20 ก.ย. 2020 เวลา 14:24 • กีฬา
โต๊ะเล็กไทย ดีพอไปฟุตซอลโลก สมัยที่6 หรือไม่?
#ChangsuekFutsalCorner
เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น การแข่งขัน "ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020" จะมีคิวลงสนามฟาดแข้งกันแล้ว เพื่อคัดเลือก 5 ชาติเป็นตัวแทนทวีปเชีย ไปลุยศึกฟุตซอลโลก 2020 ที่ประเทศลิทัวเนีย
อย่างที่เราทราบกันว่าศึกชิงจ้าวเอเชีย ปีนี้เจอปัญหาหลายเรื่อง จนต้องเลื่อนโปรแกรมออกมาจากเดิมเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนสุดท้าย สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และต้องมีการเปลี่ยนเจ้าภาพ จากเดิม เติร์กเมนิสถาน มาเป็น คูเวต ที่มีความพร้อมจัดการแข่งขันมากกว่า พร้อมปรับวันแข่งขันจากเดิมที่จะเตะกันในวันที่ 2-13 พฤศจิกายน ไปเป็นวันที่ 2-13 ธันวาคม นี้
ซึ่งความพร้อมของทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ ปูลปิส กุนซือชาวสเปน ยังไม่ได้ขยับเรียกตัวนักเตะเข้ามาฝึกซ้อม เนื่องจากปัจจุบัน ฟุตซอล ไทยลีก 2020 ลีกสูงสุดของเมืองไทย ยังคงลงสนามฟาดแข้งกันอยู่ทุกสัปดาห์
โดยจะมีกำหนดการเรียกผู้เล่นทีมชาติไทย เข้ามาเริ่มฝึกซ้อมช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ หลังจบภารกิจฟุตซอลไทยลีกเลกแรกในวันที่ 27 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะไปรวมตัวฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็จะมีรายการ ฟุตซอลไทยแลนด์ไฟว์ 2020 ให้อุ่นเครื่องด้วย ก็จะมีเวลาเพิ่มอีก 3 สัปดาห์ คร่าวๆ เวลาในเตรียมทีมก็จะมีอย่างน้อย 23 วัน
วันนี้เราจะมาลองวิเคาระห์ความพร้อมของทีมชาติไทย ว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน ดีพอไปลุยศึกฟุตซอลโลก สมัยที่6 ติดต่อกันได้หรือไม่?
เริ่มกันที่การเก็บตัวฝึกซ้อม แน่นอนว่าเป็นไปได้ยากลำบากมากที่สุด เนื่องจากโปรแกรมลีก ยังคงแข่งขันกันแบบถี่หยิบ ทำให้โอกาสที่จะดึงตัวนักเตะเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมแบบเต็มรูปแบบมีน้อย หลังจากนี้คงต้องมีการเรียกสโมสรสมาชิกมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางออกร่วมกันที่ลงตัวที่สุด เพื่อทำให้ ทีมชาติไทย พร้อมที่สุดก่อนชิงแชมป์เอเชีย 2020
ต่อมาคือเรื่องของสภาพร่างกายนักเตะ ที่ต้องยอมรับว่า นักเตะส่วนใหญ่จะมาจาก สโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี กับ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เป็นแกนหลัก ซึ่งจากโปรแกรมที่หนักและถี่ ทำให้หลายคนบาดเจ็บจนหมดสิทธิ์ช่วยทีมชาติไทย แน่นอนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น วัชระ ลัยศรี,ธนากูล วิเชียรกุล,สรศักดิ์ พูนจังหรีด,อนันตชัย ปราบวงษา ที่เจ็บหนักจนต้องปิดเทอมยาวไป เช่นเดียวกับ คฑาวุธ หาญคำภา กับ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ก็ยังมีอาการบาดเจ็บเช่นกัน
รวมถึง"จ่าต๊อบ"เจษฎา ชูเดช ก็ไม่ได้ลงเล่นเลยในช่วง 6-7 เกมที่ผ่านมา ขณะที่ "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ดาวยิงตัวความหวังของทีมชาติไทย ที่ปีนี้เลือกย้ายไปเล่นกับ นาโงย่า โอเชียนส์ ในลีกญี่ปุ่น แต่ติดเรื่องของโควิด-19 ทำให้ยังเดินทางไปไม่ได้ และไม่ได้ลงสนามเลยในปีนี้ ได้แต่รักษาสภาพร่างกายเท่านั้น
ซึ่งนี่ถือเป็นสองเหตุผลหลักใหญ่ที่ทำให้ ทีมชาติไทย จะเสียเปรียบคู่แข่งพอสมควร ทั้งเรื่องเวลาในการเตรียมทีม และสภาพร่างกายนักเตะที่ชั่วโมงนี้เป็นรองคู่แข่งอย่าง อิหร่าน ที่เรียกนักเตะมาซ้อมแล้ว เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น ที่แม้ลีกจะเปิดแล้ว แต่ก็เรียกนักเตะมาซ้อมกันโดยตลอด
เรื่องของความสามารถ และระบบทีมของทีมชาติไทย ชุดนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเล้่นด้วยกันมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะอย่าลืมว่าหลายชาติในทวีปเอเชีย เริ่มพัฒนาขึ้นมาแบบก้าวกระโดด ทุ่มงบดึงโค้ชฝีมือดีเข้ามาทำทีม และพาไปเก็บตัวอุ่นเครื่องกับทีมชั้นนำระดับโลก
สำหรับ ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ "แชมป์เก่า" อิหร่าน, เกาหลีใต้ และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นงานหนักพอสมควรที่ต้องมาเจอกับ โต๊ะเล็กเปอร์เซีย ที่ข้ามขึ้นไปเป้นทีมระดับโลกแล้ว
หากผ่านเข้ารอบเป็นที่สอง ของกลุ่ม ก็จะไขว้สายไปพบกับ ทีมในกลุ่มซี ที่มีทีมอย่าง อุซเบกิสถาน , บาห์เรน, จีน , อินโดนีเซีย ซึ่งทุกชาติหันมาพัฒนาอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
หลังจากนี้กก็หวังว่าเราจะเรียกนักเตะเข้าไปเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และปรับโปรแกรมลีกให้ลงตัวไม่หนักมากเกินไป เพราะมันส่งผลต่อสภาพร่างกายของนักเตะไม่มากก็น้อย หากเราไปแบบไม่พร้อมก็มีโอกาสอกหัก ชวดตั๋วลุยเวิลด์คัพ สมัยที่ 6 ติดต่อกันก็เป็นได้
แต่ลึกๆ แล้วยังมั่นใจในตัวโค้ช และนักเตะของทัพโต๊ะเล็กไทย มีดีพอที่จะคว้าตั๋วไป ฟุตซอลโลก 2020 ได้อย่างแน่นอน และไม่แน่อาจสร้างเซอร์ไพรส์เถลิงแชมป์เอเชียมาคครองได้เป็นสมัยแรกก็ได้ใครจะไปรู้.
โฆษณา