9 ต.ค. 2020 เวลา 16:08 • กีฬา
🔥💪🔥💪 เล่นเอาเหล่า “กูนเนอร์” หัวใจพองโตไปตามๆกัน กับการได้ตัว “โธมัส ปาร์เตย์” มาเสริมแกร่งในวันเดดไลน์ ซึ่งกว่าเด็กน้อยจากกาน่าคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมามีวันนี้ได้ ก็ผ่านอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน…
สไตล์การเล่นของ ปาร์เตย์ มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้กองกลางของ แอตฯ มาดริด มีความแข็งแกร่งขึ้น เมื่อมีทั้งความดุดัน และ มุ่งมั่น ที่ชวนให้นึกถึงเจ้านายเก่าของเขาอย่าง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ในสมัยที่ยังเป็นผู้เล่นอยู่ โดยคุณพ่อของเขามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ได้
ย้อนไปในปี 1993 ปาร์เตย์ ได้ลืมตาดูโลกครั้งแรกที่เมืองโครโบ โอดูมาเซ่ โดยเขาเป็นพี่คนโตของน้องอีก 8 คน ซึ่งขณะที่คุณแม่ของเขาทำงานเป็นแม่ค้า ฝั่งคุณพ่อที่มีหัวใจรักในเกมลูกหนัง ก็รับบทบาทเป็นโค้ชให้กับทีมในท้องถิ่น จึงไม่แปลกใจที่เขาจะได้คลุกคลีกับลูกบอลตั้งแต่ยังเด็ก
เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมของพ่อตัวเอง เคียงข้างกับ ฟรานเชส ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีความคิดตรงกันว่า “ฟุตบอล” เป็นเส้นทางที่จะทำให้ชีวิตพวกเขาห่างจากสลัมได้ ซึ่งในขณะที่พัฒนาฝีเท้าตัวเองขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เขาก็เก็บงำความฝันที่จะไปเล่นที่ยุโรปไว้ในใจอยู่เสมอมา
เมื่อรู้ว่าลูกชายตัวเองมีพรสวรรค์ด้านค้าแข้งที่ไม่ธรรมดา ครอบครัวของเขาจึงพยายามหาเงินด้วยการหาผู้สนับสนุนที่จะพาเขาไปเล่นในต่างประเทศให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดวิธีการนี้ก็ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่นัก พวกเขาจึงมองหาทางออกอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายต้องแลกมากับ “การเดิมพันครั้งใหญ่”
“มีนักเตะคนอื่นๆที่ดีกว่าผม เป็นกองหน้าที่ยิงประตูได้มากมาย แต่เขาไม่ต้องการไปเล่นที่ยุโรป ดังนั้นโอกาสจึงตกมาที่ผมแทน เมื่อมีเอเยนต์มาถามหาว่าพ่อแม่ผมเป็นใคร เพื่อที่จะพาผมไปทดสอบฝีเท้าที่สเปน” ปาร์เตย์ ย้อนความหลังถึงสมัยเยาวชนที่เล่นให้ โอโดเมตาห์ เอฟซี ในบ้านเกิด
ปัญหาใหญ่บังเกิดขึ้นเมื่อเขาต้องหาเงินสำหรับค่าวีซ่าในการเดินล่าตามความฝัน สุดท้ายเขาต้องเป็นหนี้บุญคุณคุณพ่อของเขาแบบไม่มีวันลืม เมื่อท่านยอมขายทรัพย์สินส่วนตัวบางอย่างเพื่อสนับสนุนความทะเยอทะยานของลูกชายตัวเองให้เป็นจริง ทั้งๆที่ไม่รู้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
จนกระทั่งในปี 2012 ปาร์เตย์ ก็ตัดสินใจลาบ้านเกิดแบบกะทันหัน ในแบบที่แทบจะไม่ได้กล่าวลาครอบครัวเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ต้องการพลาดโอกาสทองที่จะได้ทดสอบฝีเท้ากับ แอตฯ มาดริด ซึ่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 6-7 เดือนเลยทีเดียว ถึงจะมีคนเริ่มรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในกาน่าแล้ว
ขณะที่คนทางบ้านจะเป็นห่วงเขามาก แต่เมื่อเลือกเส้นทางชีวิตแบบนี้แล้วก็มีแต่ต้องเดินหน้ากันต่อไป ซึ่งสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องผิดหวัง เมื่อการทดสอบฝีเท้าเป็นไปด้วยดี และ ได้เซ็นสัญญากับทัพ “ตราหมี” ในที่สุด และเพียงปีถัดมาก็ถูกดันขึ้นมาอยู่ในทีมชุดสำรองทันทีเลยด้วย
แม้ช่วงแรกจะเจอปัญหาตะกุกตะกักบ้างตามประสาแข้งยังบลัด แต่การถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับทั้ง มายอร์ก้า และ อัลเมเรีย ก็ทำให้วิชาแข้งของเขาแกร่งกล้าขึ้น ก่อนที่ในปี 2015 จะได้ขึ้นสู่ชุดใหญ่แบบเต็มตัว และ กลายมาเป็นกำลังสำคัญของกุนซือ ซิเมโอเน่ ในแบบที่ทีมขาดเขาไม่ได้
หลายฝ่ายจึงมองว่าค่าฉีกสัญญาจำนวน 45 ลป. ไม่ใช่ตัวเลขที่เกินเลยไปมากนักที่ทางทัพ “ปืนโต” ยอมจ่ายเพื่อดีงเขามาร่วมทีม ซึ่งอีกคนที่การันตีความยอดเยี่ยมของเขาได้ดีคือ อาฟรัม แกรนท์ ที่เป็นผู้เคยเรียกแข้งวัย 27 ปีมาติดธงกาน่าเป็นครั้งแรก โดยเชื่อว่าเขาจะเล่นในลีกผู้ดีได้แบบสบายๆ
อดีตนายใหญ่เชลซี และ เวสต์แฮม พูดไว้ว่านับตั้งแต่เห็นเขาครั้งแรก ก็รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่ง และ ความเข้าใจในเกมของเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังเป็นเด็กดีมากทั้งใน และ นอกสนาม ซึ่งเราแทบไม่ต้องกังวลถึงผลงานของเขาเลยด้วย เพราะเขาแทบจะโชว์ฟอร์มได้ดีในทุกเกมที่ลงเล่น
แล้วหากให้เขาช่วยไปเล่นทางริมเส้นเขาก็สามารถเล่นให้ได้ แต่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาคือมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งมีสายตาอันเฉียบคมสามารถอ่านเกมขาดได้แทบทั้งสนาม และ จะสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทางอาร์เซน่อล เหมือนกับที่เคยทำให้ทัพ “ตราหมี” ไว้ได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้านตัวของ ปาร์เตย์ เองก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยกับการผจญภัยครั้งใหม่นี้อยู่เหมือนกัน โดยยอมรับว่าแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม และ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวเองก็พร้อมทุมเทสุดพลังเพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่เช่นกัน
➡➡➡ เทียบผลงาน “ปาร์เตย์” กับกองกลางอาร์เซน่อล (นับตั้งแต่ 2018-19)
ประตู แท็คเกิล ตัดบอล เลี้ยงบอล
โธมัส ปาร์เตย์ 3 76 44 64
กรานิต ซาก้า 1 48 27 25
ดานี่ เซบาญอส 0 50 26 34 โจ วิลล็อค 1 25 16 21
โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ 1 37 17 14
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับ มิเกล อาร์เตต้า แล้วว่าจะปรุงรสของแข้งกาน่ารายนี้ได้ลงตัวกับทีมมากน้อยแค่ไหน เสริมทีมตรงจุดโดนใจแบบนี้แฟนบอลทั้งหลายก็แอบหวังสูงไว้อยู่เหมือนกัน...แต่สุดท้ายแล้วจะทำได้ดีเหมือนที่คาดหวังหรือเปล่าต้องรอเช็คผลงานในสนามกันก่อนนะ!!!
#Partey #Arsenal #PremierLeague #ติดสอยห้อยเล่าเรื่อง
โฆษณา