20 ก.ย. 2020 เวลา 19:51 • กีฬา
หงส์ ร้อนแรงบุกทุบสิงห์เก็บ 6 แต้มเต็ม
พรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ ประจำสุดสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล ไปเยือน เชลซี ถือเป็นเกมที่ได้รับการจับตามองด้วยหลากหลายประเด็น
ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มของ ทิโม แวร์เนอร์ ผู้ที่ตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล อยู่นานนมแต่สุดท้ายลงเอยกับ เชลซี
หรือจะเป็นการประลองกึ๋นของ แฟรงค์ แลมพาร์ด กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ถูกสื่ออังกฤษมองว่าเป็นคู่กัดรายใหม่หลังเคยเปิดสงครามแลกน้ำลายกันมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกกำชัย 2-0 ถึงสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ก็เป็นผลจากจุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้นหลังช่วง 45 นาทีแรกกำลังจะจบแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วแท้ๆ
- ใบแดงของ คริสเตนเซ่น
แม้ว่าเล่นในบ้านแต่ เชลซี เลือกแผนเน้นเกมรับแล้วสวนกลับเร็วในการรับมือ เชลซี เพราะหวังใช้สปีดของ แวร์เนอร์ เป็นหมัดเด็ดรอน็อกแชมป์เก่า
ในตอนที่ 11 คนเท่ากัน เชลซี ก็ยังพอรับมือได้ แถมยังมีจังหวะเปิดเกมรุกลุ้นประตูบ้าง
แต่ในช่วงท้ายครึ่งแรก อันเดรียส คริสเตนเซ่น มาโดนไล่ออกจากจังหวะเหนี่ยว ซาดิโอ มาเน่ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวไปลุ้นทำประตูล้มกองกับพื้นสนาม
จังหวะแรกเลย คริสเตนเซ่น ได้รับเพียงใบเหลือง แต่สุดท้ายหลังได้ดูภาพจาก วีเออาร์ ผู้ตัดสินก็เปลี่ยนเป็นใบแดง
นับตั้งแต่จังหวะนั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" ก็ตกเป็นรองแบบไม่มีทางเลือก ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ดีขึ้น ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ต้องโทษตัวเองก่อนสำหรับการเลือกเน้นเกมรับเหมือนเกรงกลัวศักดิ์ศรีของ ลิเวอร์พูล ทั้งที่เล่นในบ้านตัวเอง
- ติอาโก้ โชว์ของ
ติอาโก้ อัลกันตาร่า เพิ่งย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ได้ประเดิมสนามในอีกไม่กี่วันต่อมา
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เกิดอาการเจ็บต้นขาขึ้นมา ทำให้ ติอาโก้ ได้ลงโชว์ของเร็วกว่าที่คาดเอาไว้
แม้ว่าอยู่ในสนามเพียง 45 นาที แม้ว่าเป็นนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล ทั้งที่เพิ่งมาซ้อมได้ไม่เท่าไร แต่ ติอาโก้ ฉายแววแข้งเวิลด์คลาสอย่างที่ เดอะ ค็อป เฝ้ารอมานาน
ติอาโก้ ลงไปยืนเป็นตำแหน่งเบอร์ 6 คอยบัญชาเกมจากแนวลึกได้ดี การผ่านบอลแต่ละลูกเนียนกริ๊บ เขาจ่ายบอลเข้าเป้า 75 ครั้ง เป็นสถิติสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่มีการบันทึกเมื่อปี 2003 สำหรับนักเตะที่เล่น 45 นาที
ต้องบอกเลยว่านี่เป็นเพียงแค่ออร์เดิร์ฟจาก ติอาโก้ เพราะอาหารจานหลักกำลังจะมาแบบจัดเต็มในอีกไม่ช้านี้แน่นอน
- ตัวเลือกฉุกเฉินในแดนหลัง
ลิเวอร์พูล ประสบปัญหาขาดแคลนเซนเตอร์แบ็กในช่วงหน้าร้อนนี้หลังการขาย เดยัน ลอฟเรน ออกไปให้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
มันมีกระแสข่าวต่อเนื่องว่า ลิเวอร์พูล จะตามล่าเซนเตอร์แบ็กคนใหม่ หรือไม่ก็เตรีมดันดาวรุ่งในทีมเยาวชนขึ้นมาเลย
แต่สุดท้าย เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอบคำถามในประเด็นนี้ไว้ว่าตนตั้งใจให้ ฟาบินโญ่ เป็นตัวเลือกลำดับที่ 4 ในตำแหน่งนี้ เพราะสามารถถอยมาเล่นได้ โดยเคยประจำการมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา
แล้ว คล็อปป์ ก็ได้ใช้งาน ฟาบินโญ่ ในตำแหน่งปราการหลังสมใจหลัง โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป จ่างนัดกันไม่ฟิตสมบูรณ์สำหรับเกมนี้
ฟาบินโญ่ ทำหน้าที่ได้น่าประทับใจเลยในช่วง 45 นาทีแรก แม้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เชลซี เน้นเกมรับแต่เขาก็จัดการรับมือ แวร์เนอร์ ได้ดีผิดคาด
- ความแตกต่างของนายประตู
ติอาโก้ เกือบเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ตั้งแต่นัดประเดิมสนามเสียแล้วหลังทำเสียจุดโทษในจังหวะตัดฟาวล์ใส่ แวร์เนอร์ ที่เรียกจุดโทษได้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน
จอร์จินโญ่ กัปตันทีมเชลซี รับหน้าที่สังหารไปทางมุมล่างขวาของตัวเองแต่ อลีสซง พุ่งเซฟได้ก่อน ฟาน ไดค์ ตามมาเตะทิ้ง
อลีสซง ช่วยเซฟให้ ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีทเป็นนัดแรกได้สำเร็จและช่วยกูหน้าให้ ติอาโก้ ด้วย
แต่มองไปอีกฟาก เชลซี คงได้แต่รู้สึกเหนื่อยใจ เหมือนให้โอกาสเท่าไรก็ไม่ดีขึ้นเลยจริงๆ
เกปา อาร์รีซาบาลาก้า มือกาวชาวสเปน ยังก่อความผิดพลาดให้เห็นเป็นระยะๆ แม้ว่ามีจังหวะเซฟหลายครั้งในเกมนี้ แต่การจ่ายบอลพลาดไปเข้าทางปืน มาเน่ ได้ยิงจ่อๆ เป็นประตูย้ำชัย 2-0 ถือว่าเข้าตากรรมการจริงๆ
ไม่แปลกใจเลยถ้า เกปา จะหลุดเป็นนายด่านเบอร์ 2 ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังปิดตลาดนักเตะหน้าร้อนนี้เพราะ "สิงโตน้ำเงินคราม" ใกล้ปิดดีลคว้าตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูของ แรนส์ ในเร็วๆ นี้แล้ว
- พระเอกในแดนหน้า
3 แดนหน้าของ ลิเวอร์พูล ในวันที่เข้าฝักพร้อมหน้า คงไม่มีใครที่ไหนจะหยุดพวกเขาได้ แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่มีให้เห็นบ่อยๆ หรอก
ในนัดเปิดสนามที่เชือด ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สวมบทพระเอกด้วยการกระทุ้งแฮททริค
ในเกมล่าสุด ซาลาห์ เงียบหายไป โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก็ยังเงียบๆ แต่ ซาดิโอ มาเน่ เป็นอัศวินขี่ม้าขาวหลังเหมาทำ 2 ประตูควัก 3 แต้มกลับ แอนฟิลด์ ได้สำเร็จ
แต่ประตูแรกก็ต้องยกย่องการประสานของ 3 เทพ ฟีร์มิโน่ ทำชิ่งกับ ซาลาห์ จนหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาไปเปิดให้ มาเน่ สะบัดศีรษะโหม่งจมก้นตาข่าย
ส่วนประตูที่ 2 ต้องยกเครดิตให้ความขยันของ มาเน่ เพราะเจ้าตัวจ่ายบอลขึ้นหน้าเสียเองแต่ยังวิ่งตามไปหวังแย่งบอลคืนก่อนบล็อกบอลจ่ายของ เกปา แล้วได้สับไกโล่งๆ
นี่เป็นอีกจุดแข็งของ 3 เทพกองหน้า "หงส์แดง" เพราะมันแทบจะเป็นทุกนัดที่จะมีใครคนใดคนหนึ่งโดดเด่นกว่าเสมอในวันที่อีก 2 คนนัดกันเล่นไม่ออก
งั้นอย่างนี้ก็แปลว่าเกมต่อไปจะเป็นโอกาสฉายแสงของ ฟีร์มิโน่ ใช่ไหม?
ชมไฮไลต์จัดเต็มที่ : https://www.cheerball.com/clips/main/view/16663
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา