28 ก.ย. 2020 เวลา 11:16 • ความคิดเห็น
ถ้าจะขอทานให้ได้เงินล้านในระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดจะทำได้อย่างไร??
เรื่องราวนี้มีคำตอบให้กับทุกคนครับ
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของขอทานคนหนึ่งที่มีอาชีพขอทานอยู่เป็นประจำ แต่อยู่มาวันหนึ่งครับเขาได้เจอกับนักการตลาดผู้เก่งกาจคนหนึ่งและได้ขอคำปรึกษา เกี่ยวกับอาชีพของเขา จนในที่สุดแล้วชีวิตเขาก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล
เรื่องราวเริ่มต้นที่ว่าขอทานผู้หนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพนี้มาหลายปี และกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะ ในแต่ละวันคนแทบจะไม่บริจาคเงินให้กับเขาเลย แต่ด้วยความบังเอิญ เขาได้พบกับนักการตลาดขั้นเทพ คนหนึ่ง ก็เลยถือโอกาสนั้น ปรึกษาเกี่ยวกับตัวธุรกิจของเขาเอง
สิ่งแรกที่นักการตลาดแนะนำ กับเขานั่นก็คือ "คุณจะต้องมีแบรนด์เป็นของตัวเอง" ซึ่งสำหรับอาชีพขอทานแล้วนั่นก็คือชื่อของเขานั่นเอง นักการตลาดแนะนำว่าวันพรุ่งนี้ให้เขียนชื่อของตัวเองแล้วก็ไปตั้งเอาไว้กับข้างๆถ้วยขอทานเพื่อที่จะให้ทุกคนได้เห็นว่า เขามีแบรนด์เป็นของตัวเองไม่ใช่ขอทานธรรมดาๆ ทั่วไป
(การสร้างแบรนด์นั้นทำให้เป็นที่จดจำได้ง่ายยิ่งถ้าชื่อของแบรนด์นั้นสะดุดหูสะดุดตาและจดจำง่ายก็จะยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นและ ติดตลาดได้เป็นอย่างดี)
เรื่องที่ 2 ทีมนักการตลาดแนะนำนั่นก็คือ "เขาจะต้องมีสถานที่ประกอบการของตัวเอง" ซึ่งถ้าในมุมของอาชีพขอทานแล้วนั่นก็คือสถานที่ที่เค้าขอทานอยู่เป็นประจำนั้นเอง
ขอทานคนนี้ก็ตอบกลับนักการตลาดไปเลยทันที ว่าเขามีอยู่แล้ว
เพราะว่าทุกวันนี้เขาขอทานอยู่เป็นประจำที่ถนนคนเดิน จุดเดิม ในทุก ๆ วัน
(สถานที่ประกอบการจะสร้างความน่าเชื่อถือของทั้งแบรนด์และก็สินค้า ให้มากยิ่งขึ้น)
เท่านั้นยังไม่พอ นักการตลาดได้แนะนำถึงข้อที่ 3 ซึ่งเป็นข้อสำคัญเลยนั่นก็คือ
การทำการตลาด "จะต้องมีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร"
ข้อนี้เมื่อขอทานได้ฟัง ก็งงเอามาก ๆ เพราะเขาคิดไม่ออกเลยว่า เขาจะทำยังไงให้การขอทานของเขา ไม่เหมือนใครได้ยังไง ในเมื่อขอทานทุกๆคนก็มีวิธีการขอแทบจะไม่แตกต่างกันเลย
นักการตลาดก็เลยแนะนำว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้คุณ รับเงินแค่ 10 บาทเท่านั้นเวลามีคนมาบริจาค
ถ้ามีคนมาให้เงินคุณ 20 บาทสิ่งที่คุณต้องทำคือเรียกเขา และทอนเงินคืนไป 10 บาทและบอกว่าผมรับแค่ 10 บาทเท่านั้น
แล้วถ้ามีคนมาให้เงินคุณแค่บาทเดียวหรือไม่ถึง 10 บาทสิ่งที่คุณจะต้องทำ นั่นก็คือเรียกเขาแล้วก็เอาเงินที่เขาบริจาคนั้นคืนไปแล้วก็บอกเขาไปว่าคุณรับแค่ 10 บาทเท่านั้น
พอได้ฟังคำแนะนำนี้ ขอทานก็ แย้งขึ้นมาทันทีว่า ทำแบบนี้เขาจะไม่ขาดทุนหรือไงในเมื่อแต่ละวันเขาก็ได้เงินบริจาคน้อยอยู่แล้ว ถ้าทำอย่างที่นักการตลาดบอก แบบนี้เนี่ยเขาอาจจะไม่ได้เงินเลยสักบาทก็ได้นะวันนึง หรือได้บางทีก็อาจจะไม่พอกินข้าวด้วยซ้ำ
เรื่องนี้นักการตลาดก็แย้งขึ้นมาทันที เช่นกัน เขาบอกว่า ถ้ามองในระยะสั้นแน่นอนผมว่าคุณจะต้องขาดทุนอย่างแน่นอน แต่ถ้ามองในระยะยาว คุณจะต้องกำไรมหาศาลแน่นอน
คุณลองคิดดูสิว่าคนที่คุณทอนเงินกลับไป 10 บาทเขาจะรู้สึกยังไง และทำยังไง เขาก็คงจะต้องเงิบ แล้วกลับไปบอกคนที่บ้านหรือคนที่ทำงานว่าไปเจอกับขอทานคนหนึ่งมาให้เงินไป 20 บาท และมันทอนกลับมา 10 บาท บอกว่าผมรับบริจาคแค่ 10 บาทเท่านั้น
ส่วนคนที่คุณไม่รับเงินบริจาคเขาก็ จะเงิบเช่นกัน และเขาก็จะทำแบบเดียวกัน คือกลับไปบอกคนที่บ้านกับคนที่ทำงานกับคนที่เขารู้จักแล้วก็เล่าให้ฟังว่ามีขอทานคนนึงไม่รับเงินเขาเพราะเขาบริจาคให้น้อยเกินไป ซึ่งทั้งสองคนนั้นถือว่าเป็นการทำการตลาดชั้นดีให้กับคุณโดยที่คุณไม่ต้องลงทุนสักบาทเดียว
เมื่อขอทานได้ฟังแบบนั้นก็เข้าใจแล้วก็ลองไปปฏิบัติตามที่นักการตลาดคนนี้ได้แนะนำมา
ผลปรากฏว่าเพียงระยะเวลาแค่ ไม่กี่เดือนขอทานคนนี้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศเนื่องจากมีคนหลายคนถ่ายคลิปลงอินเตอร์เน็ตทำให้สำนักข่าวต่างๆเข้ามาสัมภาษณ์กับขอทานและกลายเป็นไวรัล โด่งดังไปทั่วประเทศ และทำให้ใครต่อใครก็อยากที่จะเดินทางมาพิสูจน์ ว่าเขารับ 10 บาท จริง ๆ รึเปล่าด้วยเหตุนี้ ทำให้ทุกๆ วันมีคนบริจาคให้เขาไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 บาท นั่นจึงทำให้เขาสามารถเก็บเงินล้านได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น
จากเรื่องราวนี้ เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าการทำธุรกิจรูปแบบไหนก็ตามล้วนแล้วต้องการความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร แม้กระทั่ง การขอทาน แค่สามารถทำให้แตกต่าง ก็สร้างผลลัพธ์ที่มากกว่า อย่างมหาศาลแล้ว ถ้าเราสามารถหาจุดที่แตกต่างไม่เหมือนใครใน ธุรกิจที่กำลังทำได้ มันก็จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นเป็นเสมือนดาวรุ่งพุ่งแรง ไปไม่มีหยุดนั้นเอง
ไม่ใช่แค่ธุรกิจเท่านั้นที่ต้องการความแตกต่าง แต่แทบจะในทุก ๆ บริบท ล้วนแล้วแต่ต้องการความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครด้วยกันทั้งนั้น
ขอให้หา "ความแตกต่าง" ของคุณเองให้เจอนะครับ ^^
โฆษณา