ด่วน !!! นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศมาตรการเข้มเพื่อควบคุมโควิด-19
แทนการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ
เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ(Boris Johnson) ออกมาแถลงต่อรัฐสภา และทางโทรทัศน์ถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ยากลำบาก ในการจะควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ
หลังจากเมื่อวันก่อน หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ และหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ ได้เสนอข้อมูลที่น่าเป็นห่วงของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศอังกฤษ และเสนอให้ทำการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ(Full Lockdown)เป็นเวลาสองสัปดาห์ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่รุนแรง เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม(Circuit Breaker)
ภายหลังจากการถกเถียงและแลกเปลี่ยนกันอย่างเข้มข้น ระหว่างคณะรัฐมนตรีกับทีมนักวิทยาศาสตร์ ในที่สุดนายกรัฐมนตรีอังกฤษก็ตัดสินใจประกาศมาตรการเข้ม แทนการประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศ
มาตรการที่เข้มดังกล่าวประกอบด้วย
1)ผับ บาร์และร้านอาหารจะต้องปิดให้บริการ ตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงตีห้าวันรุ่งขึ้น
2)พนักงานที่ทำงานในร้านค้าปลีกและการบริการต่างๆจะต้องใส่หน้ากากทุกคน และลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคนจะต้องใส่หน้ากากด้วย
3)คนขับแท็กซี่และผู้โดยสารทุกคนจะต้องใส่หน้ากาก
4)ขอให้ทุกคนที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ งดเว้นการเดินทางมาทำงานที่ทำงานของตน (Work from Home)
5)งานแต่งงานอนุญาตให้จัดได้ แต่ลดจำนวนผู้ร่วมงานจาก 30 คนเหลือไม่เกิน 15 คน ส่วนงานศพให้มีผู้ร่วมงานไม่เกิน 30 คน
6)เพิ่มมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืนให้รุนแรงขึ้น ในระดับธุรกิจถึงขั้นปิดกิจการและปรับไม่เกิน 10,000 ปอนด์ ส่วนระดับบุคคลทั่วไป โทษปรับเพิ่มเป็นสองเท่าไม่เกิน 200 ปอนด์
7)จัดงบประมาณกว่า 60 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลไม่ให้มีการละเมิดมาตรการต่างๆ ในกรณีที่จำเป็น ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากทางกองทัพได้ด้วย
นายกรัฐมนตรีอังกฤษบอกว่า การออกมาตรการเข้มครั้งนี้ไม่ได้รับประกันว่า จะไม่มีการประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศในอนาคต ถ้าผลจากมาตรการเข้มครั้งนี้ ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ รัฐบาลก็พร้อมที่จะประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศต่อไป
คาดว่ามาตรการเข้มนี้ อาจจะต้องใช้ไปเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งอาจจะถึงหกเดือน จนกระทั่งผ่านพ้นฤดูหนาวในปีนี้ นายกฯอังกฤษกล่าวต่อไปว่า เป็นความทุกข์ยากลำบากใจอย่างมากในการตัดสินใจออกมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างมาก
แต่ทั้งนี้ก็มีความจำเป็น เนื่องจากประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายใหม่มากกว่าสี่เท่าตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน และอัตราการติดเชื้อก็สูงขึ้นทุกวัน จึงไม่มีทางเลี่ยงที่จะต้องออกมาตรการเข้มดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยินดีที่จะให้รัฐสภาติดตาม ตรวจสอบ แล้วจะรายงานให้สาธารณะทราบเป็นระยะต่อไป
K.Starmer ผู้นำแรงงาน ออกมากล่าวสนับสนุนมาตรการดังกล่าวว่ามีความจำเป็น แต่ก็ยังวิจารณ์และเสนอแนะว่า รัฐควรเร่งความสามารถในการตรวจทดสอบหาผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ให้เร็วขึ้นและกว้างขวางขึ้นกว่าเดิม
ขณะนี้อังกฤษก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่หนึ่งแล้ว สถานการณ์การติดเชื้อก็ค่อยค่อยเพิ่มความรุนแรงขึ้น และกำลังเพิ่มมากขึ้นจนควบคุมไม่อยู่
ฤดูหนาวปีนี้อาจจะเป็นฝันร้ายของยุโรป !!!
Reference
- 17
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
