14 ก.ย. 2020 เวลา 13:39
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่3,
(13/9/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขออนุญาตส่งจันทร์เจ้าขา ตอนสั้น ให้เพื่อนๆได้อ่านกันให้เพลิดเพลิน ในคืนวันจันทร์นี้นะครับ 😇💙💚❤️
สุขสันต์วันจันทร์นะครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 3 ปักษาวายุภักษ์(3)
#ระยะทางประมาณ สามล้านโยชน์4หมื่นคาวุตจากประตูวิญญาณฝั่งพระนคร,
หนูพาได้ปีนขึ้นมานั่งบนหลังคอของปักษาวายุภักษ์
แล้วเอาตะเกียงไฟวิญญาณสอดซ่อนผูกติดกับขนหนานุ่มนั้น.. ก่อนจะยืดคอชะเง้อมองทิวทัศน์บริเวณโดยรอบของโลกวิญญาณอย่างตื่นตาตื่นใจ..
“ขอบคุณนะเจ้าคะ.. ถ้าไม่ได้คุณพี่นกมาช่วย..หนูพาคงเดินกันขายืดขายาว ..
แน่ๆ เลยเจ้าค่ะ..”
หนูพาเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับยกมือไหว้ปักษาวายุภักษ์ ด้วยความซาบซึ้ง..
“แกร๊วว!!” ปักษาวายุภักษ์ร้องตอบเสียงดังกังวาน..
“ต้องขอบคุณหม่อมท่านด้วยนะเจ้าคะ ที่ส่งคุณพี่นกไดโนซอร์ มาอำนวยความสะดวกให้หนูพาถึงขนาดนี้
บินเร็ว นุ่มนวล ตลอดการเดินทางจริงๆ เจ้าค่ะ..”
1
หนูพากล่าวขอบคุณหม่อมทินกร พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ อีกครั้งหนึ่ง..
“แกร๊วว!!” ปักษาวายุภักษ์ร้องตอบรับเสียงก้องกังวานดังกว่าเดิม..
หนูพาโน้มตัวลงกางแขนโอบปักษาวายุภักษ์ แล้วพูดว่า “อีกไม่ไกล ใช่มั้ยเจ้าคะ.. ที่เราจะถึงที่หมาย”
“แกร๊ววๆ!!” ปักษาวายุภักษ์ร้องตอบอีกครั้ง..
1
“แกร๊วๆ.. นี่คือ ที่หมายใดกันนะเจ้าคะ..ฮิฮิ หวังว่า ที่หมายนั้น คงจะไม่ได้เป็นหม้อต้มแกงข่าหนูพา นะเจ้าคะ..ฮะฮะฮะ”
1
หนูพาพูดพลาง หัวเราะเสียงใส..
“แกร๊วว!!” ปักษาวายุเอี้ยวคอหันมามองทางหนูพา แล้วร้องตอบเสียงดังฟังชัด ..
..
..
หนูพาสะดุ้งโหยง กับเสียงร้องตอบ ..แล้วจึงถามต่อว่า
1
“อุ่ย..แกร๊ววนี้ คือ ใช่หรือ ไม่ใช่..นะเจ้าคะ..”
“แกร๊วๆ!!” ปักษาวายุภักษ์ ส่งเสียงร้องอีกครั้ง แล้วจึงหันหน้ากลับไป กระพือปีกเร่งความเร็ว พุ่งฝ่าความมืดของรัตติกาลแห่งโลกวิญญาณ..
หนูพาเอามือข้างหนึ่งควักปากกาขนนกขึ้นมากุมแนบอก.. หลับตา ถอนหายใจแล้วรำพึงเบาๆกับตัวเองว่า..
“แล้วแต่หม่อมท่านจะนำพา หนูพาเลยนะเจ้าคะ..”
“แกร๊วๆ” เสียงปักษาวายุภักษ์ ร้องดังกังวานความมืดในรัตติกาลแห่งโลกวิญญาณนั้นอีกครั้ง..ก่อนที่จะเร่งความเร็วขยับปีกบินอ้อมวินันตกะคีรี..ในสัตตบริภัณฑ์คีรี อันเป็นที่อยู่ของบรรดาเหล่าครุฑผู้ปกปักดูแลนางวินตา..
แล้วเตรียมตัวฝ่าพายุ “วาตโมหะ” แห่งทะเลสีทันดรที่ขวางกั้นไว้..
หนูพากุมปากกาขนนกแน่น แล้วค่อยๆหลับตาลง ด้วยความเหนื่อยอ่อน พร้อมกับละเมอ ท่องบทกลอนหนึ่งขณะอยู่ในภวังค์นิทรา ขึ้นมาว่า ..
“สิบเอ็ดค่ำคุรุวาร์ยิ่งอาวรณ์ ..พร้อมนิกรเทียบท่าในวารี
จอมณรงค์ทรงพักตำหนักน้ำ..ได้ฤกษ์ย่ำฆ้องโห่ประทับที่
เสด็จลินลาศยาตราลงวารี ..โดยวิถีแถวท่าชลาลัย”
พักหนึ่งขณะที่ หนูพากำลังหลับสนิท.. ก็ปรากฏเท้าเล็กๆ ก้าวยื่นออกมาจากเปลวไฟสีเขียว ..เท้านั้นคล้ายเป็นรากซึ่งมีเศษดินติดอยู่..จากนั้นมือเล็กๆ ก็ค่อยโผล่เอื้อมมาจับก้านตะเกียงรัตนมาลา และพาตัวเองดีดออกมาจากตะเกียง.. รีบวิ่งเข้าไปซุกตัวอย่างรวดเร็ว ในเงาของแขนซ้ายของคุณหนูพาที่จับขนคอของปักษาวายุภักษ์ไว้แน่นนั้น..
..
..
..
..
#ณ.โลกวิญญาณไม่ไกลจากประตูบริเวณป่าช้าเก่าเวียงกุมกามเมืองเชียงใหม่อำเภอยางเนิ้ง(อ.สารภี)
คุณหลวงหนุ่ม พินิจจ้องร่างไร้ศีรษะนั้นอยู่ครู่นึง..แล้วจึงเอ่ยกับ พระวัยทัต ว่า..
“ ขอองค์วัยทัต ทรงโปรดเมตตา อนุญาต ให้เบิกวิญญาณเจ้าน้อยพรหม และเจ้าอุบลวรรณา เพื่อให้การในศาลนี้..ด้วยเถิดขอรับ”
พระวัยทัต ทรงใช้ความคิดก่อนที่จะตอบคุณหลวงวิสุทธิ์ภุชงค์ว่า..
“อันการเบิกพยานในฝ่ายโลกวิญญาณ เช่นเจ้าน้อยพรหม ก็เป็นการยากซึ่ง ไม่เป็นปกติอยู่แล้ว.. หากจะให้เบิกพยานซึ่งยังมีชีวิตอยู่
เช่นเจ้าอุบลวรรณา.. ก็น่าจะเป็นการขัดต่อกฏการปกครองในฝ่ายโลกวิญญาณ..
ข้าเกรงว่า ข้าจะช่วยเหลือท่านวิสุทธิภุชงค์นาค ในเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ..”
คุณหลวงหนุ่มฟัง และพยักหน้าตามอย่างเข้าใจ..
แล้วจึงล้วงหยิบเหรียญรูปประหลาด ออกมา.. เหรียญนั้นด้านนึงของเหรียญเป็นรูปนกใหญ่(ที่ไม่ใช่ครุฑ) คาบงูไว้ในปาก และขาทั้งสองข้าง ก็จับงูไว้เช่นกัน
ส่วนด้านหลังเป็นภาษาต่างชาติ ล้อมรอบ สัญลักษณ์บางอย่างคล้ายภูเขาที่มีรัศมีออกมา .. นำมาวางตั้งอยู่บนลานพิพากษาแห่งนั้น
พร้อมกล่าวว่า..
“แต่หาก เป็นการเบิกตัวเจ้าอุบลวรรณาขณะที่กำลังทำพิธีทรงเจ้าประทับวิญญาณ ก็คงกระทำได้ ไม่ขัดต่อกฏโลกวิญญาณ กระมังขอรับ..
ด้วยว่าเจ้าตัว ถอดวิญญาณตนเองแล้วให้วิญญาณผู้อื่นประทับร่างของตน..”
พระวัยทัต เพ่งมองเหรียญนกนั้น แล้วจึงกล่าวว่า
“เหรียญนกปักษาวายุภักษ์ ซึ่งอานุภาพในเนื้อโลหะของเหรียญนี้.. ถูกสร้างขึ้นในเหมืองแห่งราชอาณาจักรลึกลับอินคาโบราณ..เพื่อเป็นค่าไถ่ทั้งในฝ่ายโลกวิญญาณ หรือโลกมนุษย์..ทั้งยังเป็นเหรียญซึ่งใช้ในการเป็นค่าจ้างในการข้ามไปมา
ระหว่าง ทะเลสีทันดร ของความเป็น และความตาย ตั้งแต่สมัยอาณาจักรเทพอันเก่าแก่ก่อนหน้านั้นอีก..
ดังนั้น หากนำมาใช้เป็นค่าผ่านทางในประตูของเจ้าอุบลวรรณาในครั้งนี้ จึงสามารถทำได้..
และ ด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวของพยานในร่างมนุษย์นั้น กำลังกระทำตนยุ่งเกี่ยวกับโลกวิญญาณ อันขัดต่อจารีต.. ไม่เพียงแต่จะเบิกตัวมาได้เท่านั้น..
หากจะกระทำการประหารฝ่ายเนื้อหนังด้วยโทษที่ยอมให้วิญญาณอื่นปกครองเหนือร่างของตน.. ก็ย่อมทำได้เช่นกัน..
1
เหตุฉะนั้นแล้ว ข้าขอรับเหรียญนกนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำวิญญาณของเจ้าอุบลวรรณา เข้าสู่กระบวนการไต่สวนในครั้งนี้.. แต่โปรดจำไว้ว่าการไต่สวนเจ้าอุบลวรรณา จะกระทำได้เพียงช่วงเวลาแห่งการเข้าทรงประทับ เท่านั้นนะ ท่านวิสุทธิภุชงค์นาค..
จงนำ.. วิญญาณที่ยังหลงทางของเจ้าน้อยพรหม และวิญญาณอันไม่อยู่กับตนของเจ้าอุบลวรรณา มาที่ลานแห่งนี้ ในบัดนี้..”
ทันที ที่พระวัยทัตกล่าวจบ ก็ปรากฏลมหมุนบริเวณในคอกพยานอีกด้าน.. และไฟสีเขียวพวยพุ่งจากเหรียญในรูปปักษาวายุภักษ์..ราวกับปักษาวายุภักษ์กำลังกระพือปีกร่ายรำ ก่อนที่จะบินขึ้นสู่นภาแห่งรัตติกาล ..
จนกระทั่ง ลมหมุนและไฟนั้นวูบดับลง ก็ปรากฏร่างของชายปริศนาอีกคน ในคอกพยานนั้น..
ร่างงามดูสมส่วน แต่ไม่มีศีรษะ.. ยืนถือดาบทั้งสองมือ ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยลวดลายรอยสักอันประณีตบรรจงของสัตว์เทพ.. และบริเวณไหล่ซ้ายของนั้น ยังมีรอยแผลถูกฟันลึก..
ปรากฏอยู่เช่นกัน..
..
..
ส่วนตำแหน่งที่วางเหรียญนกกลางลานพิพากษา ..
บัดนี้เหรียญนั้น..ขณะนี้ได้เหลือเพียงผงขี้เถ้า..และปรากฏร่างเจ้าอุบลวรรณา หมอบกราบนิ่งอยู่...แทนที่เหรียญนั้น..
..
..
“จงคลายมนตรา..เปิดคอกพยานทั้งสอง ณ.บัดนี้”
พระวัยทัต ออกคำสั่งด้วยสิทธิอำนาจ พร้อมกับกระแทกไม้เท้าในพระหัตถ์ขวาลงกับพื้น จนสั่นสะเทือนไปทั่วลานพิพากษาแห่งนี้..
ทันใดนั้นใบหน้าทั้งสี่ของซากหัวมนุษย์จิ๋วที่ติดอยู่กับไม้เท้าของพระวัยทัต ก็ลืมตาอ้าปากส่งเสียงพร้อมกันว่า “เอฟฟาธา (Ephphetha )”
คอกพยานมนตรานั้น ก็เปิดออกในทันที..
..
..
เจ้าอุบลวรรณาเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์ตรงหน้า อย่างไม่เชื่อสายตา แล้วจึง อุทานกับตนเอง.. เมื่อเห็นว่าร่างไร้ศีรษะทั้งสองร่าง ที่ถือดาบกำลังพุ่งออกจากคอกมนตรา มุ่งตรงมายังเจ้าอุบลวรรณอย่างรวดเร็ว
“หม่องบอง.. ข้าเจ้า..มิได้เป็นผู้ผิดสัญญา.. ลวงตั๋วไปหื้อถูกสังหาร ในคืนนั้นเลยหน่ะเจ้า..
หากหม่องบอง หมะเชื่อใจ๋ หมะเชื่อในฮักของข้าเจ้า..แต่เชื่อกำสีเน(คำเล่าลือ)หมู่เขา..
ข้าเจ้าขอชดใจ๊ หม่องบองด้วยชีวิตของข้าเจ้า ในคืนนี้น่ะเจ้า..”
เมื่อพูดจบ เจ้าอุบลวรรณาก็ลุกยืนขึ้น แล้วหลับตาลงพร้อมหยดน้ำตา ที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย..เตรียมรอรับความตาย ที่กำลังพุ่งเข้ามาหา..”
..
..
และก่อนที่คุณหลวงหนุ่มและทหารในโลกฝ่ายวิญญาณ จะพุ่งเข้ามาป้องกันเจ้าอุบลวรรณได้ทัน
ดาบคู่ของ ร่างไร้ศีรษะในคอกพยานแรก ..ก็พุ่งแทรกเข้ารับดาบแรกของร่างไร้ศีรษะที่ปรากฏตัวในภายหลังที่ฟันลง..
“....แกรงงค์!!!!...”
พร้อมกับดึงเจ้าอุบลวรรณาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แล้วเอาแผ่นหลังของตนเอง รับคมดาบที่สอง แทนเจ้าอุบลวรรณา..
“ฟึบ..ฉั๊วะะะะ!!!” คมดาบที่สอง กรีดผ่านแผ่นหลังของผีหม่องบองที่ไร้ศีรษะ ที่กำลังโอบปกป้องเจ้าอุบลวรรณา จนร่างนั้นสั่นสะท้านตามแรงดาบ..
และขณะที่ ร่างไร้ศีรษะของเจ้าน้อยพรหมกำลังตั้งวงเพลงดาบคู่ที่สาม เพื่อจะฉีกร่างของผีหม่องบอง และเจ้าอุบลวรรณา..
ทันใดนั้น มนต์อักษร ยอดพระคาถา นะจังงัง ของคุณหลวงหนุ่ม ก็มาถึงร่างของเจ้าน้อยพรหม..
และมนต์อักษรพระพุทธคุณนั้น ก็มัดล้อมวนมนต์นะจังงัง ตรึงเจ้าน้อยพรหมให้ขยับเขยื้อน มิได้ตามใจนึก
“พุทธัง สะระณัง คัจฉามิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
โสโส กาวิระ ตะจิตโต โยโส ปะมาโณ โสสะ เทวะเกสังโก ปัตเต ธัมโม โสพะระวะนัง นะมิหัง มะอะอุ มะอะ มะอุ ฯ..”
เจ้าอุบลวรรณาลืมตาขึ้นมาและเรียกชื่อหม่องบอง เบาๆ ครั้งหนึ่ง.. ก่อนที่จะหลับตาสลบไปอีกครั้ง..
..
..
..
#ณ.บริเวณงานเลี้ยงหน้าตำหนักในเขตพระนคร
ขณะที่คุณไกรสร กำลังมองหาคุณหนูพา ในงานเลี้ยงนั้น..คุณไกรสร ก็รู้สึกเสียวแปร๊บในหัวใจ..ด้วยอาการคล้ายตกจากที่สูง..จนต้องเอามือมากุมที่หน้าอกข้างซ้าย แล้วอุทานว่า
“โหงพราย.. นี่เจ้า..”
“เป็นอะไร ไปรึเจ้าคะ คุณไกรสร” คุณหนูน้อยซ์เอ่ยถาม ด้วยเสียงดังฟังชัด..
“เอ้อ.. มิได้เป็นอะไรมาก ขอรับ คุณหนูน้อยซ์.. กระผมแค่อยากจะขอกลับไปช่วยตรวจดู คุณหนูพาที่บริเวณเรือนมหาดเล็กให้ทั่ว อีกสักครั้งหนึ่ง น่ะขอรับ” คุณไกรสรตอบคุณหนูน้อย แต่กลับหันไปมองยังเรือนมหาดเล็ก อย่างร้อนใจ..
..
..
“.. ดื่ม เจ้าค่ะ.. คุณไกรสร”
คุณหนูน้อยยกแก้วแชมเปญ ขึ้นให้คุณไกรสรพร้อมเรียกด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ ที่ติดสำเนียงทางใต้อยู่บ้าง..
1
คุณไกรสร หันหน้ากลับมามองคุณหนูน้อยซ์ ด้วยความแปลกใจ ในบุคลิกที่ผิดกับกุลสตรีในตำหนักอื่นๆ..
หัวที่โนปูดของคุณหนูน้อยซ์..ขณะนี้ได้เปลี่ยนสีเป็นรอยแดงจ้ำช้ำ..
แต่สายตาที่สดใส คู่นั้นกลับเต็มไปเปี่ยมด้วยประกายแห่งความเข้มแข็งและพลังบางอย่าง ที่คุณไกรสร มิอาจหาเหตุหลีกเลี่ยงในการดื่ม..
“เป็นการชนแก้วที่ค่อนข้างจะไม่ยุติธรรมเลยนะขอรับ.. กระผมดื่มแชมเปญ แต่คุณหนูน้อยดื่มน้ำใบเตยฝีมือครูแม่ช้อย.. “
คุณไกรสรเอ่ยท้วง และ
หัวเราะเบาๆ..
“พูดจาวกวน เหมือนมิอยากจะดื่ม รึเจ้าคะ?..” คุณหนูน้อยซ์ พูดพลางจ้องตาคุณไกรสรเขม็ง.. และรอยแดงปูดโนที่หัวนั้น ทำให้เหมือนมีตาที่สาม กำลังจับจ้องเพิ่มขึ้น..
“เอ่อ.. มิได้ขอรับ.. เชิญดื่มขอรับ” คุณไกรสรยกแก้วขึ้นชน แล้วดื่มแชมเปญ แก้วนั้น หมดในอึกเดียว..
คุณหนูน้อยซ์สังเกตเห็นอาการรีบร้อนของคุณไกรสร จึงเอ่ยขึ้นว่า..
“อีกสักครู่ เจ้าคุณสันติ.. ก็จะเดินทางมาถึงงานเลี้ยงแล้วนะเจ้าคะ..
หนูน้อยซ์กับคุณหนูพา มีมุมลับ..ที่สามารถนั่งฟัง ท่านเจ้าคุณหารือข้อราชการกับเหล่ามหาดเล็กคนสำคัญได้นะเจ้าคะ..
คุณไกรสร สนใจไปนั่งฟังกันมั้ยเจ้าคะ.. ไม่แน่ว่า คุณหนูพา อาจจะไปนั่งหลบมุมแอบฟังอยู่แล้ว ก็เป็นได้นะเจ้าคะ..”
“จริงหรือขอรับ..ถ้าได้เช่นนั้น ก็จะดีมากเลยขอรับ..
เพราะการประชุมคราวนี้ กระผมมิได้ถูกเชิญให้เข้าประชุม..น่ะขอรับ
การได้ฟังก่อน ก็เป็นการดีมากขอรับ.. เพราะบางทีถ้าคุณพีระ นำมาบอกเล่าไม่ครบถ้วน..กระผมจะได้เตรียมงานล่วงหน้า ไว้ให้น่ะขอรับ..
สถานที่นั้นอยู่ที่ไหนกันรึขอรับ.. เรารีบไปกันเถิดนะขอรับ..” คุณไกรสร กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ..
“.. ดื่มอีกสักแก้วก่อนเถิด เจ้าค่ะ.. คุณไกรสร” คุณหนูน้อยคว้าแชมเปญ จากบ่าวเสิร์ฟเครื่องดื่ม พร้อมกับแก้วน้ำใบเตย แล้วยื่นให้คุณไกรสร พร้อมรอยยิ้มที่เปี่ยมพลัง ที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ ของสาวชาวใต้ใจเด็ด..
“ครุกๆ..” เสียงน้ำขยับในท้องคุณหนูน้อยซ์ ดังขึ้น ขณะที่ยกแก้วชนดื่ม คุณไกรสร..
“(กลับมาเร็วๆนะเจ้าคะ คุณหนูพา.. ท้องเพื่อนใกล้ระเบิดแล้วนะเจ้าคะ)
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 3
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
#สัตตบริภัณฑ์คีรี
สัตตบริภัณฑ์คีรี เป็นชื่อภูเขาในตำนานพุทธศาสนา เชื่อว่าตั้งอยู่กลางป่าหิมพานต์ มีเทือกเขา ๗ เทือกเขารอบเขาพระสุเมรุ ประกอบด้วย
ลำดับที่ ชื่อภูเขา ผู้อาศัย
๑ ยุคนธรพระอาทิตย์ และพระจันทร์
๒ อิสินธร มเหศรเทพบุตร
๓ กรวิก นกการเวก
๔ สุทัศน์ ทิพยโอสถ
๕ เนมินทร บัวใหญ่เท่ากงรถ
๖ วินันตก แม่พญาครุฑ (นางวินตา)
๗ อัศกรรณ ไม้กำยาน
ร้อยเรียงเรื่องราว
(T.Mon)
13/9/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา