21 ก.ย. 2020 เวลา 10:51 • ความคิดเห็น
เรื่องเสียมารยาทกับการปฏิเสธคนสมัครงาน
ในช่วงปลายปีที่หลายครัวเรือนพยายามเอาชีวิตรอดจากพิษเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มแต่จะแย่ลง สงครามที่ต้องแข่งขันระหว่างการทนทำกับการไม่มีงานทำต่างมาถึงจุดที่ต้องตัดสินชะตาว่าจะเดินไปบนเส้นทางใด กระทั่งผู้มีงานทำยังเสี่ยงจะตกเป็นคนว่างงานแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ในสถานการณ์เช่นนี้การที่บริษัทประกาศหางานต้องการคนแต่พอไปสมัครกลับเลือกปฏิเสธไม่รับถือเป็นเรื่องเสียมารยาทอย่างร้ายแรงในทางสังคม
ถ้าเอ่ยถึงคุณสมบัติของการเปิดรับสมัครตามบริษัทหรือหน่วยงาน การที่ข้อกำหนดยังจำกัดด้านอายุหรือประสบการณ์การทำงานไม่ต่ำกว่าเท่านี้ปี จัดเป็นความน่าสมเพชที่คนตกงานหลายล้าน ๆ คนไม่สมควรเลือกบริษัทนั้นเป็นที่สมัครงาน
เหตุเพราะไม่มีผู้ประกอบการคนไหนจะไม่ทราบเรื่องจำนวนคนว่างงานที่มีอยู่ แน่นอนการเจาะจงคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นเอกสิทธิ์ที่เจ้าของสามารถทำได้แต่ในนัยยะมันก็สื่อถึงผู้บริหารมองลูกจ้างเป็นคนยังไงในสายตา
ซึ่งการที่ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดโดยความหมายแล้วก็ไม่ได้ต่างจากการโดนปฏิเสธเวลามาสมัครงานเลย
ในทางมารยาทเวลาตอบปฏิเสธใครเราต้องมีเหตุผลมารองรับเสมอ แต่น่าฉงนมากที่หลายบริษัทกลับไม่มีมารยาทในการรักษาภาพพจน์ เชื่อว่าหลายล้าน ๆ คนต่างมีประสบการณ์ที่โดนปฏิเสธแบบเงียบ ๆ ไม่แจ้งเหตุผลซักอย่าง
แล้วอย่างนี้ในฐานะของคนไร้งานทำควรรวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทที่ปฏิเสธการรับสมัครงานในข้อหาหมิ่นประมาทเสียมารยาทดีหรือไม่ เพราะความตั้งใจอยากมีงานทำไม่สมควรโดนดูถูกปฏิเสธแบบไม่มีมารยาทเช่นนี้
โฆษณา