19 ก.ย. 2020 เวลา 06:03 • ความคิดเห็น
ว่าด้วยม็อบ....
วันนี้สังคมไทยคงไม่มีอะไรให้จับตาไปมากกว่าม็อบ ที่หลายคนเรียกว่า "ม็อบเด็ก" แล้วล่ะครับ
แต่ดูเหมือนว่า เอาไปเอามา มันชักจะไม่ใช่แค่เด็กน่ะสิ...
ที่น่าตกใจกว่าก็คือ หลายคนที่ไปม็อบครั้งนี้ มันดันเป็นคนที่เคยไปม็อบไล่คุณยิ่งลักษณ์มาแล้วซะด้วยน่ะสิ
...มันเกิดอะไรขึ้น....
ก็ตามรูปนั่นแหละครับ
เที่ยวนี้เบอร์สามของบริษัท สาวบัญชีเป็นหัวโจก
สาวบัญชีที่บริษัทเรียกระดมพล ตามที่นัดกันไว้ในไลน์ เมื่อสักพักนี่เอง
ผมค่อนข้างแปลกใจนะ พวกนี้ตอนแรกเงียบๆ ดูไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ พอถึงเวลาจริงๆดันไป
แถม ก็ไอ้พวกนี้แหละที่ครั้งที่แล้วออกไปไล่ยิ่งลักษณ์กับผมมาแล้ว !
คือ ในตอนคุณยิ่งลักษณ์นั้นมันอาจมองได้ว่า ผมซึ่งเป็นเจ้านายมีส่วนกับวิธีคิดของเขาพอสมควรรึเปล่า เพราะผมออกตัวแรง บริจาคม็อบคุณสุเทพไปก็พอสมควร
ลูกน้องก็เลยต้องเฮด้วย ....
...แต่พอผมพิจารณาจริงๆแล้ว ผมพบว่ามันไม่ใช่...
ลูกน้องผมกลุ่มที่กำลังจะไป เด็กที่สุดคือ 24 มากที่สุดคือ 33 พูดง่ายๆว่า หกปีก่อนพวกเขามีวุฒิภาวะแล้วพอสมควร
...อย่างไอ้น้องบัญชีนี่ 31 จบบัญชี แถมพ่วงดีกรีผู้สอบฯ จะว่ามันไม่มีวุฒิภาวะคงไม่ใช่แน่...
เป็นพวกเรียนสูง ทำงานดีล้วนๆ เข้าถึงข้อมูลอย่างแน่นอน คงยากที่ผมจะมีอิทธิพลต่อความคิดพวกเขาขนาดจะลากไปม็อบได้
เพราะในช่วงนั้นที่บริษัทผมก็มีเสื้อแดงไม่น้อย โดยเฉพาะในฝ่ายช่าง ซึ่งผมก็ไม่เคยตำหนิอะไร
ดังนั้นเรื่องเอาใจผมนี่ตัดทิ้งไปได้เลย เขาต้องมีเหตุผลของเขาแน่ๆ ณ.วันนั้น...
ทำไมคนที่ทำงานดีๆ มั่นคงแล้วถึงม็อบ?
เท่าที่ผมคุยมาจากคนรอบๆตัว มันมีสองแบบ
...หนึ่งคือพวกเสรีนิยม
...อีกกลุ่มคือพวกดูเนื้องาน
ไอ้กลุ่มหลังนี่แหละเยอะครับ และพวกย้ายข้างจากเหลืองไป ส่วนมากก็คือพวกนี้แหละ
...ทำงานไม่ได้เรื่อง แถมยังโกง...
อันนี้คือสิ่งที่ผมได้ยินบ่อยมาก จากพวกแปรพักตร์ ทั้งจากรอบตัว และในกลุ่มโซเชียลที่ยังคุยกันอยู่ของอดีตม็อบคุณสุเทพ
ผมฟังๆ ก็เหมือนพวกเขาทั้งผิดหวังและแค้น มีความรู้สึกว่าถูกหักหลัง จากการที่อุตส่าห์ไปช่วยลากรัฐบาลทหารปัจจุบันเข้ามาบริหาร
...แต่พวกเขากลับไม่ได้อะไร หรือไม่เห็นอะไรที่ดีขึ้นเลย...
ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เคยสัญญากันไว้ในม็อบกปปส. จนถึงวันนี้ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเลยแม้แต่อย่างเดียว ภายใต้การบริหารงานของคุณประยุทธ์ตลอดเวลาที่ผ่านมา
...การปฏิรูปต่างๆที่เคยพูดกันไว้ มันเหมือนถูกลืมไป...
...การยุติธรรมเหมือนเดิม การคอรัปชั่นเหมือนเดิม....
มันจึงทำให้ ผู้ที่เคยสนับสนุนนั่นผิดหวังรุนแรงมากจนถึงขั้นย้ายค่ายได้ อย่างที่เห็น
...ไม่ใช่น้อยครับ ผมบอกเลย สำหรับกลุ่มนี้...
และคนกลุ่มนี้โดยมากคือคนในเมือง ที่เคยเป็นฐานเสียงของรัฐบาลซะด้วย จะบอกว่ารัฐบาลเสียแนวร่วมก็ไม่ผิดนัก
ผมคิดว่าประเด็นที่เด็กจุดมานั้นมันค่อนข้างโดนใจหลายคนครับ
...ม็อบจุดติดไหมเดี๋ยวรู้กัน แต่ที่แน่ๆ วิธีคิดมันจุดติดไปแล้ว...
เด็กไม่ได้ชี้นำ แต่วิธีนำเสนอของพวกเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามกับวิธีคิดแบบดั้งเดิม
ซึ่งกับหลายคนมันโดนมาก ประมาณว่า "เออ กูก็อยากรู้แหละแต่ไม่กล้าพูด " อะไรแบบนั้น
...ดังนั้น กลุ่มคนที่จะมาม็อบนั้น ย่อมเป็นบุคคลที่ถามตัวเองแล้วว่า อะไรดีกว่าสำหรับพวกเขา...
ซึ่งการแสวงหาและถามตอบแบบนี้แหละครับน่ากลัว เพราะคนที่ตอบคำถามด้วยตัวเอง จะไม่เปลี่ยนวิธีคิด เหมือนคนที่ฟังอะไรแล้วเชื่อตามนั้น
...ไม่ต้องใครหรอก ผมเองนี่แหละ ทึ่เคยเชื่อข้อมูลฝั่งเหลืองมาตลอด พอตอบคำถามตัวเองได้ยังเปลี่ยนเลย แต่จะให้ไปสนับสนุนเต็มที่เหมือนก่อนคงไม่เอาแล้ว เบื่อ...
ผมเชื่อว่าม็อบสองวันนี้ จะผ่านไปอย่างสงบ อาจมีการกระทบกระทั่งบ้างเล็กน้อย แบบดันกันไปดันกันมา อะไรแบบนั้น
ไอ้ปราบปราบกันหนักๆคงไม่มี รัฐบาลเองไม่กล้าแน่
...แต่สิ่งที่หลังจากจบม็อบไปแล้วนี่แหละน่ากลัวกว่ามาก...
กับฝ่ายม็อบ สมมุติมีคนมามาก คนที่เข้าร่วมหรือมีแนวคิดร่วม จะคิดทันทีเลยว่า ที่เขาคิดมันมีพวกนะ ที่ทำมันน่าจะถูกต้องแล้ว
และจะมีผลกับคนกลางๆที่ยังตัดสินใจอยู่อีกมาก
กับฝ่ายรัฐบาล ถ้าคนมามาก ความกลัวก็จะยิ่งมาก และนั่นอาจนำไปสู่การใช้อำนาจแบบเข้มข้นขึ้น ผมว่าจุดนี้คืออะไรที่อันตรายที่สุด ซึ่งรัฐบาลควรระวัง
ม็อบทุกม็อบ มีเหตุผลครับ
การปรามาสว่าเป็นพวกไม่รู้ความ หรือถูกต่างชาติปั่นมา จะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ถ้ารัฐบาลเชื่อแบบนั้นจริงๆ
โดยเฉพาะม็อบครั้งนี้ มาด้วยเรื่องการรื้อระบบ ความเชื่อ และประเด็นอ่อนไหว มันก็ยิ่งน่ากลัวหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
...และแน่นอนที่สุด ม็อบครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปี ที่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การ "เอาหรือไม่เอา" คุณทักษิณ
...มันคือม็อบที่เล่นกับวิธีคิดของคนล้วนๆครับ ซึ่งในระยะยาวเลย ผมมองว่ามันจะไม่มีทางออกอื่น นอกจากความเปลี่ยนแปลง...
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครจะได้อะไรทุกอย่าง
ม็อบก็เช่นกัน แม้กระแสจุดติด ก็ต้องยอมรับว่าคนไม่เอาแนวคิด มันก็มีอีกไม่ใช่น้อย
ดังนั้นการเจรจาหาจุดลงตัว จากทั้งสองฝ่าย จึงจำเป็นที่สุด
รัฐบาลต้องจริงใจกว่านี้ และห้ามดูแคลนว่า "ก็แค่เด็ก" เด็ดขาด
...ไม่งั้น ถึงเวลาของพวกเขา พวกเขาจะไม่เหลือที่ยืนให้พวกท่าน หรือสิ่งที่พวกท่านเชื่อและศรัทธาอีกเลย...
...จำคำผมไว้ให้ดี และอย่าลองของเด็ดขาด...
โควิด ก็เจ็บกันมาพอแล้ว ก็ภาวนาว่าคงไม่มีอะไรมากระทบประเทศอีกนะครับ
...โดยเฉพาะรัฐประหาร อย่าแม้แต่จะคิด ต่างชาติแบนเอาจริงๆแน่เที่ยวนี้ ถ้าเศรษฐกิจพัง ทหารไม่มีทางเอาอยู่ครับ ...
...เตือนด้วยความหวังดีเลย เมื่อวานเห็นเอา STRIKER ออกมาสวนสนามงานเกษียณตัวเองแล้วหวาดเสียวจริงๆ ขอบอก...
...อะไรนะ? ผมเหรอ? ไม่ไปหรอก เข็ดแล้ว แก่แล้ว😁😁😁😁...
โฆษณา