17 ก.ย. 2020 เวลา 10:30 • ธุรกิจ
Dell ที่ก่อตั้งโดยนักศึกษา กับเงินทุนเพียงน้อยนิด แต่มีรายได้เกือบ 3 ล้านล้านต่อปีในปัจจุบัน
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและไอที กลายเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน
บางแบรนด์ที่เพิ่งก่อตัวขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน เริ่มต้นแม้จะไม่มีผลกำไร หรือบ้างก็ขาดทุนย่อยยับ
แต่ปัจจุบัน หลายต่อหลายแบรนด์เหล่านั้น กลับก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าใหญ่ระดับโลก
อย่างแบรนด์ Dell ที่ใครต่อใครต่างก็รู้จักกันดี รู้ไหม แบรนด์เทคโนโลยีชื่อ Dell ที่ว่านี้ ปัจจุบันคือบริษัทที่มีผลประกอบการเกือบ 3,000,000,000,000 บาท
อ่านไม่ผิด !! เพราะเกือบแตะ 3 ล้านล้านบาทจริง
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น คือแบรนด์ Dell ได้รับการก่อตั้งโดยหนุ่มนักศึกษา ที่มีเงินทุนเพียงน้อยนิด
แล้วทำไม Dell ถึงยิ่งใหญ่คับโลกถึงขนาดนี้ได้ ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้กัน..
ย้อนกลับไป เมื่อ 40 กว่าปีก่อน “ไมเคิล เดลล์” ก็เป็นหนุ่มอเมริกันที่มีขีวิตเรียบๆ ง่ายๆ ทั่วไป
ไมเคิล เกิดที่ฮิวส์ตัน และมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยการซื้อเครื่องคิดเลขเครื่องแรก ตอนอายุ 7 ขวบ
และได้สัมผัสกับคอมพิวเตอร์จริงๆ ตอนอายุ 15 หลังจากที่ได้สัมผัสกับ Apple ll
ระหว่างนั้น ไมเคิลก็เป็นเด็กที่ทะเยอทะยาน หาช่องทางทำรายได้พิเศษ หรืองานพาร์ทไทม์อยู่ตลอด
แต่รู้ไหม หลังจากที่เขาได้คอมพิวเตอร์ Apple ll เครื่องดังกล่าวมาไว้ในครอบครอง เขาถอดชิ้นส่วนออกทันที เพื่อดูว่าภายในมีอะไร และทำงานได้อย่างไร
เมื่อเข้าสู่ชีวิตมหาลัย ไมเคิลมีโอกาสเข้าศึกษาใน Taxas University
ด้วยความที่ Dell เป็นคนขี้สงสัยและหาช่องทางในการทำรายได้เป็นประจำ
ประกอบกับความชอบในคอมพิวเตอร์ ช่วงที่เขาเรียนที่นั่น เขาเริ่มซื้อชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มาประกอบขาย
จนกระทั่งมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จึงได้มองหาลู่ทางให้เติบโตได้ดีกว่าเดิม
ที่น่าสนใจ คือธุรกิจเขามั่งคั่ง จนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย มาประกอบธุรกิจคอมพิวเตอร์อย่างเป็นทางการ ในปี 1984
เขาก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า "PC's [sic] Limited" ด้วยเงินทุนเพียง 1,000 เหรียญสหรัฐฯ
ไมเคิล วางการตลาดในรูปแบบขายตรง ซึ่งมีข้อดี คือทำให้รู้ความน้องการที่แท้จริงของลูกค้า
หนึ่งปีถัดมา หนุ่มอเมริกันคนนี้ ได้ออกแบบคอมพิวเตอร์เครื่องแรก โดยใช้ไมโครโพรเซสเซอร์จากอินเทล
ก่อนที่จะมีเสียงตอบรับดี ถล่มทลายเกินกว่าใครจะคาดถึง
รู้ไหม ในปี 1988 หรือเพียงแค่ 4 ปี นับจากก่อตั้ง ไมเคิลได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์มาเป็น "Dell Computer Corporation"
ก่อนจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ขณะที่เจ้าตัว ยังมีอายุแค่ 20 ต้นๆ อยู่เลย
ในปี 1999 Dell กลายเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลก แทนที่เจ้าเก่าอย่าง Compaq
1
และได้เริ่มขยายตลาด ด้วยการผลิตอุปกรณ์ไอทีรูปแบบต่างๆ ทั้งเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล อุปกรณ์ไอทีสำหรับสำนักงาน และอื่นๆ อีกมากมาย
จวบจนกระทั่งปัจจุบัน แม้ Dell จะไม่ใช่บริษัทคอมพิวเตอร์เบอร์หนึ่งของโลกอย่างเดิม
แต่พวกเขาก็ยังมีผลประกอบการเติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งปีล่าสุด Dell กวาดรายได้รวมไปกว่า 92,154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 2.86 ล้านล้านบาท
ขณะที่ผลกำไรสุทธิ ก็ดีกว่าหลายปีก่อนหน้านั้นมาก โดยสูงถึง 4,616 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 1.43 แสนล้านบาท..เลยทีเดียว
แม้ไมเคิลจะเริ่มต้นจากเงินทุนราว 300,000 บาท (หากเทียบเป็นเงินไทยในปัจจุบัน)
ซึ่งถ้าหากเทียบกับบางแบรนด์ที่เริ่มต้นจากเงินก้อนโต หลายร้อย หลายพันล้าน แต่ก็ต้องอาศัยการทำตลาดที่เหมาะสมเท่านั้น
ถึงจะตอบโจทย์ลูกค้า กระทั่งเติบโตขึ้นเป็นบริษัทล้านล้านบาทได้
ทว่า 300,000 บาท ก็อาจจะเป็นทุนที่สูงพอสำหรับใครหลายต่อหลายคน
แต่ถ้าหากทุนไม่ใช่เม็ดเงิน แล้วเป็นสินทรัพย์ทางปัญญา แนวคิด หรือความสามารถ และอื่นๆ แทน
เหล่านั้น ก็อาจจะผลิดอกออกผล สร้างความมั่งคั่งได้มากกว่าที่คาดคิดไว้..ก็เป็นได้
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
โฆษณา