21 ก.ย. 2020 เวลา 00:11 • การเมือง
เห็นด้วยหรือไม่กับคำว่า "หางานทำดีกว่ามาม็อบ" ?
คือตามที่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานเขาออกมาพูดปรามๆม็อบนักเรียน นักศึกษาเมื่อวันก่อน ว่า อยากให้คนที่มาม็อบนี้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปหางานทำ ไปช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน หารายได้กันดีกว่า
อันนี้ผมมีมุมที่ต่างกันจะขอแย้งสักเล็กน้อย คือ ถ้าติดตามการเคลื่อนไหวของม็อบ และผู้มาชุมนุมในหลายๆกลุ่มเนี่ย ทั้งเยาวชนปลดแอก ธรรมศาสตร์และการชุมนุม หรือแม้แต่ขบวนต่างจังหวัดนั้น
จะเห็นว่านอกจากประเด็นเรื่องการเมือง และเรื่องสถาบันที่พวกเขาพูดบนเวทีแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่พวกเขาพยายามพูดอยู่ตลอดก็คือ ประเด็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ เศรษฐกิจฝืดเคือง
จนพวกเขาซึ่งเป็นวัยเรียน วัยศึกษา และวัยทำงานในตอนต้น ไม่สามารถหางานทำได้ หรือไม่ก็หางานทำได้ลำบากมากขึ้น หลายคนก็ตกงาน ทั้งๆที่เพิ่งเป็น first jobber ได้ไม่ถึง 2 ปี
ดังนั้น ผมคิดว่าเวลาเรามองไปที่ม็อบ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นเราคงจะมองในลักษณะที่ว่า "ม็อบควรเอาเวลาไปหางานทำดีกว่า" ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะถ้าฟังจากมุมของม็อบแล้ว
สมการของสถานการณ์ของพวกเขามันเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง กล่าวคือ เขาไม่ได้ตกงานหรือเสียโอกาสในการหางานทำ เพราะมัวแต่มาม็อบ มาชุมนุม แต่เพราะพวกเขาหางานทำไม่ได้ และตกงานต่างหาก
ที่เป็นเหตุจูงใจในการผลักให้พวกเขาออกมาชุมนุม อันนี้เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญมาก สำหรับภาครัฐ เวลาเราจะดูสถานการณ์ลักษณะนี้ การตั้งต้นเรื่องสมมติฐาน และมูลของเหตุการณ์หากวางผิดจุดนิดเดียว ก็จะเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ได้ง่ายๆ
ผมจึงไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรนัก กับคำกล่าวที่ว่าให้เอาเวลาไปหางานดีกว่า อะไรทำนองนี้ เพราะจากที่พวกเขาพูดบนเวทีหลายๆวาระ พวกเขาก็หาแล้ว แต่ปัญหาคือมันหาไม่ได้น่ะครับ
ที่เขาออกมาเรียกร้องตามเวทีแห่งต่างๆ จุดประสงค์หนึ่งก็คือต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาให้นั้นแหละ ตามหลักง่ายๆเลย ประชาชนเดือดร้อน เขาก็ออกมาชุมนุม ก็ถูกแล้วนี่ครับ
ชาวนาเดือดร้อน ข้าวถูกน้ำท่วม ข้าวขายไม่ได้ราคา เขาก็มาชุมนุม มาขอร้องให้รัฐบาลช่วย ให้เยียวยา คนที่ตกงาน วัยรุ่นที่หางานทำไม่ได้ เขาก็มาชุมนุมเรียกร้อง ก่อม็อบเพื่อขอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาให้
มันก็เรื่องปกติตามครรลองของสังคมประชาธิปไตยนะครับ เขาเดือดร้อน มีอะไรที่รับฟังพวกเขาได้ก็รับๆฟังไปก่อน ดีที่สุด ข้อเรียกร้องหลายๆประการ มันทำไม่ได้จริง หรือแก้ไขได้หมด 100% หรอก
พวกเขาก็แค่ขอ แค่เรียกร้อง อำนาจตัดสินใจจริงๆก็อยู่ที่รัฐบาลอยู่ดี ว่าจะเอาอย่างไร หรือจะตัดสินใจอย่างไร ให้ตามที่ขอหรือไม่ให้ พวกเด็กๆเขาก็ทำได้มากสุดแค่เรียกร้อง ดังนั้น ถ้ามีอะไรที่พอฟังได้ หรือ รอรับข้อเสนอของพวกเขาก็ทำๆไปก่อน ถือว่าช่วยกันลดแรงกระแทก และพยายามเปิดท่าทีที่เป็นบวกเข้าหากลุ่มเด็ก นักศึกษา และเยาวชนครับ
โฆษณา