2 ต.ค. 2020 เวลา 16:49 • กีฬา
🤔💪🤔💪นับตั้งแต่ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” เข้ามารับงานในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ในปี 2016 เขาลงทุนใช้เงินเสริมแนวรับของทีมรวมไปแล้วกว่า 400 ลป. ซึ่งการมาล่าสุดของ “รูเบน ดิอาส” จึงถูกตั้งคำถามตัวโตๆว่า…แก้ปัญหาถูกจุดแล้วหรือยัง?
การอำลาทีมไปของ แว็งต์ซอง กอมปานี อดีตกองหลังกัปตันทีม ดูเหมือนจะทิ้งปัญหาให้ต้องคอยตามแก้มากกว่าที่คิด ภาพจำที่ว่าทัพ “เรือใบ” เป็นทีมที่เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น เริ่มค่อยๆเลือนลางหายไปทุกทีแล้ว ซึ่งบ่อยครั้งทีมก็ไม่มีทางเลือกมากนัก จึงจำเป็นต้องถอยผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์อย่าง แฟร์นานดินโญ่ หรือ โรดรี้ ลงมายืนในแผงแบ็กโฟร์แก้ขัดกันไป
>>> ผลงานในลีกนับตั้งแต่ ส.ค. 2019
เล่น นาที ประตู จ่ายบอล
จอห์น สโตนส์ : 17 1,209 0 1,110
เอเมริค ลาป๊อร์ก : 15 1,104 1 1,148
เอริค การ์เซีย : 14 880 0 824
นาธาน อาเก้ : 31 2,685 3 1,372
ชื่อของกองหลังโปรตุกีสที่ย้ายมาจากเบนฟิก้าด้วยค่าตัวสูงถึง 65 ลป. จึงถูกจับจ้องอย่างหนักทันที พร้อมถูกคาดหวังว่าจะแก้ปัญหาในแนวรับของทีมได้เสียที หลังเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ ต้องพลาดแชมป์ลีกแบบตามหลัง ลิเวอร์พูล ห่างถึง 18 แต้ม ด้วยการแพ้ไปถึง 9 เกม ขณะที่ตลอดสองซีซั่นก่อนหน้าที่ทีมเข้าป้ายคว้าแชมป์มาครองได้ กลับแพ้รวมกันเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น
>>> ทำไมต้องจ่ายถึง 65 ลป. เพื่อ “ดิอาส”?
ทุกคนรู้ดีว่ากองหลังตัวกลางทางฝั่งขวาคือจุดอ่อนที่ทาง เป๊ป ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน การเสี่ยงให้ แฟร์นานดินโญ่ มายืนหลัง หรือการใช้งาน จอห์น สโตนส์ ก็แสดงให้เห็นหลายครั้งแล้วว่าทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจไม่ได้เลย ขณะที่ ลาป๊อร์ก ก็แวะเวียนเข้าโรงหมอบ่อยมากกว่าที่จะได้โชว์ฝีเท้าในสนาม เมื่อได้ลงเล่นในเกมลีกให้ทีมไปเพียงแค่ 15 เกมเท่านั้น นับตั้งแต่ส.ค. 2019
การพ่ายแพ้ต่อ เลสเตอร์ แบบหมดสภาพ 2-5 ซึ่งเกิดขึ้นเพียงในนัดที่ 2 ของฤดูกาล เหมือนโดนหมัดฮุคเข้าอย่างจัง เพราะเป็นครั้งแรกในอาชีพคุมทีมของ เป๊ป กว่า 686 เกมที่เห็นทีมเสียประตูถึง 5 ลูก ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าแผงรับของทีมเหมือนต่างคนต่างเล่นขาดการสื่อสารที่ดี ดูเหมือนแบ็คโฟร์ที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ แต่เมื่อดูจากชื่อชั้นผู้เล่นแล้วมันกลับหาใช่แบบนั้นเลย
“ความเป็นผู้นำ” คือสิ่งที่ดูเหมือนว่าทีมจะทำหล่นหายไป การมาของ ดิอาส ที่เคยมีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมชาติโปรตุเกสชุด U-19 ทำศึกยูโร 2016 รวมถึงศึกฟุตบอลโลก U20 ก่อนก้าวขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 19 เกม มีชื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงช่วยทัพ “ฝอยทอง” ทำศึกเนชั่นส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศพบกับ เนเธอร์แลนด์ เมื่อซัมเมอร์ปีก่อน แสดงให้เห็นว่ามีของอยู่เหมือนกัน
คาร์ลอส คาร์วัลฮาล อดีตกุนซือสวอนซี ซิตี้ บรรยายสรรพคุณของดาวเตะวัย 23 ปี รายนี้ไว้ว่า มีความเป็นผู้นำสูง, สภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และ ทุ่มเทเต็มร้อยเปอร์เซนต์เสมอ ซึ่งนี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมเขาถึงได้เล่นให้ชุดใหญ่ของเบนฟิก้าตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีดี แต่เขาก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพราะสไตล์ของเขาคือผู้เล่นในแนวรับอย่างแท้จริง
โดย ดิอาส จะมีการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมรอบๆตัวอยู่เสมอ รวมถึงสามารถซึมซับสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการได้อย่างรวดเร็วด้วย แม้ว่าจะจบเกมไปแล้วก็ตาม เพราะเขามีสมาธิต่อเกมสูง แล้วมักจะพูดกับเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลาว่าต้องทำอย่างไรทีมจะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติเหล่านี้กับนักเตะคนอื่นๆที่อายุไล่เลียกันจะถือว่าเขาเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในเวลานี้เลย
>>> “ดิอาส” และ “แมนฯ ซิตี้” จะต้องเจอกับบททดสอบที่คาดไม่ถึง?
อย่างไรก็ตาม คริส ซัตตัน กูรูจากบีบีซี เรดิโอ ไฟว์ ก็ออกโรงมาเตือนว่า ด้วยค่าตัวแพงระยับแบบนี้ เขาจะยิ่งต้องโดนจับตามองอย่างหนัก และ โดนแรงกดดันก่อนโตถาโถมใส่แน่ ซึ่งนั้นจะทำให้เขาต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองให้ได้โดยไว และ มุ่งมั่นพุ่งชนทุกปัญหาที่จะเขามาต่อจากนี้ แน่นอนว่านี้เป็นเรื่องยากที่เขาต้องเจอ และ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เผลอๆอาจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่คิดไว้ด้วย
แล้วเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง และ ของสโมสร ทุกฝ่ายจะต้องช่วยแนะนำเขาให้ดีที่สุด และ เขาจะปรับตัวได้ไวแล้วทำผลงานออกมาได้ดี ลองนึกภาพมีคู่แข่งที่ทำให้เขาเสียฟอร์มได้ ผู้คนจะโจมตีเรื่องค่าตัวของเขาแน่ ดังนั้นยิ่งเขาเข้ากับทีมได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีที่สุด เพราะถ้า เป๊ป ยังอยากให้ทีมไปถึงแชมป์ลีก พวกเขาจะต้องเร่งคืนฟอร์ม ตั้งรับให้แข็งแกร่ง และ เก็บคลีนชีท ให้ได้โดยเร็ว
>>> “ดิอาส”...ไม่เคยถูกมองว่าเป็นตัวเลือกแรกของสโมสร?
แม้ว่า ดิอาส จะเป็นผลผลิตรายล่าสุดจากทัพ “เหยี่ยวลิสบอน” ที่มาค้าแข้งกับแมนฯ ซิตี้ แต่เขาก็ไม่เหมือนกับในรายของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ เจา กานเซโล่ ที่อาจมีเวลาปรับตัวลงซ้อมกับทีมใหม่มากกว่านี้ แต่จากความพ่ายแพ้ต่อทัพ “จิ้งจอกสยาม” แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่สามารถรออะไรได้อีกต่อไปแล้ว ก็ได้แต่หวังว่า ดิอาส จะเป็นตัวแทนที่ดีของ กอมปานี ที่เฝ้ารอกัน
โดยในตอนแรก ดิอาส ไม่ใช่เป้าหมายแรกของทีม แต่จากการที่ทีมมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีกับทาง นาโปลี ที่ไปขาย จอร์จินโญ่ ให้กับ เชลซี แทน ทำให้การได้ตัว คูลิบาลี่ ในราคาที่ต่ำกว่า 70 ลป. เป็นไปแทบไม่ได้เลย แต่เมื่อผนวกกับการได้ปล่อย โอตาเมนดี้ ออกจากทีมแล้ว ทำให้ดีลของ ดิอาส เป็นไปอย่างไหลลื่นมากขึ้นแทน ก็ต้องมาดูกันว่าการเดิมพันครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
ตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมาที่ก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้กับเบนฟิก้า ดิอาส ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าฝีเท้าของเขานั้นมีความสม่ำเสมอมากแค่ไหน ซึ่งรวมถึงความเป็นผู้นำด้วย...แล้วนี่คือสิ่งที่ แมนฯ ซิตี้ กำลังต้องการมากที่สุด การผจญภัยบทใหม่จะเป็นไปได้สวยแค่ไหนน่าติดตามจริงๆ!!!
#Dias #ManCity #PremierLeague #ติดสอยห้อยเล่าเรื่อง
โฆษณา