19 ก.ย. 2020 เวลา 12:27 • นิยาย เรื่องสั้น
มาแล้วจ้าหลังจากหยุดไปหลายอาทิตย์กับบทความเจเจ้เจองานกองเต็มโต๊ะเลยต้องสะสางกันให้จบเมื่อเรียบร้อยก็รีบมาBdเลยวันนี้ก็เลยนำเรื่องราวที่เจเจ้รู้สึกขำๆมาเล่าให้ฟังคลายเครียดกัน
1
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเจเจ้ต้องไปทำธุระที่จังหวัดชลบุรีไปบ้านลูกศิษย์ที่เคารพ555อ่านแล้วอย่างงกันก่อนนะคะลูกศิษย์ของเจเจ้คือผู้สูงอายุวัยค่อนข้างจะเริ่มชราละไปช่วยท่านลูกศิษย์เปิดบริษัท😄😄😄
ด้วยที่ทั้งศิษย์และอาจารย์ก็ต่างวัยกันแต่เวลาคุยกันเป็นเหมือนดั่งพี่ชายและน้องสาวความสนิทที่มีมากเลยทำให้การพูดจาจึงค่อนไปทางสบายภาษาพูดเจเจ้เกริ่นนำก่อนไม่มีเจตนาใช้ภาษาค่อนลูกพ่อขุนอิอิ
1
ศิษย์: อาจารย์ใกล้เที่ยงแล้ว ไปโซ้ยกัน อืม ? ไปที่ไหนดีนะ
เจเจ้: ที่ไหนก็ได้เจ้ได้หมด
ศิษย์: งั้นจะพาไปดูสถานที่หนึ่งอร่อยสะอาดและยุคโบว่ะ
เจเจ้: ได้เพถ้าเฮียจ่าย555
เรื่องอิ่มจังตังอยู่ครบชอบๆนิ
ศิษย์: งั้นให้ว่องขึ้นรถอย่าช้ากว่าลิงแถวนี้
เมื่อทุกอย่างพร้อมรถเฉพาะกิจก็นำพาทุกชีวิตไปทานข้าวเที่ยงกันผู้เฒ่าชราภาพนั่งยิ้มแป้นหัวเราะหึๆๆๆ
ศิษย์: วันนี้สนุกแน่กูจะรอดูคนกินข้าวพร้อมน้ำตาผู้เฒ่าพูดพร้อมหันมามองเจเจ้และทุกคนบนรถ
เจเจ้: เฮียวางแผนไรในใจเจ้บอกก่อนนะมีเจ็บน่ะโว้ย
ศิษย์: วันนี้กูจะพาจารย์ไปอ่างศิลาไปดูสีสรรของพ่อค้าแม่ค้า
เจเจ้: อืมใช้ความคิดหน่อยผู้เฒ่าชราภาพแกจะเล่นอะไรเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเจเจ้โดนแกถล่มยับทุกที
เมื่อรถขับมาถึงอ่างศิลารถเลี้ยวเข้าไปในซอยบ้านไม้ในยุคที่เรือนห้องแถวอาแปะโรงสีพ.ศไหนไม่รู้
ศิษย์: เฮ้ยมึงจอดหน้าบ้านยายยุ้ยเลยนะ(เสียงผู้เฒ่าบอกคนขับ)เอาเตรียมลงจารย์กูจะดูคนร้องไห้
เจเจ้:เฮียทำไมต้องร้องไห้
เจเจ้ถามด้วยความสงสัย
ศิษย์,: มาๆๆเข้าร้านก่อน แกไม่ตอบแต่เดินนำลิ่วเข้าร้านไป
ท่านผู้เฒ่าพาร่างที่ยังแข็งแรงเดินนำพวกเราเข้าไปในร้าน
ร้านยายยุ้ยของผู้เฒ่าเป็นร้านข้าวต้มทะเลที่มีชื่อของอ่างศิลาทีเดียวเจ้าของร้านยังสาวสะพรั่งไม่เห็นเป็นยายเลย
พี่ยุ้ย: มาๆเข้ามานั่งกันทางนี้เลยจะทานอะไรดีเลือกดูเมนูได้นะคะ
(เจ้าของร้านเสียงหวานรีบเชื้อเชิญลูกค้าระดับเตี่ย)
ศิษย์: จะพาไอ้พวกเด็กๆมันมากินข้าวร้องไห้น่ะยายยุ้ย
1
พี่ยุ้ย: อออ่อจะให้เห็นตำนานที่นี่เหรอเฮีย(พี่ยุ้ยรับคำผู้เฒ่าพร้อมทั้งรอยยิ้มกว้างดวงตานี่แพรวพราวเป็นประกาย)
พี่ยุ้ย: คุณๆ(พี่ยุ้ยคนสวยหันมาพูดกับเจเจ้)คุณเลือกเมนูเลยเจเจ้เลยเลือกข้าวต้มแห้งแปลกดีเพราะไม่เคยทานใส่ทะเลครบชุดใหญ่หลังจากเลือกเมนูได้พี่ยุ้ยก็บอกกับเจเจ้ว่าทานน้ำอะไรดีในซอยนี้มีน้ำให้เลือกนะเดินไปสั่งเองนะของเขาอร่อยทุกอย่าง
ศิษย์: จารย์มึงเดินลงไปทางนี้นะร้านอยู่ทางซ้ายแล้วซื้อน้ำมะนาวมาให้ด้วยผู้เฒ่าสั่งการ
เมื่อได้ยินเสียงผู้เฒ่าสั่งน้ำมะนาวคณะผู้ร่วมเดินทางก็สั่งน้ำมะนาวบ้าง
เจเจ้:งั้นแบ่งคนมาไปช่วยถือกันมากขนาดนี้หิ้วมาไม่หมดแน่ทันใดนั้นเจเจ้แอบเห็นท่านผู้เฒ่าแอบลอบสบตากับพี่ยุ้ยเจ้าของร้านแล้วขำแบบกลั้นเอาไว้เจเจ้ได้แต่เก็บความสงสัยไว้กับตัวผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์ต้องมีอะไรแน่ๆ
เจเจ้พร้อมคนขับรถและผู้ช่วยก็เลยเดินออกจากร้านพี่ยุ้ยมุ่งหน้าไปร้านขายน้ำระหว่างทางที่เดินไปก็สำรวจบ้านเรือนแถบละแวกนั้นไปด้วย
เจเจ้เดินมาจนถึงแผ่นป้ายข้อมูลท่องเที่ยวก็เลยแวะอ่านประวัติและที่มาของสถานที่แห่งนี้
ชุมชนอ่างศิลาตลาด133ปี
ตลาดเก่าอ่างศิลา
อ่างศิลา" เป็นหมู่บ้านประมงริมทะเลอยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่และเป็นแหล่งทำครกหิน ซึ่งริเริ่มโดยชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งอพยพเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้นำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่มากมายแถบอ่างศิลามาแกะสลัก จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าของใช้ของตกแต่งบ้านมากมาย
อ่างศิลายังเคยเป็นสถานตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมของชาวตะวันตกและคนบางกอก จากชื่อตั้งเดิม “อ่างหิน” เมื่อเป็นสถานที่ยอดนิยมในการตากอากาศของคนกรุง ก็เริ่มเปลี่ยนชื่อเป็น “อ่างศิลา” เพื่อให้ดูคลาสสิคและดูเป็นสากลมากขึ้น มีตำหนักที่ประทับริมทะเลสมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมแบบยุโรปให้เห็นอยู่ รวมทั้งเป็นย่านร้านอาหารทะเลอร่อยๆ หลายร้านสำหรับ ตลาดอ่างศิลาเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2419 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 133 ปีแล้ว เทศบาลตำบลอ่างศิลา และชุมชนชาวอ่างศิลาได้ร่วมกันพัฒนาตลาดอ่างศิลา เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี
1
ตลาดอ่างศิลาในปัจจุบัน ยังคงความงดงามและสง่างามด้วย "ตึกมหาราช" และ "ตึกราชินี" หรือ "ตำหนักราชินี" ซึ่งมีสีแดงตั้งเป็นสง่าอยู่ริมชายทะเลอ่างศิลาตรงปากทางเข้าตลาดอ่างศิลานั่นเอง นอกจากนี้ยังมีท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ต้องมานมัสการ คือ "ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ" ชมความงามถึงสถาปัตยกรรมประเพณีจีน ศาลเจ้าแม่เขาหิน สะพานปลาที่ตั้งอยู่ทางเข้าด้านซ้ายมือ
อ่านจบก็เดินมาอีกนิดก็ถึงร้านขายน้ำที่ถูกสั่งเกมบังคับให้มาร้านเป็นรถเข็นคันเล็กๆคันหนึ่งมีเจ้าของร้านเป็นยายซิ้มที่มีอายุแล้วหน้าตาอืมใช้คำว่าบอกบุญไม่รับได้เลยบริเวณรอบร้านหน้าร้านติดถนนหลังร้านมีโต๊ะยาวอยู่ตัวหนึ่งมีลูกค้ามาสั่งน้ำรออยู่ก่อนแล้ว2คน
คำทักทายแรกที่เจอเมื่อเจ้าของร้านเงยหน้ามามอง
ยายซิ้ม:เฮ้ยพวกมึงจะมาทำอะไรร้านกูจะมาพังร้านรึไง
เจเจ้: ปล่าวจ้าว..ทอดเสียงหวานให้ยายหนูจะมาซื้อน้ำมะนาวค่ะเจเจ้รีบบอก
ยายซิ้ม:อ้ายเหี้ย!อะไรกันนักหนาว่ะน้ำกูมีขายตั้งเยอะไม่แดกกันมึงจะแดกแต่น้ำมะนาวนี่ล่ะ
ทั้งคณะสะดุ้งเป็นแถวต่างคนต่างก็สะกิดให้ถอย
เจเจ้: 555ยายแจกมาเต็มๆเลยเจเจ้เอ่ยขึ้นหันมองลูกค้าที่รออยู่ก่อนแล้วทั้ง2คนจุปากบอกอย่าพูด(ขนาดนั้นเลยค่ะ)
ยายซิ้ม:พวกมึงอย่ามาบังร้านกูกูไม่ชอบไปยืนไกลๆเลยตรงนี้มัน❤️หัวใจกู อ้าวจะซื้อน้ำก็สั่งสิมึงจะแดกมั๊ย
คณะร้องเฮ้ยดังๆแล้วแยกตัวออกไปเหลือเจเจ้กับคนขับรถผู้เฒ่าเจเจ้สงสัยมันต้องมีอะไรมากกว่านี้เพราะคนขับรถกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง
เจเจ้: น้ำมะนาว10แก้วค่ะยาย
ได้ผลคำว่า10แก้วยายซิ้มตาลุกวาวแกคงคิดแล้วว่าวันนี้ขายดีแต่บราาาาาาา???????
1
ยายซิ้ม:ไอ้เฉิบหายไอ้เหี้ย...,
เสียงสูงปรี๊ดดทะลุฟ้าและซอย
มึงจะแดกน้ำมะนาว10แก้วกูไม่ขายกูขายได้แก้วเดียวพ่อแม่มึงรวยมากนักมึงไปตลาดซื้อมะนาวไปทำแดกเองที่บ้านไป๊ไอ้2คนนั่นมา7แก้วมึงอีก10แก้วรวม17แก้วกูก็ตายสิวะ
ทุกคนนึกภาพเจเจ้ออกมั๊ยปากหวอเลยพูดไม่ออกคนขับรถเฮียผู้เฒ่าสะกิดใจเย็นๆๆๆอย่าพูดอะไรเฉยไว้
ยายซิ้มเมื่อแกด่าไปแต่มือแกว่องไวมากเอาแก้วออกมาเรียงบนร้านพร้อมกับขูดน้ำแข็งไสแบบโบราณใส่แก้วทีละ2แก้ว
มือหยิบมะนาวแป้นมาหั่นและคั้นด้วยมือแบบคั้นทีเดียวความละเอียดใส่ใจในการผลิตแกดีมากเลยสะอาดทุกขั้นตอน
ยายซิ้ม: กูทำให้แดกครั้งเดียวนะมึงรู้มั๊ยทำน้ำมะนาวมันต้องมีน้ำมะนาวมากๆกูต้องซื้อมะนาวบ้านแพ้วมาทำและมะนาวทุกลูกกูต้องคัดอย่างดี
เจเจ้: ฟังแกพูดไปด่าไปตอนนี้อารมณ์แกเบาลงนิดนึงแล้ว
แต่สีสรรการขายของยายซิ้มยังมีต่อเมื่อแกทำ7แก้วแรกเสร็จแกก็หันไปหาลูกค้า2คนแรก
ยายซิ้ม: เฮ้ย!เสร็จแล้ว.มึงมาหยิบไปเองแล้วคราวหน้ามามึงมาแดกน้ำอื่นเลยนะพูดเสร็จแกก็หันมาทำของเจเจ้10แก้ว
ลูกค้า2คนคงมาด้วยกันหยิบเงินออกมาจ่ายยายซิ้ม100บาทแล้วถามหาใบย่อยกันเพื่อจ่ายเพิ่มยังไม่ทันได้หยิบเงินที่เหลือ
ยายซิ้ม:ไอ้เหี้ยน้ำมะนาว7แก้วมึงจ่ายกู100พวกมึงจะโกงกูรึไง
ลูกค้า2คนบอกไม่ใช่ยายหาเงินย่อยอยู่
1
ยายซิ้ม:ใบร้อยอีกใบก็ให้กูได้ไอ้เหี้ยมึงรู้มั๊ยมือกูบีบมะนาวมันกัดมือกูพังหมดแล้วค่ายากูยังไม่พอเลย
ลูกค้าได้ใบยี่สิบสองใบรีบยื่นให้ยายซิ้มแล้วหันมามองเจเจ้ด้วยรอยยิ้มของคุณ10แก้วยังมีตอนต่อไปพูดเสร็จเขาก็เดินจากไป
ยายซิ้ม:มึงเอ้ยวันนี้วันพระทำไมไม่มีน้ำใจ
แกบ่นแล้วก้มหน้าทำน้ำมะนาวต่อเจเจ้รู้สึกสงสารแกอย่างไรไม่รู้ก็เงียบไปดูแกทำต่อไปจนเกือบจะเสร็จก็มีรถกระบะเลี้ยวมาจอดหน้าร้านแกเปิดกระจกตะโกนถามดังๆ
รถกระบะ:ยายสะพานที่มีค้างคาวแม่ไก่อยู่ตรงไหนยาย
ยายซิ้ม:แกเงยหน้ามามองพร้อมเท้าสะเอว
...ไอ้เปรตมึงมาถามหาแม่มึงรึไงที่นี่ก็มีกูกะมึงนี่แหละพูดจบแกก้มหน้าทำน้ำมะนาวต่อ
คนขับรถกระบะหน้างี้งงไปสามโลกเลยค่าคนขับรถผู้เฒ่าเลยบอกเอง..ขับไปสะพานหน้าก็เจอแล้วครับรถกระบะหันมาขอบคุณแล้วไปแนบเลย
เหลืออีกแก้วมีลูกค้ามาใหม่
ยายหลวยน้ำมะนาว2แก้ว
เจเจ้ก็พึ่งได้ยินคนเรียกชื่อแกก็ครั้งนี้ล่ะ
ยายซิ้ม:(เสียงด่ากลับมา)อีพวง
แม่มึงมีมะนาวล้นฟ้ากลับไปทำแดกเองกูไม่ขายให้มึงแม่มึงรวยจะมาแดกของกูทำไม
ลูกค้าคุณพวง: น้ำเชื่อมแม่ไม่
หร่อยสู้ซิ้มไม่ได้ให้เกิดใหม่ก็แพ้ซิ้ม2แก้วนะซิ้มผัวรออยู่
น้ำมะนาวเจเจ้เสร็จพอดีแต่ซิ้มแกต้องไสน้ำแข็งเพิ่ม
ยายซิ้ม: เห็นมั๊ย10แก้วละลายหมดกูเลยต้องเหนื่อยเพิ่มเอาไปขนไปแดกไม่อร่อยอย่ามาด่ากู
เจเจ้: ขอบคุณน้ำใจนะยายทำให้จนครบ
เจเจ้ให้เงินแกไป400ระเบิดเวลาก็ลงสิครานี้
ยายซิ้ม:มึงให้เงินกูทำไมมากขนาดนี้กูขายแค่แก้ว20มึงเอากลับไป
เจเจ้: เจ้ให้ซิ้มไว้ซื้อยานะซิ้มอย่าด่านะวันพระ
ยายซิ้ม:แกมองหน้าเจเจ้แล้วปล่อยโฮ...อืมกูได้หาหมอแล้ว
ขอบคุณนะแกยิ้มทั้งน้ำตาก่อนเดินจากมาแกทิ้งท้ายไว้สวยมากใครบอกมึงว่าน้ำมะนาวกูอร่อยลอดช่องกูต่างหากที่อร่อย
เจเจ้มองแกอย่างรู้สึกเอ็นดูคนสูงวัยไม่ได้ต้องการอะไรมากมายความเอาใจใส่นิดหน่อยเองที่แกต้องการเจเจ้และคนขับรถช่วยกันหิ้วน้ำมะนาวกลับไปร้านเจ้ยุ้ยเสียงหวาน
1
ศิษย์: ไงท่านอาจารย์เจอน้ำมะนาวรสชาติเผ็ดดีมั๊ย
ผู้เฒ่าจอมแสบพูดก่อนหัวเราะลั่นร้าน...555ต้องให้เจอเองเล่าก่อนเดี๋ยวไม่สนุกเอามาๆๆมากินข้าว
เจเจ้เดินไปนั่งลงทานข้าวที่พี่ยุ้ยทำไว้ให้ข้าวต้มแห้งทะเล
อร่อยมากไม่ต้องปรุงเมื่อหันไปยกแก้วน้ำมะนาวดื่มบอกเลยอร่อยมากโรงแรมที่ว่าดังๆร้านอาหารชั้นเลิศสู้น้ำมะนาวยายซิ้มไม่ได้จริงๆถูกอร่อยไม่แพงสุดยอดแนะนำเลยว่าใครได้ไปอ่างศิลาต้องแวะร้านยายซิ้มเจเจ้ทานข้าวไปพร้อมกับน้ำตาที่อดไหลรินลงมาไม่ได้
1
ศิษย์: กูว่าแล้วข้าวคลุกน้ำตา555เสียงหัวเราะของเฮียแกดังทะลุซอย
ทุกคนนั่งยิ้มไปขำไปจนหัวเราะกันท้องแข็งน้ำตาที่ไหลไม่ใช่ไหลเพราะสงสารเสียใจแต่เป็นเรื่องราวต่างหากที่พาทั้งคณะหัวเราะกันจนน้ำตาไหล
กินข้าวพร้อมน้ำตาอย่างที่เฒ่าแสบบอกจริงๆ
1
ป้าหลวยหรือยายซิ้มของเจเจ้ห่วงแกอยู่อย่างเดียวถ้าคนที่เขาใจเย็นก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าซิ้มแกเจอคนใจร้อนรึไม่รู้พื้นฐานสีสรรของแกคงพังร้านแกแน่
1
เรื่องราวขำๆก็จบลงแล้วค่ะใครมีเวลาแวะไปเที่ยวอ่างศิลาอย่าลืมแวะร้านยายหลวยนะคะ
โฆษณา