21 ต.ค. 2020 เวลา 11:44 • สุขภาพ
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย.......ตอน คนไทยพร้อมไหม ถ้าจะรับนักท่องที่ยว
ขอบคุณภาพจากประชาชาติธุรกิจ
หลังจากที่ประเทศไทยดำเนินมาตรการปิดน่านฟ้า ควบคุมและจำกัดการเข้าออกนักท่องเที่ยวและการเดินทางจากต่างประเทศ ตามมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ 7 เมษายน 2563
ผลกระทบที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ก็คือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เป็นธุรกิจที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศไทย หายไปเกือบทั้งหมด !!!!
แน่นอนว่าผู้ได้รับผลกระทบหลักอย่างสายการบิน โรงแรม บริษัททัวร์ รถโดยสารต่างกำลังเจอภาวะวิกฤติ เพราะขาดรายได้ หลายบริษัทต้องปิดกิจการ พนักงานหลายหมื่นคนตกงานและขาดรายได้ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก
ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 63 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้หดตัว -8.3% ซึ่งมากที่สุดในอาเซียน
ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายเอกชน ได้พยายามพูดคุยเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือภาคธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ได้ผลสรุปออกมาว่า ขณะนี้รัฐบาลเห็นชอบที่จะกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอีกครั้ง เพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังจะตาย
ขอบคุณภาพจากประชาชาติธุรกิจ
แผนการเดิมคือ ประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีนล็อตแรกจากกว่างโจว ประเทศจีน 120 คน มาลงที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ในรูปแบบของ Hotel quarantine หลังจากที่บทสรุปออกมาแบบนี้ก็ถูกต่อต้านจากภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทันที
เพราะจังหวัดภูเก็ตจะมีการจัดเทศกาลกินเจ ถือศีลกินผัก ซึ่งเป็นเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากทั่วประเทศอย่างมาก ในช่วงวันที่17-25 ตุลาคม รวม 9 วัน เดิมที่ได้รับการคาดการณ์มาว่าจะมีเม็ดเงินจากทั่วประเทศไหลมากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดจำนวนมาก แต่พอมีข่าวว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ก็สร้างความวิตกกังวลให้กับคนในพื้นที่ จนมีหลายโรงแรมถูกยกเลิกการจอง
ในที่สุดก็ต้องเลื่อนแผนการรับนักท่องเที่ยวออกไป จากวันที่ 8 ต.ค. เป็นวันที่ 20 ต.ค. ส่วนล็อตที่ 2 จะมาถึง 26 ต.ค.มาจากกว่างโจวเช่นเดียวกัน 120 คน โดยจะบินตรงไปลงภูเก็ต และจะกักตัวอยู่ในโรงแรม 14 วัน เบื้องต้นจะต้องถูกกักตัว 14 วัน
โดยในล๊อตแรกจะต้องถูกกักตัวในห้องตลอด 14 วัน หากได้รับผลดี ล๊อตที่สองจะปรับแนวทางเป็นกักตัวในห้อง 7 วัน กักในโรงแรม 7 วัน แต่ห้ามออกจากโรงแรมโดยเด็ดขาด เมื่อกักตัวครบ 14 วัน และได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ว่าผลเป็นลบแล้วจะสามารถออกไปท่องเที่ยวในตัวจังหวัดภูเก็ตได้
ทางฝั่งท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ก็ออกมารับลูกทันที ว่ามีความพร้อม มีพื้นที่ อุปกรณ์เครื่องมือ เพียงพอที่จะสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสาร กรณีที่รัฐบาลจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจะมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ โดยทราบผลโดยใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่รัฐบาลจะเปิดรับจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบ พำนักระยะยาว (Long Stay) และต่างชาติที่มีครอบครัวอยู่ในประเทศไทย โดยมาตรการคัดกรองก่อนเดินทางเข้ามาจะมีการตรวจหาเชื้อแบบใหม่ คือการเจาะเลือด ซึ่งจะมีผลยืนยัน 100% ซึ่งจะมีความแม่นยำกว่า การตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก และเมื่อเดินทางถึงไทยจะตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง และมีการกักตัวในสถานที่กำหนดไม่น้อยกว่า 14 วัน ซึ่งเมื่อครบ 14 วัน และไม่พบเชื้อ จะผ่านการรับรอง และสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ได้ของประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตามเหรียญก็มีสองด้าน หากมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ย่อมมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
นายก้องเกียรติ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า กรุ๊ปทัวร์คนไทยที่เตรียมจะมาจัดงานภูเก็ต เมื่อได้ยินข่าวเรื่องเปิดรับนักท่องเที่ยวก็มีการยกเลิกกัเกือบทั้งหมด ส่งผลให้ภูเก็ตเสียนักท่องเที่ยวทั้งต้นเดือนและปลายเดือน เฉพาะโรงแรมของตน ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด
ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมาตรการนี้จะได้การตอบรับที่ดีแค่ไหน เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีเพียงใด หรือจะทำให้คนไทยติดเชื้อมากขึ้นหรือไม่
คนไทยต้องตอบกันเองว่าพร้อมแล้วหรือยัง ??
รักและปรารถนาดี จากเรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย
โฆษณา