20 ก.ย. 2020 เวลา 13:39
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่5,
(20/9/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขออนุญาตส่งจันทร์เจ้าขา ตอนล่าสุด ให้เพื่อนๆได้อ่านกันให้เพลิดเพลิน ในคืนวันอาทิตย์นี้นะครับ 😇💚💚💚
สุขสันต์วันหยุดครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 5 เมขลาพาริส
#ณ.มหาสีทันดรช่วงเข้าสู่คีรีการเวก
“ คุณหนูพาขอรับ.. เราได้ผ่านพ้นพายุวาตโมหะ แห่งมหาสีทันดรกันแล้ว ขอรับ..
และกำลังจะเข้าสู่คีรีการเวก
..โหงพราย คงไม่สามารถก้าวล่วงเข้าไปกว่านี้ได้ แล้วขอรับ..
ดังนั้น..โหงพรายจึงขอส่งคุณหนูพา เพียงเท่านี้นะขอรับ..”
โหงพรายเอ่ยเบาๆ พร้อมกับยกมือที่คล้ายรากไม้ขึ้นไหว้หนูพา อย่างน่าเอ็นดู..
“ขอบใจหงษ์พราย นะเจ้าคะ.. ที่อุตส่าห์มาช่วยหนูพา ให้ผ่านพายุวาตโมหะมาได้น่ะเจ้าค่ะ..
ต่อไปภายหน้า หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่หงษ์พรายเดือดร้อนทุกข์ใจ.. แล้วอยู่ในสิทธิและอำนาจที่หนูพาจะช่วยเหลือได้.. ขอหงษ์พรายอย่าได้เกรงใจ ให้มาหาหนูพาเถิดนะเจ้าคะ..”
หนูพาพูดด้วยใจใส..ใจกว้างขวาง ชัดเจนอย่างกับนักเลงโต..พลางจ้องหน้าโหงพราย ที่กำลังยกมือปาดน้ำตาซาบซึ้ง..
“โหงพราย มาช่วยคุณหนูพาในครั้งนี้ ก็ด้วยใจบริสุทธิ์ ที่รู้สึกรักในความสว่างธรรมในใจของคุณหนูพา..ที่ผู้ที่อยู่ใกล้ ต่างก็อิ่มเอม อบอุ่น ปิติสุข..
โดยโหงพรายมิได้หวังในผลตอบแทนใดๆ เลยขอรับ..”
โหงพรายสะอื้นตอบคุณหนูตามความสัตย์ ..ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า..
“แต่หากคุณหนูพา ได้พบหม่อมท่าน ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ .. โหงพรายอยากขอให้คุณหนูพาตั้งจิตระลึกถึงโหงพราย ด้วยเถิดนะขอรับ..
หม่อมท่านก็จะทราบถึงสิ่งที่จะช่วยโหงพรายได้ .. ขอรับ
ซึ่งสุดท้ายก็แล้วแต่เมตตาของหม่อมท่าน ต่อโหงพราย ว่าท่านจะแนะนำ หรือ มอบสิ่งใดต่อโหงพราย นะขอรับ..
เพราะคำสาปที่ติดตัวจากการสร้างโหงพราย คือ โหงพรายจะรู้ทุกสิ่งในขอบเขตจักรวาลนี้.. ยกเว้นรู้เรื่องของตัวโหงพรายเอง..
และหากวันใดโหงพราย รู้เรื่องของโหงพรายแล้ว.. วันนั้นโหงพรายก็จะหลุดพ้น เป็นอิสระขอรับ..”
โหงพรายพูดช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง และยกมือสวัสดีลาคุณหนูพา อีกครั้งก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าสู่ไฟสีเขียวในตะเกียง..อันเป็นทางลัดกลับสู่ประตูวิญญาณฝั่งพระนคร..
..
..
“แกร๊วๆ!!” เสียงปักษาวายุภักษ์ ร้องดังก้องกังวาลในราตรีกาล อีกครั้งหนึ่ง..
หนูพา จึงหันมองไปทางเบื้องหน้า..เห็นม่านหมอกที่ปกคลุมหนาทึบของคีรีการเวก..ค่อยๆแหวกออก.. ให้ปักษาวายุภักษ์บินแทรกตัว เข้าสู่บริเวณชั้นในของคีรีการเวกอย่างรวดเร็ว..
ก่อนที่ม่านหมอกนี้จะกลับมาปิดสนิทดังเดิม..
หุบเขาใหญ่น้อยที่ทอดตัวยาวในคีรีการเวก สลับด้วยสีสันของพรรณไม้ต่างๆ..
ช่างงดงามหลากสีสัน..
เหล่าสัตว์โบราณที่วิ่งอยู่บนพื้นหญ้า แหงนหน้าขึ้นมองคุณหนูพา..แล้วส่งเสียงร้องทักทาย..
เหล่าฝูงปักษาวายุภักษ์ บินวนฉวัดเฉวียน โฉบเล่นลมไปมา..บางตนก็บินละเลียดธารน้ำ แล้ว บินพุ่งขึ้นมาขวาง ..มองคุณหนูพาอยู่ครู่หนึ่ง.. ราวกับคุ้นเคยกันมาก่อน..แล้วจึงบินจากไป..
นอกจากนี้ บนหลังของเหล่าปักษาวายุภักษ์บางตนก็มีนางเมขลาตัวน้อย ที่นั่งบังคับทิศทางแข่งขันกัน ..
ต่างพร้อมใจหันเหลียวมามองคุณหนูพา ..แล้วค่อยๆบังคับปักษาวายุภักษ์ของตนให้บินตามเฝ้าดูอยู่ห่างๆ..ด้านหลัง..
“แกร๊วๆ.. แกร็วๆ”
ปักษาวายุภักษ์ ร้องอีกครั้ง และ เอี้ยวคอหันมาหาคุณหนูพา คล้ายกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง กับคุณหนูพา .. ให้ก้มมองไปยังพื้นด้านล่าง ที่คล้ายมีการชุมนุมอะไรบางอย่างอยู่..
คุณหนูพา จึงจ้องมองฝ่าความมืดนั้น พลางตั้งจิตระลึกถึงหม่อมท่าน..
ทันใดนั้น ภาพอันไกล ก็ปรากฏใกล้ ..เป็นภาพหม่อมทินกร กำลังเงยหน้าขึ้นมามองคุณหนูพา แล้วยิ้มให้อย่างเมตตา..
ขณะที่ปากของหม่อมท่าน ก็ขยับพูดอะไรบางอย่าง..
“พูดอะไร กับหนูพาหรือ
เจ้าคะ..”
หนูพาเกาหัวแกรกๆ แล้วเอ่ยรำพึงเบาๆ พร้อมกับจ้องที่ริมฝีปากนั้น .. พลางสะกดคำจากปากของหม่อมท่าน และพูดตามว่า..
“เตรียม..”..”ตัว.. “ “เหาะ..”..
“เกียม ตัว เหาะ..”
“เหาะ.. อะไรกันนะเจ้าคะ” หนูพาถามขึ้น..
หนูพาพูดยังไม่ทันขาดคำ.. ปักษาวายุภักษ์ ก็บินโค้งขึ้น หงายตัวสลัดให้ คุณหนูพากลิ้งตกลงมาจากหลัง...
“โหวยยยยย..”
“ตายแน่แล้ว..เจ้าค่าา”
คุณหนูพาร้องตะโกนสุดเสียง แล้วจับตะเกียงไฟแน่น..แนบลำตัว..
ก่อนจะร่วง..ลอยละลิ่ว ตกลงมา.. กลางเวหาของคีรีการเวก..
ด้วยท่า กระพือปีก.. ตีขา..
เหยียดยืด.. สารพัดท่า..
“ช่วย.. ด้วย.. เจ้าค่าเอ๊ย!!”
“เอ๊ยๆๆๆๆ” เสียงตะโกนร้องของหนูพากังวานสะท้อนก้องไปมาในหุบเขา..
..
..
..
#ณ.ห้องนอนคุณไกรสรในเขตเรือนมหาดเล็ก
คุณไกรสรเริ่มขยับตัวไปมาทีละน้อย คล้ายกับค่อยๆคืนสติ..
“ (คุณหนูน้อยซ์ ขอรับ)” คุณพีระ กระซิบเรียกคุณหนูน้อยซ์เบาๆ พลางชี้ไปที่ร่างคุณไกรสรที่ขยับพลิกตัวขึ้นมานั่ง..แต่ยังคงปิดตาอยู่
“ได้เลยเจ้าค่ะ..” คุณหนูน้อยซ์พยักหน้าตอบรับคุณพีระ..แล้วจึงหันมองรอบๆตัว ..ก่อนจะหยิบไม้เท้าที่มีซากหัวมนุษย์จิ๋วแห้งติดอยู่
แล้วจึงจับให้ไม้เท้ากระชับมือ..เขกเข้าที่ศีรษะของคุณไกรสร เสียงดัง “โป๊กกก..”
คุณไกรสรไถลตัวลื่นไปตามแรงเขกไม้เท้า..ลงไปนอนหลับนิ่งสนิท เช่นเดิม ..
พร้อมกับรอยปูดที่หน้าผากคล้ายลูกมะนาวย่อมๆที่ค่อยๆบวมปูดขึ้น..
คุณพีระ ทำตาโต มองคุณหนูน้อยซ์นิ่ง..ไม่ได้พูดอะไร..
ขณะที่คุณหนูน้อยซ์ หยิบไม้เท้าขึ้น.. หมุนพิจารณา ซากหัวมนุษย์แห้งที่ติดอยู่บริเวณหัวไม้เท้า อย่างช้าๆ ..
“นี่มันไม้เท้าอะไรกันนะเจ้าคะ..” คุณหนูน้อยซ์จับไม้เท้าลองกระแทกลงบนพื้น
ทันใดนั้นใบหน้าทั้งสี่ของซากหัวมนุษย์จิ๋วที่ติดอยู่กับไม้เท้า ก็ลืมตาอ้าปากส่งเสียงพร้อมกันว่า “เอฟฟาธา (Ephphetha =จงเปิดออก ”
บานประตูของตู้ที่วางโกศ ก็เปิดออก และมีลมกรรโชกแรง พัดวูบออกมา..พร้อมกับร่างโหงพราย ที่ปลิวออกมา ตกลงอยู่ตรงหน้า คุณหนูน้อยซ์ และคุณพีระ
“นี่มันตัวอะไร อีกนะขอรับ
น่าเกลียดน่าชัง เสียเหลือเกิน..” คุณพีระอุทานถาม ด้วยความแปลกใจ..
“โหงพราย กระซิบ น่ะขอรับ..คุณพีระ” โหงพรายลุกขึ้นยืนตอบตาใส กับคุณพีระ..
“คุณหนูน้อยซ์ช่วยเอาไม้เท้าจตุรอาชา ออกห่างจากโหงพราย ด้วยขอรับ..โหงพรายกลัว..” โหงพรายหันมาพูด กับคุณหนูน้อยซ์ อย่างระมัดระวัง..
แต่คุณหนูน้อยซ์กลับยื่นไม้เท้าเข้าจ่อหน้าโหงพราย ทำสีหน้าเอาเรื่อง และ
พูดว่า ..
“จงรีบบอกหนูน้อยซ์มา โดยเร็วเถิดว่า คุณหนูพาอยู่ที่ใด..
ก่อนที่หนูน้อยจะเอาไม้เท้านี้ เขกหัวหงษ์พรายให้..”
“(ชาติที่แล้ว คุณหนูน้อยซ์เหมาะกับจะเป็นเสือ มากกว่าเป็นนางเมขลานะขอรับ)” โหงพรายกระซิบพูดกับตัวเอง ..
“อะไรนะขอรับ เจ้าผีตายโหงตัวนี้ ลักพาตัวคุณหนูพาไปหรือขอรับ ..”
คุณพีระ ทำเสียงแข็งและจ้องหน้ามองโหงพราย ราวกับกำลังคิดแผนการทรมานคาดคั้น เพื่อให้พูดความจริง เหมือนที่เจ้าหน้าที่รักษากฏหมายตราสามดวง..ชอบกระทำ..
โหงพราย กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แล้วค่อยๆพูดตอบคุณหนูน้อยซ์ และคุณพีระ ด้วยความระมัดระวังว่า..
“กระผมผีโหงพราย กระซิบ
มิใช่ ผีตายโหง ขอรับ..
มันเปรียบเสมือน เอายศมหาดเล็กไล่กา มาเรียกสลับกับ ตำแหน่งเจ้าคุณเลยทีเดียวขอรับ..
ขณะนี้ คุณหนูพา กำลังตกลงจากฟ้าในเขตป่าคีรีการเวกอยู่น่ะขอรับ.. แต่ไม่น่ากังวล อะไรมากขอรับ..
เพราะอดีตชาติของคุณหนูพาเคยบินได้ .. หากคุณหนูพาระลึกสัญญาได้..ก็จะบินได้เองน่ะขอรับ..
แต่ถ้าหากระลึกไม่ได้.. โหงพรายก็จะมี ..เพื่อนผี ชื่อคุณหนูพาขอรับ..”
คุณหนูน้อยซ์ เผลอเอาไม้เท้าเขกหัว โหงพรายด้วยอารมณ์หมั่นไส้ ปนโมโห
จนผมของโหงพรายลุกติดไฟฟู่ ร้องเสียงหลง..
โหงพรายรีบเอามือเล็กๆมาตบศีรษะ เพื่อดับไฟ พร้อมกับร้องไห้ ต่อว่า คุณหนูน้อยซ์ว่า..
“ฮือๆ มีแต่คุณหนูพา คนเดียวจริงๆเลยขอรับ ที่ดีต่อโหงพราย ไม่ใช้กำลังกดขี่ข่มเหงโหงพราย..
ขอให้ระวังตัวไว้นะขอรับ..
ขณะนี้แม่จ่ายได้รู้แล้วว่า คุณท่านทั้งสองบุกรุกห้องนอนของคุณไกรสร..
อีกสักครู่ แม่จ่ายคงจะส่งผีจะกละอันธพาล มาที่นี่อย่างแน่นอน..ขอรับ
หากคุณท่านทั้งสอง เชื่อคำพูดโหงพราย.. จงรีบออกจากห้องนี้ แล้วกลับไปยังตำหนักของท่านโดยเร็วเถิดขอรับ..
แต่ถ้าหากคุณท่านทั้งสองยังชักช้า ร่ำไร.. ก็ขอให้โชคดี นะขอรับ..”
โหงพรายกระซิบเตือนประโยคสุดท้าย แล้วค่อยๆเลือนหายไป..
คุณหนูน้อยซ์ตั้งสติได้แล้วจึง รีบคว้าข้อมือคุณพีระ วิ่งออกจากห้องนอนคุณไกรสร โดยไม่หันไปมองอีก.. แล้วพูดกับคุณพีระว่า..
“หนูน้อยซ์เคยเผชิญกับผีแมวจะกละ ครั้งหนึ่งทางใต้.. หากได้ยินเสียงใดเรียกชื่อ ตามหลังมา ขออย่าหันกลับไปมองนะเจ้าคะ คุณพีระ..”
..
..
..
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเรียกชื่อคุณพีระ ตามมาอยู่ด้านหลัง.. เสียงนั้นคล้ายเสียงคุณหนูพายิ่งนัก..
“คุณพีระ เจ้าขา.” เสียงเรียกหวานหยาดเยิ้มของคุณหนูพา ที่ฟังดูคล้ายเสียงแมวร้องอยู่ในที .. ช่างชวนขนหัวลุกยิ่งนัก..
“หลับตา แข็งใจ อย่าหันไปมองนะเจ้าคะ.... เรากำลังจะเข้าเขตตำหนักกันแล้วเจ้าค่ะ..”
หนูน้อยซ์จับข้อมือ คุณพีระแน่น แล้วพาวิ่งอย่างสุดกำลัง..
..
..
“คุณพีระ เจ้าขา ..แง๊วววว”
เสียงเรียกนั้น ก็วิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว...จนจวนจะถึงตัวคุณพีระ..
ทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างจ้าวาบ ออกมาจากตัวคุณหนูน้อยซ์ พุ่งเข้าใส่ผีจะกละ ที่วิ่งไล่ตามหลังมา..
“แง๊วววววววว!!!!” เสียงตะโกนร้องอย่างทรมานของผีจะกละ ดังออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะเงียบเสียงลง..
..
..
..
#ณ.เพิงไม้ของแม่มดจ่ายในป่าช้าวัดสังข์กระจาย
ขณะที่แม่มดจ่ายกำลังท่องมนต์โบราณ..
ลูกแก้วรูปแมวบนชั้นไม้ของแม่มดจ่ายก็ได้ตกลงมาแตกเสียงดัง “เพล้งงงง!!”
เลือดสีดำ ทะลักออกมาจากรูปนั้น ราวกับมีชีวิต..
แม่มดจ่ายจ้องมองสภาพเลือดสีดำ ที่มีกลิ่นไหม้ นั้น
แล้วอุทานออกมาว่า ..
“เป็นผู้ใด ในราชสำนักสยามกัน..จึงมี ไฟมณีเมขลาเผาไหม้ล้างอาถรรพ์ของข้าได้..”
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 5
#เกร็ดเพิ่มเติม
#ผีจะกละ
จะกละ เป็นผีชนิดหนึ่งของไทย มีลักษณะคล้ายแมวป่า เป็นผีที่หมอผีเลี้ยงเอาไว้ เพื่อใช้ในการทำร้ายศัตรูหรือคู่อริ ทางภาคใต้เรียกกันว่า ผีล้วง ลักษณะโดยทั่วไปจะเหมือนกับแมวบ้านทุกประการ แต่ขนจะมีสีดำสนิทกระด้างไม่มีเงา ขนจะทวนไปด้านหน้าฟูฟ่อง ดวงตาสีแดงเลือด มักจะออกหากินกลางคืน กลัวคน เมื่อเห็นคนหรือคนเห็นมัน มันจะวิ่งหนีลงรู
ซึ่งมันจะขุดรูเป็นที่อยู่.. มีฤทธิ์เดชเมื่อมนุษย์เพียงแค่เห็นหรือสัมผัสมัน ก็สามารถตายได้..
มีเหตุการณ์หนึ่งได้เกิดขึ้นที่ จังหวัดกระบี่ เป็นการตายพร้อมกันทั้ง ครอบครัว ทางแพทย์สรุปการตายว่า "ภาวะหัวใจล้มเหลว" แต่ญาติพี่น้องของผู้ตายเชื่อว่าเป็นฝีมือของผีจะกละ เพราะเมื่อเข้าไปตรวจสอบดูที่บ้าน พบรูลึกประหลาดอยู่หลังบ้าน รอบๆ ปากรูมีเส้นขนของแมวติดอยู่
#พาริสแปลว่า
คำว่า ปารีส ออกเสียง /พาริส/ [ˈparɪs] หรือ /แพริส/ [ˈpæɹɪs] ในภาษาอังกฤษ และ /ปารี/ [paʁi] ในภาษาฝรั่งเศส เป็นคำที่มาจากชื่อเผ่าหนึ่งของชาวโกล เป็นที่รู้จักกันในนาม “ปารีซี” (Parisii) ซึ่งเป็นชาวเมืองที่อาศัยในสมัยก่อนโรมัน โดยที่เมืองมีชื่อเดิมว่า “ลูเทเชีย” (ละติน: Lutetia) (ชื่อเต็ม “Lutetia Parisiorum” แปลว่า ลูเทเชียแห่งปารีซี) ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึง 6 ในช่วงที่อาณาจักรโรมันยึดครอง แต่ในช่วงการครองราชย์ของจูเลียน ดิ อโพสเทต (พ.ศ. 904 – พ.ศ. 906) ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “ปารีส” ปารีสมีชื่อเล่นมากมาย แต่ชื่อที่โด่งดังที่สุดคือ “นครแห่งแสงไฟ” (ฝรั่งเศส: La Ville-lumière) ซึ่งหมายความว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนและความรู้ ทั้งยังหมายความว่าเป็นเมืองที่สว่างไสวเต็มไปด้วยแสงไฟอีกด้วย
ส่วนอีกคำพาริส แปลได้ว่า ผู้เป็นใหญ่ หรือเจ้าแห่งความรัก ครับ
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงเรื่องราว
(T.Mon)
20/9/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา