Blockdit Logo (Mobile)
ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
•
17 ก.ย. 2020 เวลา 09:56 • สุขภาพ
ด่วน !! ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเมียนมาร์แซงหน้าประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมียนมาร์ ยังคงทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เพิ่มวันละนับร้อยรายต่อเนื่องกัน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 3,894 คน เสียชีวิต 46 คน ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพียง 3,490 คน
1
หมายความว่าสถานการณ์โควิด19 ของ
เมียนมาร์ขณะนี้ ถือได้ว่ารุนแรงกว่าของไทยแล้ว โดยเทียบกับไทยตอนที่มีการระบาดสูงสุดที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน
(Superspreader)จากสนามมวยลุมพินีและผับบาร์ทองหล่อ
สถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 ของ
เมียนมาร์ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด(Exponential) จนกระทั่งแซงหน้าประเทศไทยเราไปในที่สุด
โดยเริ่มต้นการระบาดมาจากรัฐทางด้านตะวันตกติดชายแดนบังคลาเทศ ซึ่งบังคลาเทศมีผู้ติดเชื้อนับแสนคน แล้วต่อมามีการระบาดเข้าสู่นครย่างกุ้งเมืองหลวงเก่า และขณะนี้ก็ได้ระบาดไปแล้วทั่วประเทศ
นครย่างกุ้งต้องประกาศงดเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด เพื่อควบคุมการระบาดของโรค
ในขณะเดียวกัน เมืองเมียวดี(Myawaddy) ที่ติดกับชายแดนทางด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยก็ได้ประกาศเคอร์ฟิวแล้วเช่นกัน
โดยมีรายงานจากกรมควบคุมโรคของประเทศไทยว่า ในวันที่ 13 กันยายน 2563 ทางการเมียนมาร์ได้ตรวจพบเด็กชายวัยสองขวบที่เดินทางพร้อมคุณแม่ออกจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มารับการตรวจไวรัสโคโรนา แล้วพบผลเป็นบวก
โดยแม่ลูกคู่นี้ออกเดินทางจากอำเภอแม่สอดเข้าเมียนมาร์ที่เมืองเมียวดี เมื่อวันที่ 4 กันยายน กรมควบคุมโรคได้แถลงเรื่องนี้ว่า มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบหลักฐานการเดินทางออกจากไทยในวันที่ 4 กันยายน 2563 ของแม่ลูกคู่นี้แต่อย่างใด
เข้าใจว่าน่าจะเป็นการเดินทางออกจากไทยเข้าสู่เมียนมาร์ โดยผ่านช่องทางธรรมชาติ
(Natural border pass) ซึ่งในบริเวณชายแดนดังกล่าวมีมากกว่า 50 ช่องทาง จึงลำบากมากที่จะสามารถควบคุมได้ทั้งหมด
กรมควบคุมโรคได้ส่งหน่วยตรวจสอบหาเชื้อไวรัสเคลื่อนที่( Mobile Unit) ไปทำการสุ่มตรวจเมื่อวันที่ 8-9 กันยายน เก็บตัวอย่างทั้งสิ้น 2623 ตัวอย่างซึ่งรวมถึงตัวอย่างจากคนต่างด้าว 1128 ตัวอย่างด้วย
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันการทำงานที่จะติดตามประเมินการแพร่ระบาดของประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด และจะดูแลเรื่องด่านชายแดนให้ดีที่สุด
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
1)ประเทศไทยเรา น่าจะมีผู้ที่ติดเชื้อโดยที่ไม่แสดงอาการ(Asymptomatic infection)
แอบแฝงอยู่เงียบๆ และสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เช่น กรณีที่พบดีเจต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วค่อยตรวจพบเชื้อ หรือในกรณีทีชายมาเลเซียออกจากประเทศไทย แล้วกลับไปตรวจพบเชื้อที่มาเลเซีย หรือที่ออกจากประเทศไทยแล้วไปตรวจพบเชื้อที่ญี่ปุ่น และในครั้งนี้ก็มาตรวจพบเชื้อที่เมียนมาร์
2)สถานการณ์ของเมียนมาร์เอง กำลังเข้าสู่การระบาดแบบก้าวกระโดด โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่าประเทศไทยแล้ว และคาดว่าจะพุ่งสูงต่อไป จึง เปลี่ยนสถานการณ์จากเมียนมาร์กลัวผู้ติดเชื้อข้ามไปจากประเทศไทย เป็นประเทศไทยต้องกังวลว่า ผู้ติดเชื้อจากพม่าจะข้ามมายังประเทศไทยแทน
3)ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องร่วมมือกับประเทศอาเซียน ในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเมียนมาร์ ในการเพิ่มศักยภาพในการตรวจคัดกรองและควบคุมโรคระบาด
โควิดครั้งนี้ ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม
และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดการระบาดรอบสองในประเทศของเราต่อไปครับ
Reference
โฆษณา