15 ก.ย. 2020 เวลา 01:09 • ปรัชญา
10 คนชมไม่เท่า 1 คนด่า
กุศลกับอกุศลนั้นมีทิศทางตรงกันข้าม แถมยังน้ำหนักไม่เท่ากัน
ถ้าคำชมทำให้เราตัวลอยเหมือนแก๊สไฮโดรเจนในลูกโป่ง และคำด่านั้นทำให้เราหนักอกเหมือนโดนหินถ่วงไว้ ดูเหมือนกรวดเพียงก้อนเดียวก็หนักพอที่จะทำให้ลูกโป่งไม่อาจลอยไปไหนได้แล้ว
เรื่องนี้เกิดเป็นประจำเวลาผมเขียนบทความและมีคนมาคอมเมนท์ ซึ่งส่วนใหญ่จะแสดงความเห็นไปในทางเห็นด้วยหรือชื่นชม นานๆ ทีจะมีคนมาต่อว่าต่อขาน แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อกลับไปคิดถึงบทความนั้น ผมมักจะจำคำชมไม่ได้ แต่จำคำด่าได้แม่นยำ
ในที่ทำงาน การมีคนพลังงานลบอยู่ในทีมแค่คนเดียว ก็ทำให้ขวัญและกำลังใจของทั้งทีมเสียไปได้ สิบคนที่เหลือต้องขับพลังบวกออกมาพอสมควรถึงจะกลบพลังงานลบจากคนคนเดียวไหว
หรือเวลามีประชุมใหญ่แล้วมีช่วงที่เปิดโอกาสให้พนักงานถามคำถามผู้บริหาร เจอคำถามดีๆ มาสิบคำถามก็ไม่คิดอะไร พอเจอคำถามแย่ๆ แค่ 2-3 คำถาม ก็อาจทำให้ผู้บริหารมองภาพพนักงานแย่ไปเลย ทั้งๆ ที่คนที่ถามไม่สร้างสรรค์นั้นมีแค่คนสองคนในคนฟังนับร้อย
สอดคล้องกับสำนวนไทยที่บอกว่าปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง
เราจึงต้องพยายามลดหรือขจัดต้นตอของพลังงานลบ เพราะมันส่งผลกระทบได้รวดเร็วและรุนแรง
ในขณะเดียวกัน ในฐานะคนทำงานที่อาจโดนติชมหรือโดนคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ ก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่านี่เป็นเพียงคนส่วนน้อย และไม่ไปฟาดงวงฟาดงาจนทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อนไปด้วยครับ
โฆษณา