เบตตี้ แอนน์ เฮจจี้ (Betty-Ann Heggie) ประธานบริษัท PotashCorp เจ้าของหนังสือชื่อดัง Gender Physics: Unlock the Energy You Never Knew You Had to Get the Results You Want คือหนึ่งในคนที่มีเอกลักษณ์เป็นเสียงหัวเราะ และเคยรู้สึกกังวลกับเสียงหัวเราะที่ดังเกินไปของตัวเอง เธอเคยโดนบอสบ่นเรื่องเสียงหัวเราะจนคิดอยากลาออก
งานวิจัยหลากหลายงานแสดงให้เห็นว่าเสียงหัวเราะสร้างผลกระทบทางด้านบวกให้กับบรรยากาศในออฟฟิศ อลิสัน เบรด (Alison Bread) อาจารย์จาก Harvard Business School เจ้าของบทความ Leading with Humor ได้เขียนไว้ว่า “ไม่ว่าจะงานวิจัยจากองค์กรใดก็ตามทั้ง Wharton MIT และ London Business Review ต่างเขียนไว้ว่าทุกการหัวเราะไม่ว่าจะมากน้อยต่างส่งผลดีให้กับธุรกิจทั้งนั้น”
“เสียงหัวเราะช่วยบรรเทาความเครียดและความเบื่อหน่าย ทำให้เกิดการมีส่วนร่วม เกิดสุขภาพจิตที่ดี เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ผลิตผลในการทำงาน และการวิเคราะห์ที่แม่นยำ” นอกจากนี้เธอยังพบข้อมูลจาก งานวิจัย Risky Business: When Humor Increases and Decreases Status อีกว่าการเล่นมุกตลกทำให้ผู้คนดูมีความสามารถมากขึ้น
การเป็นฝ่ายฟังมุกตลก หรือเป็นฝ่ายเปล่งเสียงหัวเราะก็ยังมีประโยชน์ในการทำงานเช่นกัน “เมื่อไหร่ที่เราเริ่มหัวเราะ มันไม่ได้แค่ช่วยให้สภาพจิตใจคุณดีขึ้น มันยังสร้างความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอีกด้วย” งานวิจัย Stress relief from laughter? It's no joke Mayo Clinic รายงานว่าการหัวเราะช่วยให้เราสูดดมอากาศที่เต็มไปด้วยอ็อกซิเจนที่ดีเข้าไป ช่วยเพิ่มการหลังสารเอ็นโดรฟีน (Endorphins) ในสมอง นอกจากนี้มันช่วยเพิ่มการหมุนเวียนเลือด ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และยังช่วยลดอาการที่แสดงความเครียดทางร่างกายอีกด้วย
ซึ่งงานวิจัย The Benefits of Stress Management for Employees
แสดงให้เห็นว่าระดับความเครียดที่ลดลงมีผลดีต่อพนักงาน และช่วยลดอัตรการลางาน ดังนั้นถึงแม้อิสระที่จะหัวเราะดังๆ ได้อาจดูไม่เหมาะสม แต่มันสำคัญมากในการทำงาน งานวิจัย Are happy workers more productive? ยังแสดงให้เห็นอีกว่า หลังจากดูคลิปตลก พนักงานจะโปรดักทีฟในการทำงานมากขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดู
🔴 ผลเสียที่ห้ามมองข้าม
แน่นอนว่าการเล่นมุกตลกที่มากเกินหรือการหัวเราะมากเกินไปไปก็อาจให้ผลในทางตรงกันข้ามเช่นกัน งานวิจัย When Joking with Your Employees Leads to Bad Behavior แสดงให้เห็นว่าการที่หัวหน้าเล่นมุกตลกลามกมากเกินไปอาจส่งผลให้ลูกน้องมีพฤติกรรมที่ไม่ดี นอกจากนี้อาจารย์โรซาเบธ มอส แคนเตอร์ (Rosabeth Moss Kanter) จาก Harvard Business School กล่าวในงานวิจัย Op-Ed: In Tackling #MeToo, Don’t Ignore Micro-Insults That Harm Women’s Careers ในบางสถานการณ์ เช่น การที่ผู้หญิงกลุ่มน้อยอยู่ท่ามกลางผู้ชาย อาจรู้สึกแย่กับการหัวเราะให้กับมุกตลกที่มีความเหยียด หรือกระทบตนเอง และมองว่าการยอมรับสถานการณ์เหล่านั้นคือการไม่ให้เกียรติคนที่เป็นคนกลุ่มน้อย