15 ก.ย. 2020 เวลา 11:25 • สุขภาพ
สิ่งที่โลกเผชิญร่วมกัน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
สมาคมโรงแรมไทยออกมาให้ข้อมูลว่า คนในแวดวงการโรงแรมไทยว่างงานรวมแล้ว 1 ล้านคน หลายประเทศก็เจอสถานการณ์แบบเดียวกันครับ รัฐบาลของแต่ละประเทศพยายามพลิกยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้การท่องเที่ยวยังพอประคองตัวไปได้
เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำนี่ แม้แต่ญี่ปุ่นก็ไม่เว้น บริษัทวิจัยด้านสินเชื่อญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า เทโกกุ เดต้าแบงก์ ให้ข้อมูลว่า จนถึง 4 กันยายน 2563 มีบริษัทมาขอยื่นล้มเลิกกิจการ 489 แห่ง บางส่วนต้องการเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ธุรกิจที่มาขอเลิกมากที่สุดคือร้านอาหาร รองลงมาคือโรงแรม ตามด้วยบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า
ในความเป็นจริง มีหลายธุรกิจไม่สามารถเปิดดำเนินการได้เลยตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ที่อันตรายมากของญี่ปุ่นคือ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ที่ขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะปิดตัวอีก 3 แสนแห่งทั่วประเทศ
ใครที่เคยสนใจเศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็คงจะทราบนะครับ ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ได้เพราะฐานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่แข็งแรง หากฐานนี้อ่อนแอ ยอดข้างบนก็อยู่ยาก
https://www.nbcnews.com/news/world/business-owners-criticize-japanese-government-s-slow-response-coronavirus-pandemic-n1174121
หลายคนเคยประเมินว่าแอฟริกาจะเป็นทวีปวิปโยค โควิด-19 อาจจะระบาดไปในทุกตรอกซอกมุมทั้ง 54 ประเทศของทวีปนี้ ด้วยระบบสาธารณสุขที่ไม่ค่อยแข็งแรง
ทว่าผิดคาดครับ เศรษฐกิจของทวีปแอฟริกาได้รับผลกระทบไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก หลายคนพูดถึงขนาดว่า เศรษฐกิจในแอฟริกาอาจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วในลักษณะของ V shape
การแพร่ของโรคระบาดนี่ประมาทไม่ได้ บางแห่งเหมือนมีผู้ติดเชื้อน้อย แต่อาจจะเกิดจากการไม่ได้ตรวจอย่างละเอียด ในตอนแรกๆ ที่โควิด-19 ระบาด อินเดียมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าประเทศอื่น
แต่ใครจะนึกเล่าครับ ตอนนี้อินเดียมีผู้ติดเชื้อมากถึง 4.8 ล้าน ตายไปแล้ว 7.97 หมื่น (จากประชากร 1.382 พันล้าน) และสถานการณ์โควิด-19 ในตอนนี้ยังวิกฤติอยู่มาก ขณะที่ผมเรียนรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่นี้ อินเดียมีผู้ติดเชื้อเกือบแสนคนติดต่อกันหลายวันแล้ว
ต้องขอชมรัฐบาลอินเดียที่ไม่ปิดบังตัวเลข และตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก รวมทั้งทำการเฝ้าระวังอย่างทันที เมื่อเจอผู้ติดเชื้อก็นำไปรักษาจนอัตราผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายอยู่ที่เกือบร้อยละ 80 มีผู้หายป่วยเกือบวันละ 7 หมื่นคน
อินเดียใช้มาตรการล็อคดาวน์อย่างเข้มข้น ทำให้เศรษฐกิจเสียหายอย่างหนัก ไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจหดตัวลงเกือบร้อยละ 24 ในบรรดาประเทศชั้นนำของโลก เศรษฐกิจอินเดียแย่ที่สุด แต่เป็นการแย่ที่ผมมองว่ามีอนาคต เพราะรัฐบาลจริงจังกับการแก้ไขปัญหา
https://economictimes.indiatimes.com/news/politics-and-nation/coronavirus-cases-in-india-live-news-latest-updates-april22/liveblog/75283574.cms
ยามที่ประเทศเผชิญเรื่องเลวร้าย สิ่งสำคัญคือขวัญและกำลังใจที่มาจากคณะผู้นำ ในหลายประเทศผู้นำออกมาลุยแก้ปัญหาให้เห็น ผู้นำก็ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจที่ทำให้คนยังมีความหวังที่จะสู้  ไม่ว่าจะสู้เพื่อป้องกันและรักษาตัวเองจากโควิด-19 หรือสู้เพื่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ประเทศที่มีผู้นำเฟอะฟะ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐหรือบราซิล ทั้งขวัญกำลังใจและเศรษฐกิจลงเหว ผู้คนมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ บางประเทศมีการเมืองผสม มีการประท้วงกันอย่างวุ่นวายขายปลาช่อน ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ฯลฯ ทำให้ประเทศลงเหวแรง
ส่วนอู่ฮั่นเมืองที่โควิด-19 ระบาดครั้งแรก ตอนนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ท่าอากาศยานอู่ฮั่นเทียนเหอเปิดให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศตั้งแต่ 8 เมษายน 2563  พอถึงตอนนี้ แต่ละวันก็มีเที่ยวบินภายในประเทศมากกว่า 500 ประเทศ มีผู้โดยสารเกิน 6 หมื่นคน
https://www.airport-technology.com/projects/wuhan_tianhe/
อู่ฮั่นมีวันนี้ได้เพราะการตรวจเข้มข้น พบคนไม่ใส่หน้ากากอนามัยในห้างสรรพสินค้า ตำรวจจับเข้าคุกทันที มีการทำความสะอาดถนนหนทาง และผลลัพธ์ที่อู่ฮั่นได้ก็คือการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ผมได้รับการแนะนำจากท่านผู้ใหญ่ให้เขียนถึงผลกระทบจากโควิด-19 ให้บ่อยหน่อย เพราะวิกฤติโควิด-19 เป็นเรื่องที่คนทั่วโลก 7.811 พันล้านต้องเผชิญร่วมกัน.
โฆษณา