22 ก.ย. 2020 เวลา 13:54 • ปรัชญา
เปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนใจเย็นลงด้วย 5 วิ ธีฝึกความอดทนให้ตัวเอง...
Water Streams ®️
สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ทุกอย่างดูรีบเร่งอยู่ตลอดเวลา จนอาจทำให้เรามีความอดทนน้อยลงกว่าแต่ก่อน และเพราะความอดทนที่น้อยลงนี่ละ ที่ทำให้เราหงุดหงิดและเกิดความเครียดง่ายขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นสะสมกันเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้สุขภาพจิตแย่ลง กลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวน บางรายอาจหนักถึงขนาดกลายเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะเรามีความอดทนน้อยลงนั่นเอง...
แต่อย่างไรก็ตามหากคุณนั้นยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและชีวิตสงบคุณนั้นจะต้องหัดทำ 5 วิธีฝึกให้ตัวเองเป็นคนใจเย็นโคตรมีเสน่ห์ และน่าเคารพไปดูกันว่าคนอย่างคุณนั้น...
จะสามรถฝึกให้ตัวเองเป็นคนใจเย็นและมีสติทุกครั้งเมื่อต้องปะทะกับคนอื่นๆ หรือไม่บางทีการใจเย็นและการมีสติจะทำให้เราดูมีวุฒิภาวะเพิ่มมากขึ้นในการใช้ชีวิต เมื่อเราโตขึ้นเราต้องตัดนิสัยเด็กๆ,
ทิ้งไป เช่น นิสัยชอบโวยวาย ใจร้อน ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลเพราะว่าการกระทำเหล่านั้น มักจะส่ งผลเสียต่อเรามากกว่าผลดี ทำให้บางครั้งเราอาจจะเดือ ดร้อนเพราะนิสัยเหล่านี้ได้ เชื่อเถอะนะว่าคนที่ใจเย็นและมีสติ,
มักจะดูมีเสน่ห์ในสายตาของคนอื่น มากกว่าคนที่มีนิสัยใจร้อน และขาดสติยับยั้งชั่งใจอีกทั้งยังจะช่วยให้เรามีบุคลิกที่ดี ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งมันเป็นเสน่ห์ที่เราสามารถสร้างมันได้,..
เพราะฉะนั้นเวลาจะเกิดอะไรก็ต าม เราควรที่จะใจเย็นและใช้สติในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะดีกว่านะเพร าะมันดูเป็นคน มีวุฒิภาวะมากกว่าคนที่ใจร้อนชอบโวยวายและใช้อารมณ์ตัดสิน มากๆ เลยล่ะ,,,
1. ฝึกตัวเองให้รู้จักการรอคอย
ความพึงพอใจที่เกิดขึ้น เมื่อได้รับในสิ่งที่ต้องการทันทีทันใดแม้จะทำให้เรารู้สึกดี แต่นักวิจัยทางจิตวิทย ากลับมองว่ามันให้ความหมายที่ตรงข้ามกัน โดยในการศึกษาหนึ่งพบว่าการรอคอยบางสิ่งจะทำให้เรารู้สึก มีความสุขในระยะยาวมากกว่า
ึซึ่งการทำให้เรามีนิสัยการรอคอยที่ดีที่สุดก็คือ การฝึกตัวเองให้รู้จักการรอนั่นเองโดยอาจจะเริ่มจากการรอในระยะเวลาสั้น ๆ สัก 10 นาทีหรือ การรอคอยรายการโทรทัศน์ ที่ชอบที่ฉายในช่วงวันหยุดเมื่อเราสามารถรอจนเป็นนิสัยได้แล้ว ก็จะทำให้เรามีความอดทน มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังทำให้คุณมีความสุขและไม่หงุดหงิดเมื่อต้องพบกับ สถานการณ์ที่ต้องรอนาน ๆ อีกด้วย
2. เอ่ยขอบคุณให้มากขึ้น
การขอบคุณมีประโยชน์มากมาย การวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการขอบคุณทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้นเครียดน้อยลง และช่วยทำให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้นและการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ ในวารสารด้านจิตวิทยา
Psychological Science ในปี 2014 ยังพบอีกว่าการขอบคุณสามารถช่วยให้เรามีความอดทน มากขึ้น ขณะที่ Ye Li นักวิจัยและผู้ช่วยศาสตราจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียริเวอร์ไซด์
ได้เปิดเผยว่า การที่เราแสดงออกว่าเรารู้สึกอย่างไรจะช่วยให้เราควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นแถมยังช่วยลดการข าดความอดทนลงได้ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากค่ะ ในการฝึกขอบคุณก็แค่เพียงเราเอ่ยคำว่าขอบคุณ
กับคนที่ทำบางสิ่งให้คุณด้วยรอยยิ้มหรือนึกขอบคุณตัวเองเมื่อสามารถทำบางสิ่งได้เมื่อเราขอบคุณจนเป็นนิสัย ก็จะทำให้เรามองโลกในแง่ดีและมีความอดทน มากขึ้นได้อย่างแน่นอน
3. ฝึกยอมรับความยากลำบากให้ได้
บางครั้งความสะดวกสบายก็ไม่ได้ดีเสมอไปเพราะความสะดวกสบายเหล่านั้นจะทำให้เรารู้สึกมีความอดทนน้อยลงและเมื่อเราต้องเจอ กับความยากลำบาก เราจึงไม่สามารถอดทนกับมันได้
ดังนั้น เราจึงควรที่จะฝึกให้ตนเองทนกับความยากลำบากและความไม่สะดวกสบายให้ได้ และเมื่อเราสามารถอดทนกับสิ่งเหล่านั้นได้ เราก็จะมีความอดทน มากขึ้นและสามารถมีความสุข แม้ว่าต้องพบเจอ กับสิ่งที่ดูยากลำบากก็ตาม
4. หายใจลึกๆ
เมื่อเรารู้สึกว่าหลายๆ สิ่งมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ การถอนหายใจแล้วหายใจเข้าลึกๆก็สามารถช่วยให้เราสงบจิตใจและร่างกายตัวเองได้ซึ่งวิธีการผ่อนคลายง่ายๆ นี้ จะช่วยลดความกระวนกระวายใจ
ที่ซึ่งจะนำพาความรู้สึกในแง่ลบต่างๆ อย่างเช่นอารมณ์หงุดหงิด เสียใจผิดหวังหรือโกรธเคืองลงได้ ความอ ดทนเป็นสิ่งที่เราต้องฝึกฝนด้วยตนเอง เช่นเดียวกับการมองโลกในแง่ดีเพราะไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ที่เราจะทำ ถ้าหากเรามีความอดทน มากขึ้นเราก็จะมีความสุขมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งของภายนอกเลย
5 . มีสติให้มากขึ้น
เชื่อว่าหลายคนก็คงต้องเคยวอกแวก ทำในสิ่งที่เราไม่รีบร้อนแทนที่จะทำในสิ่งที่เร่งด่วน มากกว่าโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัวนั่นก็เป็นเพราะเราไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญกับสิ่งต่างๆ ได้
หลายครั้งที่ความคิดของเรา มักโดดไปมาระหว่างเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนทำให้เราไม่สามารถควบคุมความคิดตนเองได้ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เรารู้สึกยุ่งยากและวุ่นวายอยู่ตลอดเวลาจนทำให้เรากลายเป็นคนเร่งรีบ
และมีความอดทนน้อยลง การมีสติและการตระหนักถึงความคิดของเราอยู่เสมอจะช่วยทำให้เราสามารถจัดระเบียบความคิดของเราได้ดียิ่งขึ้น ลองเขียนความคิดต่าง ๆ ของคุณลงในกระดาษดูค่ะ จะช่วยให้คุณจัดการความคิดของตัวเองได้และทำให้เรารู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้เรารู้สึกรีบเร่งหรือทำให้เราไม่มีความอดทน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมความคิดไม่ให้วอกแวกได้ง่ายๆ
เมื่อไรก็ตามที่เรามีสติ ระบบความคิดของเราก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากว่าเราจะสามารถมองความคิดของตัวเองอย่างเป็นกลาง ปฏิกิริยาความคิดต่างๆ จึงไม่อาจควบคุมเราได้อีกต่อไป แต่เราจะมีทักษะในการตอบสนองโดยคำนึงถึงหลักการและความเชื่อที่เรายึดถือแทนที่จะใช้อารมณ์และความคิดแวบแรก
แม้ว่าการฝึกสติอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่สามารถพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จ แต่มันก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตด้านอื่นๆ ได้ด้วย แต่เดิม การฝึกฝนสติมีขึ้นเพื่อช่วยให้เรามีความสุขและเป็นคนที่ช่างเห็นอ กเห็นใจ ซึ่งวิทยาศาสตร์ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง เมื่อไรก็ตามที่เราฝึกฝนอย่างถูกต้อง เราก็จะมีความสุขขึ้น ซึ่งจะทำให้เราแสดงออกต่อผู้อื่นในทางที่ดีขึ้นด้วยที่มา  yimlamun  sumrej
ขอบคุณเครดิตข้อความ DEESUDJAI
Thank you very much
The Living Room Of Thought by Water Streams
โฆษณา