สหรัฐไม่กลัว WTO
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
https://tradepostusa.com/in-us-china-trade-disputes/
ทัศนคติของผู้คนที่มีต่อการค้าของโลกมี 2 อย่าง
อย่างแรกมีความเชื่อในเรื่อง ‘พหุภาคี’
พวกนี้จะเชื่อเรื่องการค้าเสรี ที่มีความร่วมมือกันของประเทศต่างๆ และประเทศจำนวนมากมาออกกฎเกณฑ์การค้าและใช้กฎเกณฑ์นั้นเดียวกัน องค์การการค้าโลก หรือ WTO ก็ดำเนินงานตามความเชื่อในเรื่องของพหุภาคี ทุกประเทศมีสิทธิเสมอเท่าเทียมกันในการทำการค้า
อีกพวกหนึ่งเชื่อในเรื่องของ ‘ทวิภาคี’
เป็นการคบค้าสมาคมระหว่าง 2 ประเทศ ความเชื่ออย่างทวิภาคทำให้ประเทศใหญ่ได้เปรียบ ประเทศใหญ่มีอิทธิพลเหนือกว่าประเทศคู่ค้าที่เป็นประเทศเล็กชาติน้อยกะจิดริดกะจ้อยร่อย
นักการเมืองระดับโลกที่มีความเชื่อเรื่องทวิภาคีอย่างเห็นชัดเจนที่สุดคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ คนนี้ไม่ชอบกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก แถมยังชอบยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ทรนงตนว่าตัวเองเป็นผู้นำประเทศใหญ่และเที่ยวข่มขู่รังแกประเทศอื่น
ทรัมป์สอดส่ายสายตาหาเรื่องที่จะเล่นงานจีนอยู่ตลอดเวลา ตอนได้เป็นผู้นำสหรัฐใหม่ๆ ทรัมป์กล่าวหาว่า จีนอุดหนุนและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ผลิตในประเทศ นอกจากนั้น จีนยังเฉยเมยต่อการที่บริษัทจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นธรรม ใครไปลงทุนในจีนก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน
เมื่อ พ.ศ.2561 สหรัฐจึงลงโทษด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน ที่เรารู้จักกันในนามสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ที่เรียกว่า ‘สงครามการค้า’ ก็เพราะรัฐบาลจีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นเดียวกัน
ทันทีที่โดนขึ้นภาษีนำเข้า จีนก็นำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการขององค์การการค้าโลก โดยฟ้องว่าสหรัฐละเมิดกฎการค้าขององค์การการค้าโลก
หลังจากนั้น องค์การการค้าโลกก็นัดผู้แทนทั้งของสหรัฐและจีนมาเจรจากันหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการวินิจฉัยและตัดสินข้อพิพาท
15 กันยายน 2563 องค์การการค้าโลกวินิจฉัยและตัดสินว่าสหรัฐละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ โดยสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนในช่วงแรกของสงครามการค้ามากถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และสหรัฐเป็นผู้ทำลายการค้าแบบพหุภาคี
https://www.chathamhouse.org/research/topics/world-trade-organization-wto#
ผู้แทนการค้าสหรัฐโวยว่า องค์การการค้าโลกวินิจฉัยและตัดสินเข้าข้างจีน ไม่เห็นสนใจเรื่องที่จีนขโมยเทคโนโลยีจากสหรัฐ ทั้งที่สหรัฐส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้แล้ว แต่องค์การการค้าโลกกลับเฉย สหรัฐต้องปกป้องตัวเองในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ปล่อยให้จีนอาศัยองค์การการค้าโลกเอาเปรียบแรงงาน ภาคธุรกิจ และเกษตรกรชาวไร่ของสหรัฐ
ตอนที่รณรงค์หาเสียงแข่งกับนางคลินตันเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว ทรัมป์หาประเด็นที่จะเอาชนะนางคลินตันได้ยาก และสุดท้ายทรัมป์ก็ใช้จีนเป็นเหยื่อ เพราะผลของการวิจัยพบว่าคนอเมริกันแขยงแขงขนคนจีน กลัวว่าจีนจะเขยิบสถานะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ 1 ของโลกแทนตัวเอง
ทรัมป์จึงใช้นโยบาย America First หรืออเมริกามาก่อน ปรากฏว่านโยบายนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนอเมริกันส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก White Supremacy ซึ่งเป็นพวกที่เชื่อว่าคนผิวขาวเหนือกว่าคนผิวสีอื่น
https://www.nytimes.com/2018/03/08/opinion/trump-tariffs-economics.html
ผมว่าบทลงโทษในกฎเกณฑ์ต่างๆ ขององค์การระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นจากสหประชาชาติหรือองค์การการค้าโลก ลงโทษได้แต่กับพวกประเทศเล็กชาติน้อยที่ไม่มีทางสู้
ส่วนกับประเทศใหญ่ลงโทษได้ยาก
อย่างในเรื่องนี้ สหรัฐมีเวลา 60 วันในการแย้งคำตัดสิน ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า สหรัฐจะแย้งยังไง และถ้าองค์การการค้าโลกลงโทษจริงๆ สหรัฐจะปฏิบัติตามไหม
การบริหารองค์การระดับโลกต้องใช้เงินมหาศาล เงินส่วนใหญ่ก็มาจากการบริจาคของประเทศสมาชิก ประเทศใหญ่ก็บริจาคมาก บางประเทศติดหนี้เงินบริจาคนานหลายปี สหรัฐเป็นประเทศหนึ่งที่ให้เงินบริจาคกับองค์การระดับโลกต่างๆจำนวนมาก
สหรัฐไม่กลัวดอกครับ เพราะรู้ว่า ถ้าตัวเองถอนการสนับสนุน องค์การระดับโลกเหล่านี้จะอยู่ได้ยาก.
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
