22 ก.ย. 2020 เวลา 00:00 • สุขภาพ
อินเดียต้องยอมเปิดทัชมาฮาล เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูประชาชน แม้จะมีผู้ติดเชื้อวันละแสน และตายวันละพันก็ตาม
หลังจากที่รัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับคนยากจนของอินเดียจำนวนนับสิบล้านคน
นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ก็ลังเลว่าอินเดียควรจะต้องดำเนินการเข้มงวดในการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 เหมือน
ประเทศอื่นๆหรือไม่
เพราะความที่เป็นประเทศมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกคือกว่า 1,300 ล้านคน และมีฐานะยากจนข้นแค้น อยู่กันอย่างแออัดยัดเยียด ทำให้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนอินเดียมากกว่าประเทศอื่นๆ
ในที่สุดรัฐบาลอินเดีย ก็ตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการต่างๆลงเป็นระยะ เช่น อนุญาตให้มีการเดินทางโดยรถไฟ อนุญาตให้สายการบินในประเทศบินได้ เปิดตลาดและร้านอาหารเท่าที่สามารถทำได้
1
ส่งผลให้อินเดียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดมากเป็นอันดับสองของโลกกว่า 5 ล้านคน รองจากสหรัฐอเมริกาซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 7 ล้านคน และคาดว่าจะแซงขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาอีกไม่นานนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้( 21 กันยายน 2563) เป็นวันแรกที่รัฐบาลอินเดียประกาศเปิด “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นมรดกโลก(UNESCO World Heritage Site)ให้กับผู้คนได้เข้าไปท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการดำเนินชีวิตตามปกติ หรือเปิดมิติทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ผ่อนคลายมากขึ้น
ทัชมาฮาล(Taj Mahal) จัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นอนุสรณ์แห่งความรัก เป็นสุสานแห่งความรัก(Mausoleum) สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามในศตวรรษที่ 17 โดยจักรพรรดิชาห์ ชะฮัน (Shah Jahan) แห่งราชวงศ์โมกุล
(Mughal) ที่เมืองอัครา(Agra)โดยทัชมาฮาล
นั้นตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำยมุนาอันเลื่องชื่อ และอยู่ห่างจากเมืองหลวงนิวเดลี(New Delhi) ไปทางใต้เพียง 200 กิโลเมตร
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก(Would-famous) ทั้งของคนอินเดียและของคนทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่าปีละ 7 ล้านคน ทำรายได้ให้มากกว่าปีละ 860 ล้านรูปี
การเปิดทัชมาฮาลครั้งนี้ เป็นการเปิดแบบมีเงื่อนไข จากเดิมที่มีนักท่องเที่ยววันละ 20,000 คน ก็กำหนดไว้เพียงหนึ่งในสี่คือ
วันละไม่เกิน 5000 คน
และคนที่จะมาท่องเที่ยวได้ จะต้องจองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์เท่านั้น ไม่สามารถที่จะมาซื้อตั๋วที่หน้าสถานที่ท่องเที่ยวได้ เพราะจะทำให้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่สำเร็จ
ทุกคนที่จะเข้ามาเที่ยวในทัชมาฮาล จะต้องถูกตรวจอย่างเข้มงวด ทั้งการวัดอุณหภูมิว่ามีไข้หรือไม่ บังคับให้ทุกคนต้องใส่หน้ากาก กำหนดระยะห่างทางสังคม
เหตุที่รัฐบาลอินเดียต้องผ่อนคลาย เพราะจากการสำรวจในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มาตรการต่างๆที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้อย่างเข้มงวดนั้น ประชาชนส่วนใหญ่มิได้ปฏิบัติตาม และถูกละเลยเป็นจำนวนมาก
เชื่อกันว่าเกิดจากความเบื่อหน่าย หรือความอ่อนล้าจากการปฎิบัติตามมาตรการเหล่านั้น ประกอบกับกระทบกับผลการดำเนินชีวิตและฐานะทางเศรษฐกิจเป็นอันมาก
ถึงแม้อินเดียจะมีการตรวจทดสอบหาเชื้อไวรัสถึงวันละ 1 ล้านตัวอย่าง และพบผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 100,000 คน ก็ยังมีการประมาณการ ว่าน่าจะมีการติดเชื้อมากกว่านั้นอีก
อินเดียใช้การตรวจแบบเร็วและคุณภาพน้อยคือทดสอบพา Antigen ควบคู่ไปกับการตรวจซึ่งให้คุณภาพสูง ซึ่งเป็นการตรวจแบบ RtPCR
ทัชมาฮาลถูกปิดนานกว่าหกเดือนจากโควิด-19 ระบาด ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลาย สิบปี หลังจากที่มีการปิดทัชมาฮาลครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1965 ถึง 1971 ในช่วงเกิดสงครามระหว่างอินเดียและปากีสถาน
การเปิดทัชมาฮาลใหม่ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของโลก ที่แสดงให้เห็นว่า เราจะต้องหาความสมดุล พอเหมาะพอดี ระหว่างมิติทางด้านสาธารณสุขคือ ควบคุมให้มีผู้ติดเชื้อที่น้อย เสียชีวิตน้อย แต่ขณะเดียวกันจะต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนยากคนจนสามารถมีรายได้พอที่จะเลี้ยงชีพ และมีความเป็นอยู่ที่พอจะผ่านพ้นความยากลำบากไปให้ได้
จะหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนครับ
Reference
โฆษณา