีนแล้วป่วย มีไข้ ชัก หรือสิ่งที่ตามมา เช่น พัฒนาการเด็กช้า ก็เชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุจากวัคซีน ตามมาฟ้องร้องกัน ต้องทำการสืบค้นย้อนหลัง ก่อนจะสรุปว่า เกิดจากปัญหาพันธุกรรมของครอบครัวเอง หรือมีไข้ก่อนไปฉีดวัคซีน แล้วไม่มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนชัดเจน ต่อมาเกิดปัญหามีอาการชักขึ้นได้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาการชักในเด็กอาจเกิดจากการมีไข้สูง มีความเป็นไปได้ที่จะแพ้ยาแล้วส่งผลต่อสมองแต่ พบได้น้อยมากๆ ถ้าจะเปรียบเทียบสัดส่วนจำนวนการติดโรคแล้วป่วยตายจะมากกว่ามาก
2
และในบางความเชื่อหรือบางศาสนาการฉีดวัคซีน(ยาชนิดหนึ่ง) คือการฝืนกฏธรรมชาติ เพราะในความจริงถ้าร่างกายมนุษย์อ่อนแอและติดโรคตาย เป็นการคัดเลือกพันธุ์มนุษย์ที่แข็งแรงให้รอด เท่ากับเป็นการเลือกด้วยวิธีธรรมชาติที่จะคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ดำรงต่อไป
(แล้วถ้าตรูป่วยตายคือธรรมชาติตั้งใจจะคัดออกใช่หรือเปล่า)
2.การเชื่อว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ
คือการที่วัคซีนก็คือเชื้อโรคที่อ่อนแรง การเอาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคที่อาจทำให้เจ็บป่วยและตายหรือพิการ และไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้จริง
ในความเป็นจริงร่างกายมนุษย์มีความแตกต่างกัน ผลการตอบสนองที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันไม่เหมือนกัน ระดับภูมิที่เกิดขึ้นไม่เท่ากัน แม้จะได้มีการศึกษาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นมากมายเท่าใดในการทดสอบวัคซีน ก็อาจจะเกิดสัดส่วนที่ไม่พึงประสงค์ ที่อาจถือว่าต่ำมาก
มีการหยุดการทดสอบทันทีเมื่อเกิดอาการผิดปกติในอาสาสมัคร ซึ่งคาดว่าอาจมีสาเหตุจากวัคซีนได้ และความผิดปกติไปส่งผลกับอวัยวะที่สำคัญคือระบบประสาทและไขสันหลัง( มีการศึกษาว่าโอกาสที่จะเกิดการแพ้วัคซีน1:500,000-1,000,000) เท่ากับเราเองยอมให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
ในบางคนอาจฉีดแล้วภูมิคุ้มกันอาจขึ้นน้อยกว่าที่ต้องการก็ได้ แต่เพื่อให้เกิดการป้องกัน ก็ดีกว่าไม่มีอะไรป้องกันเลย
หรือเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่ดี เมื่อรับวัคซีนอาจส่งผลในทางที่ไม่ดีเช่นภูมิไม่ขึ้น ขึ้นน้อย หรือที่ร้ายแรงคือการที่เกิดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่มากจนเกินไปกลายเป็นภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองก็อาจเกิดขึ้นได้
หรือการเกิดภาวะ cytokine storm จากการสร้างภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนไปทำลายร่างกายส่วนที่ปกติได้
1
3.เชื่อว่ามีทฤษฎีสมคบคิดจากผู้ที่มีผลประโยชน์หรือการร่วมมือเพื่อหวังผล การเกิดความคิดที่แปลกกว่านั้นคือมีการทดลองหรือการสร้างเรื่องจากความเชื่ออิทธิพลของมนุษย์ต่างดาว หรือองค์กรที่ไม่เปิดเผยทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ปิดบังซ่อนเร้น
1
มีผลสนับสนุนที่มาจากการวิจัยพบว่า คนที่มีระดับการศึกษาสูง ประเทศที่เจริญ ร่ำรวย มีสัดส่วนความคิดต่อต้านวัคซีนมากกว่าประเทศที่ด้อยกว่าตัวอย่างที่พบ คือ การระบาดของโรคหัดกับเด็กเล็กๆ ในประเทศแถบอาฟริกา ในปี ค.ศ.2018 ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้ประเทศทางแถบนั้น เกิดจากพ่อแม่ชาวฝรั่งเศส ที่ไม่ยอมนำลูกไปรับการฉีดวัคซีน และเมื่อป่วยจึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมคือนำเชื้อเข้าไปแพร่ให้ประเทศที่น่าสงสาร
2
สำหรับโรคไวรัสโควิด-19 คงไม่ต้องพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ แม้ว่าการศึกษาที่มีจะมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอในปัจจุบัน สร้างความหวั่นกลัวกับการฉีดวัคซีนที่ฝั่งแน่น และอาจสร้างความวิตกกังวลให้กับฝ่ายที่ยอมฉีดแต่ก็เริ่มกลัวตาม กลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างเกิดความกลัวขึ้นมาได้ และเริ่มไม่มั้นใจว่าควรจะฉีดหรือไม่ฉีด
2
การศึกษาความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการรับวัคซีนใน 142ประเทศทั่วโลก พบว่าระดับการศึกษาและความร่ำรวยมีผลต่อสัดส่วนความเชื่อมั่นในวัคซีนต่ำ
cr:BBC.news.com
และอาจเป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดที่จะตามมา สำหรับการที่จะเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว เพราะถ้ามีเงื่อนไขการฉีดวัคซีนขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว คนเที่ยวคือคนที่มีเงิน แต่ในเมื่อวัคซีนที่ยังไม่ปรากฏหลักฐานการพิสูจน์ถึงความปลอดภัยยาวนานพอ และอะไรคือ มาตรการหลักที่จะช่วยเราได้ในการสร้างความปลอดภัยให้กับทั้งสองฝ่าย
ในขณะที่ผลการยืนยันจากการศึกษาพบว่า ภายหลังที่ร่างกายถูกโควิด-19 เล่นงานมักจะทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งวัคซีนสูตรแหล่งด่วนของแต่ละประเทศ (เร่งผลิต ลดขั้นตอนการตรวจสอบ หาทางลัด) กำลังจะไหลเข้าสู่ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ
ธรรมชาติคือผู้กำหนดชะตากรรมของมนุษย์ หรือว่า มนุษย์ผู้เห็นแก่ตัวกำลังกำหนดชะตาชีวิตของผู้ที่ด้อยกว่า
cr:ภาพข่าวTNNNEWSข่าวค่ำ
เมื่อบางประเทศยังไม่ยอมรับแม้การที่จะสวมหน้ากาก ที่ต้องเน้นว่าเป็นหน้ากากที่มีคุณภาพและใช้อย่างถูกวิธีจึงปลอดภัย แล้วการฉีดวัคซีนก็มีผู้ออกมาต่อต้านในหลายประเทศ ในขณะที่อัตราป่วยก็ยังพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ยังพบว่ามีความเชื่อของการมีระบบภูมิคุ้มกันหมู่ในหลายประเทศ
แม้จะมีผลการศึกษาวิจัยที่พบว่าเด็กคือกลุ่มที่รับเชื้อและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ที่ได้รับการยืนยันจากเกาหลีใต้และอเมริกาที่มีระบบสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน แต่ ผู้นำหลายประเทศยังไม่เชื่อเรื่องการหยุดเรียนเมื่อเกิดการระบาด โดยเฉพาะ บางประเทศ เช่น สวีเดนประกาศว่าถ้าได้วัคซีน จะให้ผู้ที่ต้องการและเป็นกลุ่มเสี่ยง ส่วนเด็กที่ต่ำกว่า18ปีจะไม่บังคับ ยกเว้นกลุ่มเด็กที่มีความเสี่ยง
1
หลายๆประเทศในแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ที่มีระดับการศึกษาสูงและร่ำรวยยังไม่ยอมเชื่อมั่นการฉีดวัคซีน หรือว่าพวกคุณกำลังรอคอย ให้บางกลุ่มได้รับการฉีดไปก่อนนั้นเอง พอผลการศึกษามีมากๆขึ้นก็คงไม่สายที่จะฉีด เพราะถ้าการฉีดวัคซีนดี จริง พวกท่านก็สามารถอยู่กับพวกไม่ป่วยได้อย่างปลอดภัย เอ๊ะๆ เห็นแก่ตัวหรือเปล่า หรือว่าเป็นความคิดที่ดี🤗🤗 อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าทัศนคติของใครของมัน ว่าแบบใดจะเป็นที่ยอมรับในที่สุด
1
Reference
โฆษณา