21 ก.ย. 2020 เวลา 23:09 • ธุรกิจ
"เดินสะดุด...โดยไม่รู้ตัว"
`❀ ✿ .✿◕‿◕✿.
"เป็นธรรมดาที่ชีวิตคนเรานั้น..อาจมีบางครั้งเดินสะดุดได้แต่อย่าเสียหลักที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า..หนทางยังอีกไกลอย่าหมดกำลังใจ"
มีน้องคนหนึ่งมาระบายสารทุกข์สุขดิบให้ฟังด้วยหวังว่าจะมีที่พึ่งบรรเทาทางใจบ้าง ก็ตั้งใจรับฟังเขาด้วยดี อย่างน้อยเราก็ช่วยได้ตรงที่เป็นที่ระบายซึ่งไม่มีพิษมีภัยและมีผลร้ายใดๆ
.เขารู้สึกผิดหวังตนเองเหลือเกิน พยายามตั้งใจทำงานแล้ว แต่ดูจะไม่ค่อยจะก้าวหน้าเท่าที่ควรจะเป็น
ทำไมเขาจึงทำอะไรไม่ค่อยจะเข้าตากรรมการ เหมือนนักมวยที่ได้ขึ้นเวที แล้วพยายามชกแล้วชกอีก กรรมการไม่เห็น ไม่ค่อยให้คะแนน..สักหมัด
จึงยังไม่ผ่านการประเมินสักที..
เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีหนอเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม กรรมการถ้าจะลำเอียง...คิดอยากจะเปลี่ยนเวที
ความจริงแล้วผมก็ไม่สามารถจะวินิจฉัยได้ เพราะผมไม่ได้ดูตอนเขา..ขึ้นเวทีว่า..มีลีลาการชกแบบใด มีอัตราการชกลม ชกวืดพลาดเป้ามากแค่ไหนนะ
บางทีคนเราชอบเปิดหน้า ให้มีช่องโหว่มากเกินไป และอาจเต้นหลบหลีกมากไปไหม หรือเอาแต่แย็บ แล้วโฉบไปโฉบมารักษารูปมวย สนใจแต่ท่าทีสวยงาม..แต่ไร้ความชัดเจน
บางคนก็ไม่ค่อยชกสักทีมัวแต่เกร็งจะใช้หมัดเด็ด คิดว่าหมัดเดียวจบ จนหมดเวลา
การทำงานก็อาจจะคล้ายๆกันอยู่บ้าง บางทีเรามักจะชอบชกตามใจชอบ เหมือนใช้ความเคยชินความถนัดชี้นำชีวิตอย่างไม่รู้ตัว
อาการเคยชินของคนเราที่มักพบบ่อยๆ และเป็นอุปสรรคบั่นทอนตนเอง มีอย่างน้อย4เรื่องหลัก ที่ทำให้คนเราพลาดโอกาสที่มาถึงตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว คือ
1."มักติดนิสัยเป็นคนชอบบ่น...จูจี้จุกจิกลงรายละเอียดไปหมดทุกเรื่อง"
คนเราจึงปิดตนเองและพลอยจะเสีย"โอกาสในการแสดงออกอย่างเต็มศักยภาพที่มีในตน" เพราะการบ่นพึมพำอยู่เรื่อย มักสะท้อนออกมาถึงการปัด เกี่ยง เลี่ยงความรับผิดชอบ
ยิ่งทำบ่อยๆ เข้า ก็จะทำให้ตัวเรา "ขาดความน่าเชื่อถือและลดความสำคัญของตนเองลง"
ทั้งในสายตาของหัวหน้าและคนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่รู้สึกตัว เรื่องต่างๆจึงดูวุ่นวายและล่าช้าไม่ทันใจ
2."คนเรามักชอบเปรียบเทียบคนอื่นกับตนเองเสมออย่างไม่รู้ตัว"
.สิ่งที่ตามมาก็คือเราจะเสียความมั่นใจและ "อิสระภาพในการเป็นตัวของตัวเอง" ให้ต้องลดระดับต่ำลงอย่างไม่รู้ต้ว
ยิ่งปล่อยไปจนเป็นบ่อยๆเข้า ชีวิตจะเต็มไปด้วยความแสแสร้ง เพราะจะพยายามทำตนเองให้เท่าเทียม เหมือนคนอื่นๆที่คิดว่าดีกว่าตนเอง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ตนเองเป็น
สุดท้ายก็จะหลงงงกับตนเองเพราะ "ชีวิตจะขาดจุดยืน"ไม่รู้จุดหมายของตนเอง สนใจแต่เรื่องคนอื่นมากกว่าหันมายอมรับตนเอง
3."คนเรามักจะชอบแข่งขัน...คิดเอาชนะเหนือผู้อื่นอยู่เสมอ"
วันๆจึงมักใช้ชีวิตจดจ่อที่จะคิดค้นหาวิธีการเอาชนะคนอื่นให้ได้ เมื่อจิตยิ่งหมกมุ่นในการเอาชนะ คนเราจะเสีย "ความสุขที่แท้ และความสงบในใจ"
หากปล่อยไปให้เกิดขึ้นบ่อยๆ เข้า ชีวิต "จะเริ่มเคร่งเครียด หวาดระแวงเป็นกังวล"อยู่ตลอดเวลา ทำให้จิตตก ประสิทธิภาพระยะยาวลดต่ำลง
เสมือนชีวิตขาดการผ่อนคลาย ถูกใช้พลังจนเกินความจำเป็นไปในทุกสิ่ง ย่อมอ่อนล้าลง
4."คนเรามักอดไม่ได้กับการชอบโต้เถียง...คิดแต่เพียงตนเองต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ"
ความเคยชินชนิดนี้ จะทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เหมือนมีขีปนาวุธคอยยิ่งสะกัดกั้น การรุกล้ำข้ามเขต และจะทำการยิงตอบโต้อย่างทันควัน
สิ่งที่คนเราจะสูญเสียไปก็คือ"ความมีชีวิตชีวาในตนเอง" ยิ่งมีปฏิกิริยาแบบนี้บ่อย ๆ เข้าชีวิต "จะขาดพลังดึงดูดความร่วมมือ และหมดเสน่ห์ไปในที่สุด"
เพราะคนเขาจะเริ่มเบื่อจากระดับน้อยๆจนเบื่อมากและเหลือทน จึงพากันเบือนหน้าหนีดีกว่า
ในที่สุดก็ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้กับคนที่ไม่ฟังคนรอบข้าง เอาแต่ใจตนเอง เห็นผู้อื่นน่าอึดอัดใจไปทุกเรื่อง
ผลลัพธ์ของความเคยชินที่พลั้งเผลอแบบไม่รู้ตัวทั้งสี่ประการเหล่านี้เอง มักจะส่งผลทำให้การชก..ในแต่ละวัน ของคนเราจึงไม่ค่อยเข้าตากรรมการ
พึงระลึกอยู่เสมอว่า
"ไม่มีความสำเร็จใดๆที่มาจากคนช่างบ่นช่างติทุกสิ่งจนเสียเวลาทำให้งานบรรลุ
ยิ่งมัวแต่วางฟอร์มวางมาดให้ดูดี ไปวันๆ และคิดแต่จะเอาชนะเหนือคนอื่น โดยไม่ฟังใคร คิดแบ่งแยก เถียงทุกเรื่องค้านทุกเวลา"
1
ยังไงก็ไม่มีใครอยากให้คะแนน...
1
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่คนเราควรหันมาลองคิดและยอมรับ ด้วยความระมัดระวังตนเอง ตามความเป็นจริงให้มากขึ้น โดยต้องหมั่นแก้ทางมวยของเราใหม่
"การ์ดอย่าตก..และอย่าชกแต่ลม"..อย่างน้อย.."หัด..หยุด..ลอง..หมั่น" เพื่อลองปรับรูปแบบ...ท่าทีและลีลาของตนเองใหม่ ดังนี้
@หัดฝึกเงียบสงบปากสงบคำลงบ้าง..พูดแต่พอดีและลงมือทำงานให้มากขึ้น
"การพูดมากไปนั้นย่อมไม่ส่งผลดีไปกว่าการลงมือทำ"
@หยุดและหันมามองตนเองเพื่อพัฒนาปรับเปลี่ยนให้ดียิ่งขึ้นเป็นหลัก
"หากคิดจะให้ทุกสิ่งดีกว่า..ย่อมต้องเริ่มที่ตัวเราเองเสมอ"
1
@ลองตั้งใจทำทุกสิ่งอย่างเต็มร้อย ไปให้สุดและไม่ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ว่าจะเป็นเช่นไร เพราะเราก็ทำเต็มที่แล้ว..ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง
"ชัยชนะที่เหนือสิ่งใด คือการเอาชนะใจตนเอง..ให้ใจตนเองยอมรับมากกว่าให้คนอื่นมายอมรับ"
@หมั่นเปิดใจปรับมุมมอง เปลี่ยนองศาชีวิตใหม่ ด้วยการรู้จักคำว่า"เคารพให้เกียรติความต่าง"ด้วยการรับฟังและอยู่ร่วมกันได้กับผู้อื่น
"การรู้จักฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ..คือกุญแจสู่ความสุขความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่"
สุดท้ายแล้ว เมื่อคนเราตั้งความเพียรทดสอบ ปรับรูปทรงสี่สิ่งนี้ใหม่ให้กับตนเอง..แม้ว่ายังอาจจะไม่เข้าตากรรมการในทันที แต่อย่างน้อยก็จะช่วยให้การขึ้นเวทีทุกครั้งมีความสุขมากยิ่งขึ้น ในทุกย่างก้าว.."LL&L22/9/63
โฆษณา