25 ก.ย. 2020 เวลา 03:00 • กีฬา
" หนี้ 3 ปีของ อาร์เยน ร็อบเบน "
โทนี่ โครส จอมทัพเรอัล มาดริด ยอมรับว่าเขาเคยดื่มหนักจนต้องเรียกแอมบูแลนซ์มาดูแล หลังความผิดหวังที่พ่ายแพ้ให้กับเชลซี ในการดวลจุดโทษนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2012 สมัยที่ยังเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค
แย่ยิ่งไปกว่าคือ 3 วันให้หลัง บาเยิร์น จำเป็นต้องลงเตะกับทีมชาติฮอลแลนด์ต่อเนื่องเลย ในเกมพิเศษนัดหนึ่ง
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่คลาสสิกสุดที่เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสโมสรและทีมชาติ โดยมีต้นตอคือ อาร์เยน ร็อบเบน
มันเริ่มต้นขึ้นย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน คือในเดือนพฤษภาคม 2010 ก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ไม่กี่สัปดาห์
ในช่วงเตรียมทีมอุ่นเครื่องของทีมชาติฮอลแลนด์ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ พาทีมเจอกับฮังการี ปรากฏว่า อาร์เยน ร็อบเบน มีอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ตรวจพบรอยฉีกเล็กน้อย
ฟาน มาร์ไวค์ เลือกที่จะไม่เรียกคนเข้ามาแทน เชื่อมั่นว่า ร็อบเบน ไม่ได้เจ็บหนักอะไร กัดฟันเอาไปแอฟริกาใต้ด้วย โดยคาดว่าในช่วงใดช่วงหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ ปีกตัวเก่งรายนี้จะลงสนามช่วยทีมได้
เกมแรกเจอเดนมาร์ก เขาไม่ได้ลงเล่น แต่หลังจากนั้น ร็อบเบน ฟิตกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองได้ในเกมชนะแคเมอรูน เรียกว่าเป็นเพียง 3 สัปดาห์นับแต่อาการเจ็บ เขาก็กลับมาวิ่งปร๋อได้อีกครั้ง ให้สัมภาษณ์ว่าแฮมสตริงหายดีแล้ว
จากนั้นมาตลอดทัวร์นาเมนต์ ร็อบเบน ก็กลายมาเป็นกำลังหลักให้ฮอลแลนด์ รวมถึงลงเล่นเต็ม 120 นาทีในนัดชิงชนะเลิศซึ่งแพ้ให้กับสเปนไป 0-1
1
หลังจบฟุตบอลโลก นักเตะได้พักร้อน และในที่สุดก็กลับเข้าสู่โหมดสโมสรอีกครั้ง ตอนที่ ร็อบเบน กลับไปรายงานตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค ตอนนั้นเองที่เรื่องมันแดง
เมื่อปรากฏว่าในการตรวจร่างกายของนักเตะ ร็อบเบน ถูกพบว่าอาการฉีกที่กล้ามเนื้อแฮมสตริงครั้งนั้นนอกจากจะยังไม่หายดีแล้ว ยังพบรอยฉีกรอยที่สองอีกต่างหาก
1
คุณหมอเทวดา ฮันส์ วิลเฮล์ม มุลเลอร์ โวห์ลฟาร์ท ตำหนิทีมชาติฮอลแลนด์ ว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อตัวนักเตะเลย ไม่ยอมตรวจอาการให้ชัดเจน และตัวเขาก็เสนอความช่วยเหลือให้ไปช่วยดูแลให้ แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมา
การตรวจพบอาการเจ็บรอบสองของ ร็อบเบน ทำให้คุณหมอ มุลเลอร์ โวห์ลฟาร์ท ต้องสั่งพักดาวเตะรายนี้ถึง 8 สัปดาห์ พลาดการลงเล่นบุนเดสลีกาช่วงต้นซีซั่นรวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มด้วย
บาเยิร์น มิวนิค ทำเรื่องไปยังสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยทันที ที่พวกเขาไม่สามารถใช้งานร็อบเบนได้
กลายเป็นประเด็นที่ถูกยกมาพูดถึงกันอย่างมากในเวลานั้นว่าจะตัดสินใจกันอย่างไร เนื่องจากนักเตะอาชีพได้เงินรายได้จากสโมสร แต่ทีมชาติเอาไปใช้ฟรีๆ แล้วไม่ดูแล เจ็บกลับมาผลเสียก็ตกอยู่กับสโมสรต้นสังกัด
ความขัดแย้งนี้ถูกลากต่อไปหลายเดือน จนท้ายที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ก็ได้บทสรุปว่าทีมชาติฮอลแลนด์จะมาเตะนัดพิเศษกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2012
ตอนนั้น บาเยิร์น รู้แล้วว่าสนามของพวกเขาจะได้ใช้จัดนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ได้คาดการณ์ว่าทีมจะได้มาเล่นนัดชิง ชปล. ในบ้านตัวเองปีนั้น หรืออาจไม่คิดว่าต้องผิดหวังในลักษณะที่เจ็บปวดขนาดนี้ ...แพ้จุดโทษต่อเชลซี
ทีมชาติฮอลแลนด์ก็แฮปปี้ เพราะถือเป็นการเตรียมทีมที่ดีสำหรับ ยูโร 2012
ทว่าฝั่งที่ไม่แฮปปี้เลยก็คือ เดเอฟเบ และ โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน
โยกี้ รู้ดีว่า มันเป็นข้อเสียเปรียบของทีมชาติเยอรมัน เนื่องจากนักเตะหลายคนของ บาเยิร์น เป็นตัวหลักของทีมชาติ และแทนที่จบ ชปล. แล้วจะได้รีบกลับมาเข้าแคมป์กลับต้องลงเตะเกมไร้สาระอีก 1 นัด เสียเวลาไปเกือบสัปดาห์
สรุปเมื่อเกมมาถึง มันเป็นเกมที่ไม่มีใครอยากลงเล่น บาเยิร์น ก็เจ็บปวดมาจากความพ่ายแพ้ที่สนามแห่งนี้เมื่อ 3 วันก่อน ส่วน อาร์เยน ร็อบเบน เอง นอกจากจะอยู่ในเกมดังกล่าวด้วยแล้ว เขายังต้องไปเล่นในนามของทีมชาติฮอลแลนด์
ถ้ายังไม่ลืม ในเกมกับเชลซีนั้น บาเยิร์น ได้จุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษแต่ อาร์เยน ร็อบเบน นี่แหละที่ยิงพลาดโดน ปีเตอร์ เช็ก เซฟเอาไว้ได้
เกมนัดพิเศษนัดนี้จึงเป็นเหมือนฝันร้ายของ ร็อบเบน เพราะทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสบอลแฟนบาเยิร์น ที่เข้ามาดูในสนามวันนั้นจะโห่ใส่เขาทันที ข้อหาทำให้ทีมพลาดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
1
นัดนี้ลงเอยด้วยชัยชนะของ บาเยิร์น เหนือทีมชาติฮอลแลนด์ไป 3-2 ครึ่งแรก โทนี่ โครส กับ นิลส์ เพเทอร์เซ่น ทำคนละลูกให้ทีมเสือใต้ ฮอลแลนด์ เอาคืนจาก คลาส แยน ฮุนเตลาร์ และ ลูเซียโน่ นาร์ซิงห์ ก่อนที่ มาริโอ โกเมซ จะมาพังประตูชัยท้ายเกมให้กับเจ้าของสนาม
ในยูโร 2012 ทั้ง เยอรมัน และฮอลแลนด์ ต้องอยู่ร่วมกลุ่มกัน ในเกมเจอกันเอง เยอรมันชนะ 2-1 โดยทั้งสองประตูได้จาก มาริโอ โกเมซ พวกเขาจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ก่อนเข้าไปแพ้ อิตาลี ในรอบรองชนะเลิศ
ขณะที่ฮอลแลนด์ พวกเขาตกรอบแรกด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม ด้วยผลงานแพ้รวดทั้ง 3 นัด ยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น
หนี้ระหว่าง บาเยิร์น และสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ ในเคสของ อาร์เยน ร็อบเบน ถูกจ่ายจบครบไปแล้วตั้งแต่เกมพิเศษที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า
1
ทว่าหนี้ของ ร็อบเบน ต่อแฟนๆ เสือใต้ยังไม่จบ จนกระทั่งอีก 1 ปีต่อมา
บาเยิร์น ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง หนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายมีรอยยิ้มในบั้นปลายเมื่อเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 2-1
จากเดือนพฤษภาคม 2010 ถึงพฤษภาคม 2013 อาร์เยน ร็อบเบน เคลียร์หนี้ของเขาได้สำเร็จด้วยการเป็นคนพังประตูชัยให้ทีมในนาทีที่ 89 พร้อมทั้งแฟนบอลเสือใต้ที่เรียกเขาว่า มิสเตอร์ เวมบลีย์
นักเตะผู้ทำประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ นัดนี้นั่นเอง
*****************************
อ่านบทความย้อนหลัง
" เอฟเอ คัพ เตะมาราธอน " : ก่อนหน้าการระบาดของ โควิด มาตรฐานของ เอฟเอ คัพ จะมีการเตะรีเพลย์กันแค่นัดเดียว หากยังเสมอกันจะเตะจุดโทษหาผู้ชนะทันที แต่ในยุคก่อน เอฟเอ จะให้เตะรีเพลย์กันเรื่อยๆ จนกว่าจะมีทีมชนะ สถิติระบุไว้ว่าเคยมีการเตะกันถึง 6 นัดทีเดียวกว่าจะรู้ผล
" บทอำลาของ ดิ คานิโอ กับเวสต์แฮม " : จากนักเตะที่โดนตราหน้าว่าเกเร กลายมาเป็นนักเตะผู้เป็นที่รักและมีน้ำใจนักกีฬาเมื่อย้ายจาก เชฟฟิลด์ มายังลอนดอน แต่ในช่วงบั้นปลายของ เปาโล ดิ คานิโอ กับเวสต์แฮม มันกลายเป็นบทอำลาที่ทั้งหวานและขม
" มิดเดิลสโบรช์ ทีมรวมดาวที่ถูกลืม " : โบลตัน เคยมีทีมรวมดาวกาลาติกอสเวอร์ชั่นอังกฤษ แต่พวกเขาก็แพ้ให้กับอีกหนึ่งทีมรวมดาวที่หลายคนลืมไป นั่นก็คือมิดเดิลสโบรช์
" เวทีของหมายเลข 9 " : ในยุคที่นักเตะหมายเลข 9 ยังรุ่งเรือง มีเกมที่พิสูจน์คุณค่าของพวกเขาเหล่านี้ ที่สำคัญยังเป็นเวทีประกาศศักดาของกองหน้าวัยเพียง 17 ปีเศษจากบราซิลนามว่า "โรนัลโด้" ด้วย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา