20 ก.ย. 2020 เวลา 09:51 • ประวัติศาสตร์
“ยุทธการ Okinawa (The Battle of Okinawa)” ปฏิบัติการโจมตีที่ดุเดือดเลือดพล่านที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2
1
กองทัพอเมริกันได้บุกขึ้นฝั่งโอกินาว่าในปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะสิ้นสุดในอีกไม่นาน
Okinawa นั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะ Ryukyu และอยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่น หากยึดได้ การจะบุกแผ่นดินใหญ่ก็ไม่น่าจะยากนัก
ยุทธการนี้เป็นที่รู้จักในชื่อของ “ยุทธการ Okinawa (The Battle of Okinawa)” ซึ่งกินเวลาในการรบกว่า 82 วัน โดยกองทัพญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และยอมตายดีกว่ายอมแพ้ ทำให้ยุทธการนี้เป็นสงครามที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อทหารฝ่ายสัมพันธมิตรบุกขึ้นฝั่งในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ปรากฎว่าทหารญี่ปุ่นได้ถอยไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ชนพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชายที่ถูกเกณฑ์มา ทำการสู้รบกับกองทัพสัมพันธมิตร ซึ่งชนพื้นเมืองกว่า 150,000 คนก็ได้เสียชีวิตจากการรบในครั้งนี้
กว่ากองทัพสัมพันธมิตรจะรู้ว่ากองทัพญี่ปุ่นถอยไปแล้ว ก็ปาเข้าไปหลายวัน และเมื่อกองทัพสัมพันธมิตรบุกและยึด Okinawa ได้กว่าครึ่งแล้ว กองทัพสัมพันธมิตรจึงบุกต่อเพื่อที่จะยึด “ปราสาท Shuri”
ปราสาท Shuri
แต่ปราสาท Shuri นี้ เหล่าทหารญี่ปุ่นก็ได้ยึดครองและมีการวางกำลังป้องกันโดยรอบเป็นอย่างดี
เมื่อกองทัพสัมพันธมิตรไปถึงปราสาท Shuri ก็ต้องพบกับกองทัพญี่ปุ่นที่ปกป้องปราสาท Shuri
การต่อสู้กินเวลากว่าสองเดือน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันโจมตี และถึงแม้ทหารญี่ปุ่นจะมีจำนวนน้อยกว่า หากแต่ทหารญี่ปุ่นต่างยอมตาย ไม่ยอมแพ้หรือถูกจับ
หน่วย “Kamikaze” ของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหน่วยบินพลีชีพ ได้ทำให้ทหารสัมพันธมิตรกว่า 4,900 นายเสียชีวิต บาดเจ็บอีกกว่า 4,800 นาย
หน่วย Kamikaze
สำหรับญี่ปุ่นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ศัตรูบุกมาหาถึงบ้าน เหล่าทหารจึงยอมตายดีกว่าต้องยอมแพ้หรือถูกจับ
และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายของทหารในกองทัพญี่ปุ่นนั้นสูงมาก หลายนายต่างคว้านท้องตัวเอง แม้แต่ผู้บังคับบัญชา ต่างก็เลือกที่จะจบชีวิตตัวเองเมื่อรู้ว่าแพ้แน่
ยุทธการนี้จบลงด้วยตัวเลขทหารฝ่ายญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจำนวน 100,000 นาย ทหารฝ่ายสัมพันธมิตร 14,000 นาย ชาวบ้านพื้นเมืองใน Okinawa 300,000 คน ผู้บาดเจ็บอีก 65,000 คน
1
ยุทธการนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นยุทธการที่นองเลือดมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2
2
โฆษณา