10 ต.ค. 2020 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
 
ตอนที่ 1 ปัญหาที่พบ
ช่วงนี้หากเราสังเกตดูเราจะพบว่านอกจากร้านสะดวกซื้อจะมีเพิ่มขึ้นของหลายๆค่าย ที่ต้องห้ำหั่นแย่งชิงทำเลกัน เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่าย เพื่อสุดท้ายแล้วธุรกิจจะได้มีการต่อรองที่สูงมีความได้เปรียบมากกว่าคู่ค้าหรือผู้ผลิตสินค้า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสร้างให้เกิดผลกำไรสูงสุดนั่นเอง
นอกจากจะมีร้านค้าสถานที่การจัดจำหน่าย ช่วงนี้จะเห็นได้ว่ามีการเพิ่มตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในสถานที่ต่างๆที่เป็นแหล่งชุมชน อาทิ สถานีรถไฟฟ้า ป้ายรถเมลล์ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านอาหาร หรือแม้แต่อาคารพักอาศัย เป็นต้น
สินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายที่ทำให้เกิดการซื้อที่ถี่และสม่ำเสมอก็เป็นสินค้ากลุ่มอาหาร ที่เห็นมากขึ้นเรื่องๆตามคอนโดต่างๆก็เป็นตู้จำหน่ายสินค้าของเซฟเว่นฯ นอกจากนี้ก็มีตู้หยอดเหรียญของเจ้าของสินค้ามาจำหน่ายเอง อย่างเช่นตู้จำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มของค่ายน้ำดำทั้งโค้กและแป๊ปซี่ หรือจะเป็นนมถั่วเหลืองเองก็มี
นอกจากนี้แล้วก็มีตู้จำหน่ายที่เป็นของใช้ เช่น เสื้อยืด กางเกงชั้นใน หน้ากากอนามัย หรือบางแห่งยังมีจำหน่ายสบู่ยาสีฟันด้วย หรือแม้สินค้ากลุ่มบริการก็มี อย่างเช่นตู้จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต ตั๋วชมภาพยนตร์ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ ฯลฯ
ซึ่งทั้งหมดแล้วก็เป็นสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยตรง และที่สำคัญต้องเป็นสินค้าที่คนส่วนมากใช้และมีความถี่ในการซื้อด้วย และในตอนต่อไปจะมาแยกให้เห็นเฉพาะว่าตู้เหล่านี้มีกี่ประเภทกี่แบบและเหมาะลูกค้ากลุ่มไหนกันบ้าง
คราวนี้เรามาดูว่าปัญหาที่พบหลักๆคืออะไรกันบ้าง ครั้งนี้ขอเป็นตู้จำหน่ายของน้านสะดวกซื้อก่อนนะครับ (ทั้งฝั่งผู้จำหน่ายและผู้ซื้อ)
1.เนื่องจากตู้จำหน่ายอัตโนมัติมีพื้นที่จำกัด ดังนั้นการคัดเลือกสินค้าจึงต้องมุ่งเน้นไปในรายการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งต้องใช้เวลานานและจำนวนลูกค้ามากเพียงพอจึงจะสามารถเติมสินค้าได้แม่นยำ หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Big Data เลยก็ว่าได้
2.ในช่วงที่เริ่มต้นในช่วงนี้เราอาจจะพบรายการสินค้าที่ลูกค้าไม่ต้องการอยู่มาก เรื่องนี้สินค้าที่มีอายุสั้นๆในกลุ่มอาหารสดจะมีปัญหามาก เพราะอาจจะขาดทุนได้ ส่วนกลุ่มที่มีอายุสินค้านานๆก็อาจจะขาดทุนได้เช่นเดียวกัน เพราะสินค้าอาจจะขายได้ช้า ค่าใช้จ่ายคงที่ทั้งค่าเช่า ค่าไฟฟ้า ค่าคนดูแลหรือแม้กระทั่งสินค้าเสื่อมสภาพ
3.สินค้ากลุ่มอาหารสดจะมีปัญหามากโดยเฉพาะอาหารพร้อมปรุง เพราะหากจะใช้เป็นตู้แช่แข็งแล้วทำให้สินค้าเก็บได้นาน ก็มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายกับอุปกรณ์ที่มีราคาสูงมาก มีโอกาสผิดพลาดได้สูงเพราะความถี่ในการซื้อที่ต้องทำงานตลอด อาจจะเกิดการปนเปื้อนได้ด้วย หากจะเป็นกลุ่มแช่เย็นอายุสินค้าก็สั้นอยู่ได้ไม่กี่วัน
4.สินค้าหมดแล้วมาเติมช้า
5.สินค้าหมดแล้วไม่เอามาขายต่อ
6.หากเป็นกลุ่มอาหารที่ต้องการให้อุ่นยังไม่สามารถทำได้ ลูกค้าต้องนำไปอุ่นเอง
7.กรณีตู้ขัดข้องหยอดเงินแล้วไม่ได้ของ การติดตามก็ยุ่งยากเพราะกว่าผู้รับผิดชอบจะมาดำเนินการก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ที่สำคัญจะตามยากมากในกรณีใช้เงินสด เพราะหากไม่มีกล้องวงจรปิดดูก็แทบจะไม่มีหลักฐานอะไรมาขอคืนเงินหรือขอสินค้าได้เลย
8.กรณีสะสมคะแนน(ตู้ขายสินค้าของร้านสะดวกซื้อ) ตอนนี้ไม่สามารถทำได้
9.ต้องซื้อสินค้าที่ 1 รายการ ทำให้แต่ละคนใช้เวลานานหากจะซื้อมากกว่า 1 ชิ้น เสียโอกาสในการสร้างยอดขายจากเวลาที่เสียไป
10.การชำระเงินมีหลายช่องทางก็จริง บางครั้งก็ไม่สามารถรับเหรียญหรือธนบัตรได้ แม้แต่การสแกนจ่ายจาก Application ของธนาคาร หลายครั้งพบว่าทำไม่ได้ อันนี้ทั้งเสียเวลาคนที่รอซื้อคนถัดไปและเสียโอกาสในการขายอย่างมาก
วันนี้เอาคร่าวๆเท่านี้ก่อนนะครับพอหอมปากหอมคอ ครั้งต่อไปเรามาเจาะลึกกันเข้าไปว่าแนวทางแก้ปัญหาต้องทำอย่างไรบ้าง ตู้มีกี่ประเภทการจำหน่ายมีแบบไหนบ้าง รวมถึงหากจะทำธุรกิจเรื่องนี้เราจะได้อะไรอย่างไร
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา