เขากำลังถูก Steve Jobs ตามจีบให้ไปทำงานด้วย ปฏิเสธคนไม่ไปพบ ก็หลายครั้งแล้ว จนสุดท้าย หนุ่มใหญ่วัย 37 ทนไม่ไหว เกิดอยากรู้ขึ้นมาเหมือนกันว่า Apple Computer Inc. (ชื่อสมัยนั้น) ที่กำลังย่ำแย่ มีอะไรดี และ Steve Jobs อยากจะให้เขาทำอะไร?
“เจ้าแห่งไอเดียและนัก Present ระดับพระกาฬ” ชื่อ Jobs คงไม่มีทางปล่อยให้การพบปะกันครั้งนั้นเป็นหมันแน่
Steve Jobs ยั่ว Cook ด้วยการบอกเล่าถึงผลิตภัณฑ์ใหม่สุดบรรเจิดที่กำลังจะออกมาสั่นสะเทือนวงการคอมพิวเตอร์ (นั่นคือ เครื่อง iMAC G3 คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่รวมจอกับซีพียูไว้ด้วยกัน ตัวเครื่องมีหลายเฉดสีสัน มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการในปี 1998)
ในยุคนั้น ต้องบอกว่า ในตลาด คนที่จะมาใช้เครื่องแมคอินทอชของ Apple มีจำนวนไม่มาก และคนที่ใช้แมคส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มดีไซเนอร์ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสถียร เครื่องแมคเหมาะมากสำหรับงานออกแบบ และด้วยราคาที่แพงกว่า คนทั่วไปที่ใช้ “PC” จึงมองไม่ออกว่า จะซื้อแมคมาพิมพ์ Words ไปเพื่ออะไร?
ทิม คุก เคยให้สัมภาษณ์ กับ Charlie Rose (พิธีกรรายการสัมภาษณ์ดัง อยู่ช่อง PBS หรือคล้ายๆ Thai PBS บ้านเรา) ในปี 2014 ว่า
เขารู้สึกว่า ต้องไปเจอ Steve Jobs สักครั้ง เพราะว่า Steve Jobs คือตัวพ่อแห่งวงการคอมพิวเตอร์คนหนึ่ง และเขาเป็นคนที่สร้างความแตกต่างเสมอ
- การขายไอเดียให้กับทิม คุก ในวันนั้นได้ผล
ทิม คุก รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ แต่เขาก็ยังลังเล เขาเล่าว่า เขาไปปรึกษา CEO คนหนึ่งที่รู้จักตัวเขาดี และ CEO ท่านนั้น ยืนยันว่า ถ้าย้ายไปทำงานให้ Apple “ผมต้อง “โง่” เอามากๆ” ทิม คุกให้สัมภาษณ์
แต่ใครล่ะจะล่วงรู้อนาคต?
ต่อมาหลายปี ตลาด PC ที่ Compaq เคยเป็นเจ้าอยู่นั้น สั่นสะเทือนเพราะแรงแข่งขัน และสุดท้าย ยักษ์ใหญ่อย่าง Compaq ก็ถูก Hewlett-Packard หรือ HP คู่แข่งเทคโอเวอร์ไปในปี 2013 และชื่อ Compaq ก็ถูกลบออกจากตลาดตลอดกาล ในเวลาต่อมา
ในปี 2013 นั้น ทิม คุก ซึ่งทำงานให้ Steve Jobs มาแล้ว 15 ปี คงรู้ดีว่า การตัดสินใจ “ย้ายค่าย” ของเขาครั้งนั้น คือการตัดสินใจที่ดีที่สุด
ตอนที่ Steve Jobs โทรศัพท์หา Tim Cook ในปี 2011 หลังจากที่ทิม คุก มานั่งทำงานให้ Apple แล้ว และมีผลงานน่าประทับใจมากมาย มันเป็นโทรศัพท์ด่วนที่โทรปุ๊บ ต้องไปปั๊บ ที่บ้านของ Steve ทันที
อาการป่วยหนักเพราะโรคมะเร็งตับอ่อน (Pancreatic Cancer) ของ Steve Jobs เป็นที่รู้กันในวงแคบ ตอนนั้นเขากำลังพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และ Tim Cook ยังเชื่อว่า Steve Jobs ยังคงสามารถบริหารบริษัทได้ตามปกติ เพราะตอนนั้น ก็ไม่มีท่าทีว่า Steve Jobs กำลังจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
สารสำคัญในวันนั้น ก็คือ สตีฟ จอบส์ ต้องการให้ ทิม คุก ขึ้นเป็น CEO และตัวเขาจะดำรงตำแหน่ง Chairman ในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ Jobs ก็เคยลาพักสองครั้งสองครา เพื่อรักษาตัว และ Tim Cook ก็ทำหน้าที่ไม่ต่างจาก CEO เท่าไรนัก
ในช่วงนั้น ไม่มีใครเชื่อว่า Steve Jobs จะวางมืออย่างถาวร Apple คือจิตวิญญาณของเขา และถึงแม้เขาจะป่วย เขาก็คงทำงานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ในอีกแง่หนึ่ง ความเป็นอัจฉริยะ และความเป็น “Visionary” ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของ Steve Jobs คงจะหาใครมาแทนที่ด้วยยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
คนแรกคือ นักออกแบบชื่อดังของ Apple นั่นคือ Jony Ive หนุ่มหล่อคนนี้ มักจะมีใบหน้าปรากฏอยู่ในวิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่บ่อยครั้ง เป็นคนที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ Steve Jobs อีกคน และเป็นคนที่มี “วิสัยทัศน์” ด้านการออกแบบหาตัวจับได้ยาก (Ive เพิ่งลาออกจาก Apple เมื่อปีที่แล้วนี้เอง)
ส่วนอีกคนคือ Scott Forsstall มือหนึ่งด้าน Software Development ชื่อของเขาโด่งดังในเวลาต่อมาเมื่อคิดค้นระบบปฏิบัติการ iOS และ iPhone บุคคลท่านนี้ยังมีฉายาด้วยว่า “mini-Steve” เพราะนิสัยการทำงานคล้ายกับ Jobs แถมยังขับรถรุ่นเดียวกันอีก (Mercedes-Benz SL55 AMG สีเงิน) ใครๆ ก็คิดว่า Scott คือทายาท แน่นอน (Scott ถูกปลดจากงานพัฒนาซอฟต์แวร์ และหมดวาระการทำงานที่นี่ในปี 2012)
ในความคิดของบุคคลภายนอก Tim Cook คือ ม้านอกสายตา ถึงแม้ว่า เขาเคยทำหน้าที่ CEO ชั่วคราวตอนที่ Jobs ไม่อยู่ (ปี 2009 และ 2011 เพื่อให้ Jobs ไปรักษามะเร็ง) ก็ไม่มีใครคิดว่า Tim Cook คือคนที่ Jobs จะเลือก เพราะอะไร?
แต่ Steve Jobs เลือกเขา เพราะ Tim Cook รู้จัก Apple ดีที่สุด และความสามารถในการบริหารของ Tim Cook ต้องนำพา Apple Inc. ก้าวหน้าต่อไปได้
- ผ่านมาแล้ว 9 ปี
ปีหน้าจะครบ 10 ปีในตำแหน่ง CEO ของเขาในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมระดับโลกออกมาไม่ขาดสาย Tim Cook ซึ่งเป็นผู้บริหารในบริษัทระดับ Fortune 500 คนแรกที่ออกมาเปิดเผยตัวว่า เป็นเกย์ ยิ่งทำให้วงการนี้ต้องทึ่ง
แน่นอน Steve Jobs รู้ว่า Tim Cook เป็นเกย์ แต่วัฒนธรรมของ Apple ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐที่มีการต่อสู้เรื่องสิทธิเกย์ (Gay Rights) มากที่สุดรัฐหนึ่งของสหรัฐฯ ต้อนรับเกย์ และบริษัทแห่งนี้ เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนโยบายต้อนรับความแตกต่างหลากหลาย (Diversity and Inclusion) ครั้งหนึ่ง ในสมัยของ Jobs บริษัทเคยประกาศว่า จะไปไปทำธุรกิจหรือเปิดออฟฟิศในรัฐ หรือพี้นที่มีการกีดกันเกย์
การเป็นเกย์ของผม เป็น “among the greatest gifts God has given me,” เขากล่าวกับ บก. ของ People en Espanol’s และเขายืนยันว่า การพูดเรื่องนี้ และการเป็นเกย์ของเขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเสียใจเลยแม้แต่นาทีเดียว