27 ก.ย. 2020 เวลา 10:08 • การศึกษา
อีกด้านระบบการศึกษาระดับโลกของสิงคโปร์ กับความกดดันมหาศาลของเด็กที่เลี่ยงไม่ได้
หากประเทศของคุณไม่มีทั้งทรัพยากรและพื้นที่มีจำกัด คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ประเทศนั้นควรหันไปลงทุนมากที่สุด
คำตอบของคำถามนี้คือสิ่งที่สิงคโปร์ได้ลงทุนไปแล้วอย่างมหาศาล
จนตอนนี้ระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับต้นๆของโลก
แต่กับประเทศทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบสิงคโปร์ไม่ได้ นั่นอาจรวมถึงประเทศของเรา
อะไรคือสิ่งที่สิงคโปร์ทำให้เด็กของพวกเขาแตกต่าง
ต้องยอมรับว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่โดดเด่นมากในด้านวิชาการ จนมันกลายเป็นจุดแข็งของประเทศ
เด็กนักเรียนที่สิงคโปร์มีชื่อขึ้นกระดานระดับโลกกันให้เห็นจนชินตา
ตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาจะถูกระบบการศึกษาผลักดันให้เกิดค่านิยมในด้านการเรียนเป็นหลัก
ทำให้เด็กนักเรียนสิงคโปร์โฟกัสไปที่เรื่องเรียนอย่างเดียว เตรียมตัวเพื่อสอบแข่งขันตั้งแต่ประถม
รวมทั้งต้องแข่งขันกับนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนในสิงคโปร์
ทำให้เกิดคำพูดที่ว่า “สิ่งเดียวที่ขายได้สำหรับเด็กที่สิงคโปร์คืออนาคตที่สดใส”
การปลูกฝังค่านิยมแบบนี้ถือเป็นผลดีกับระบบการศึกษาอย่างมาก
แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือความกดดันมหาศาลที่มากไม่แพ้กัน
พูดง่ายๆคือชีวิตวัยเด็กที่สิงคโปร์จะไม่มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่าเรื่องคะแนนสอบอีกแล้ว
เด็กๆทุกคนต้องรับทั้งความคาดหวังและความกดดันจากสังคม
คนที่มีคะแนนสอบวัดระดับที่มากกว่าจะได้รับคัดเลือกเข้ามหาลัยของประเทศ
ส่วนคนที่คะแนนน้อยจะต้องไปเรียนอาชีวะแทน อย่างไม่มีข้อแม้
ไม่แปลกถ้าเราจะคิดว่านี่เป็นอะไรที่มากเกินไปสำหรับเด็ก
เพราะถ้าเมื่อเรามองเข้าไปในฐานะคนที่อยู่ภายนอกสังคมนั้นแล้ว มันจะดูหนักหนาสาหัสมาก
แต่ประชากรส่วนใหญ่ตอนนี้แทบทุกคนล้วนต้องผ่านมันมา
ทำให้ระบบนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองเด็กอย่างไม่ต้องสงสัย
มันจึงเป็นเรื่องปกติของเด็กสิงคโปร์ไปโดยปริยาย
แต่ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจแล้วว่าประเทศสิงคโปร์จะเป็นแบบนี้
พวกเขาเป็นประเทศขนาดเล็ก มีพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัดมากๆ
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้สิงคโปร์ก้าวขึ้นเป็นระดับโลกก็มีเพียงทรัพยากรมนุษย์
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงแปลงอย่างรวดเร็ว สิงคโปร์จึงต้องการให้ประชากรที่พร้อมเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
เพื่อประเทศจะได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์มาเป็นเวลานาน สิงคโปร์ก็เริ่มเปิดระบบการศึกษาแบบใหม่
ที่นักเรียนมีสิทธิ์เลือกเรียนที่สิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครเก่งหรือไม่เก่งไปกว่ากัน
ทำให้ผลการเรียนไม่ใช่ทั้งหมดที่ตัดสินเด็กได้
แต่เพิ่มมาด้วย ”ความตั้งใจและความรับผิดชอบ” ที่จะเชื่อมโยงพวกเขากับอนาคต
โฆษณา