28 ก.ย. 2020 เวลา 00:56 • ความคิดเห็น
17 วิธีมีเวลาให้มากขึ้น
1.ตระหนักว่าบางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องของเวลา - สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการจัดการเวลาคือการจัดการพลังในตัวเรา ถ้าพลังเรามีเต็มเปี่ยม เราจะทำงานเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าพลังงานเหลือก้นถัง ต่อให้นั่งอยู่ทั้งวันก็อาจจะทำอะไรไม่สำเร็จเลยสักอย่าง
1
2. นอนให้พอ - การนอนคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของชีวิต แม้ว่านอนแล้วจะหาอาหารไม่ได้ สืบพันธุ์ไม่ได้ ป้องกันตัวก็ไม่ได้ แต่วิวัฒนาการก็ยังบังคับให้สัตว์ทุกตัวบนใบโลกนี้ต้องนอนด้วยกันทั้งนั้น ถ้าอยากมีพลังงานที่เต็มเปี่ยม จงนอนให้พอเสียก่อน
3. ตื่นให้เช้า - เมื่อเราตื่นเช้า เราจะเป็นนายของเวลา เราจะทำอะไรต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเร่งรีบ เราจะเลี่ยงรถติดและคิวยาวๆ ซึ่งจะทำให้เราไม่สูญเสียพลังงานและสุขภาพจิตโดยใช่เหตุ
4. เข้านอนก่อนสี่ทุ่ม - เป็นวิธีการนอนตื่นเช้าได้โดยไม่ต้องพยายาม ตื่นได้โดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ร่างกายมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นถูก optimize ให้นอนช่วงเวลานี้อยู่แล้ว นอนสี่ทุ่มตื่นตีห้านั้นจะเฟรชกว่านอนตีหนึ่งตื่นแปดโมงแม้ว่าจะได้นอน 7 ชั่วโมงเท่ากัน
5. ชาร์จมือถือไว้นอกห้อง - ถ้าอยากเข้านอนได้เร็วๆ ให้ชาร์จมือถือไว้นอกห้อง เราควรจะพาตัวเองออกห่างจากจอ LED ก่อนเวลานอนอย่างน้อยซัก 1 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้น blue light ที่มาจากจอนั้นจะหลอกร่างกายเราว่าฟ้ายังสว่างอยู่ สาร melatonin จะไม่หลั่ง แล้วเราจะนอนไม่ค่อยหลับหรือถึงหลับก็หลับไม่สนิท
1
6. ล็อกเอาท์จากโซเชียล - ถ้ารู้สึกว่าเรากำลังใช้เวลาบนโซเชี่ยลมากไป ให้ลอง log out จากแอป แล้วถ้าจะเข้าก็เข้าผ่าน browser บนมือถือแทน ประสบการณ์การใช้โซเชี่ยลจะติดๆ ขัดๆ จนเราไม่ได้เพลิดเพลินกับมันจนเกินเวลา
7. ห้ามใจไม่ไป war กับใครบนโซเชี่ยล - การทะเลาะกันในช่องคอมเม้นท์นั้นเป็นเรื่องเสียเวลาขั้นสุด ผมยังไม่เคยเห็นคนเก่งๆ ที่ผมยอมรับนับถือไปคอมเม้นท์ทะเลาะกับใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว
8. ปิด notifications - สิ่งที่เราจะได้มากับการเปิด notifications คือการเป็นคนที่พะวงตลอดเวลา เป็นหมาของ Pavlov ที่ได้ยินเสียงระฆังแล้วน้ำลายไหลวันละหลายสิบครั้ง ส่วนตัวผมจะเปิด noti แค่ calendar, sms และ Slack เท่านั้น
9. ใส่นาฬิกาข้อมือ - จะได้ดูเวลาได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดู ซึ่งพอหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาแล้วก็มักจะเผอเรอกดแอปอย่างอื่นดูโดยไม่รู้ตัวทุกครั้ง
10. ใช้ Facebook Kill News Feed extension ใน Chrome - ใครติด Facebook ในคอมมากๆ ให้ลองเสิร์ช extension ตัวนี้แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยน
1
11. ใช้เงินทำงาน - ในหนังสือ Your Money / Your Life (เงินหรือชีวิต) ให้นิยามไว้ว่า "เงินคืออะไรก็ตามที่เราใช้เวลาไปแลกมันมา" สมมติว่าเราเงินเดือน 30,000 บาท ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง รวมเวลาเดินทางอีก 10 ชั่วโมงเป็น 50 ชั่วโมง หนึ่งเดือนมีสี่สัปดาห์เท่ากับ 200 ชั่วโมง เอา 30,000/200 = 150 บาท ต่อชั่วโมง ดังนั้นอะไรก็ตามที่ต้องเสียเวลาเกิน 1 ชั่วโมงเพื่อให้ได้มาหรือประหยัดเงินไปได้ 150 บาทถือว่าไม่ใช่เรื่องที่คุ้มเท่าไหร่ สู้เอาเงินนั้นไปจ้างคนอื่นทำงานให้เราดีกว่า
12. ไม่ซื้อของผ่อน - การผ่อน 0% สิบเดือนนั้นจะทำให้เราซื้อทั้งๆ ที่ยังมีกำลังไม่พอ เป็นการสร้างภาระให้ตัวเราเองในอนาคต ถ้าการซื้อของผ่อนทำให้เราซื้อของที่ไม่จำเป็นเข้าบ้าน 15,000 บาท นั่นแปลว่าเรากำลังจะเสียเวลาในชีวิตไปอีก 100 ชั่วโมงเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา
2
13. ปฏิเสธคนให้เป็น - Say "No" with an option - เราไม่ปฏิเสธใครเพราะเราเป็นคน nice หรือเพราะเราเป็นคนไม่กล้า? ถ้าปัญหาคืออย่างหลังก็อาจถึงเวลาต้องมีความกล้ามากกว่านี้ เพราะถ้าเรา say yes กับทุกอย่างเราจะทำไม่ได้ดีสักอย่าง หัดปฏิเสธคนอย่างมีศิลปะด้วยการมอบทางเลือกให้กับเขา เช่นแนะนำคนอื่นที่ช่วยเขาได้ หรือถ้าต้องเป็นเราจริงๆ ก็ขอให้เขารอให้เราทำงานสำคัญของเราให้เสร็จก่อน
1
14. ทำงานเล็กๆ ให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง - Parkinson's Law บอกว่า work expands so as to fill the time available for its completion เมื่อเราเผื่อเวลาให้กับงานมากเท่าไหร่ งานมันก็จะขยายตัวจนใช้เวลาเหล่านั้นจนหมด ภาพความทรงจำสมัยเรียนยังเด่นชัด อาจารย์ให้เวลาทำ assignment หลายอาทิตย์แต่เราก็มักจะมาปั่นในคืนสุดท้ายอยู่ดี ดังนั้น ถ้ามีงานชิ้นเล็กๆ ที่ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก ลองรวบรวมมาสัก 4-5 งานแล้วลองเล่นเกมกับตัวเองดูว่าภายใน 1 ชั่วโมงจะทำงานเหล่านี้เสร็จสักกี่ชิ้น
1
15. เช็คเมลวันละ 3 ครั้ง - บางคนมี Outlook เป็นสรณะ เปิดทิ้งไว้ทั้งวัน เมลเด้งทีก็คลิกเข้าไปอ่านทีหนึ่ง แล้วอย่างนี้จะทำงานใหญ่ได้อย่างไร ถ้าเราไม่ได้ทำงาน support ที่ต้องรีบตอบเมล ขอแนะนำให้ปิด Outlook/Gmail ไปเลย แล้วเข้ามาเช็คแค่วันละ 3 ครั้งก็พอ 10am, 1pm, 4pm ถ้าเรื่องมันด่วนจริงเขาคงโทรหาไปแล้ว
16. เปลี่ยนเรื่องสำคัญให้กลายเป็น habit - อะไรที่เป็นเป้าหมายระยะยาวของเรา เช่นเรื่องสุขภาพ เรื่องจิตใจ เรื่องการเรียนรู้ ลองเปลี่ยนมันให้เป็นกิจวัตร แล้วเราจะทำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม ดังนั้นจึงใช้เวลาน้อยแต่สม่ำเสมอ และผลตอบแทนทบต้นนั้นสูงยิ่งนัก
2
17. ให้เวลากับสิ่งที่เรารัก - burnout ไม่ได้เกิดจากการทำงานมากเกินไป แต่เกิดจากการปล่อยให้งานเข้ามาเบียดบังชีวิตส่วนตัวจนเราไม่เหลือแรงและเวลาไปทำสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจเราได้เลย ซึ่งแรกๆ ก็ยังพอทนได้ แต่พอนานๆ ไปจิตใจแห้งผากเหมือนดินหน้าแล้งแดนอีสาน เราจะโกรธบริษัท โกรธหัวหน้า แล้วอาจจะลุกขึ้นมาทำอะไรที่ผลีผลามและเป็นผลเสียต่อทุกฝ่าย ทางที่ดีกว่าคือการจัดเวลาให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชอบเป็นประจำ เมื่อเติมตัวเองเต็มแล้ว เราจึงจะทำเพื่อหน้าที่และทำเพื่อคนอื่นได้อย่างเต็มใจและยั่งยืน
1
หากอยากเรียนรู้เรื่องการจัดการเวลาในเชิงลึก ขอเชิญมาร่วม Time Management Workshop รุ่นที่ 16 วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม เวลา 9:00-12:00 ครับ ดูรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊คเพจ Anontawong's Musings ครับ
โฆษณา