12 ต.ค. 2020 เวลา 13:12 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Work from home ผ่านหุ่นยนต์!!! สั่งการระยะไกลผ่านกล้อง VR
FamilyMart ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มทดลองการควบคุมหุ่นยนต์ประจำร้าน (Shop Assistant Robot) เพื่อเข้าจัดสินค้าตั้งแต่ขวดนมไปจนถึงขนมขบเคี้ยวเข้าชั้นวางของครับ
เทคโนโลยี Telerobotics นวัตกรรมที่อาจเปลี่ยนโลก
การควบคุมหุ่นยนต์ระยะไกลมีมานานกว่าทศวรรษ โดยดูได้จากรถบังคับวิทยุระยะไกล้ ไปจนถึงการควบคุมหุ่นยนต์ทิ้งระเบิดระยะไกล แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการควบคุมที่มาพร้อมกับ infrastructure ที่ดีขึ้นมาก เช่น ระบบเครือข่าย 5G จะทำให้หุ่นยนต์สามารถทำตามคำสั่งได้มากขึ้นครับ
แนวคิดในการควบคุมหุ่นยนต์ทางไกลดังกล่าวมีชื่อว่า Telerobotics หรือ Teleoperation ซึ่งเป็นที่โจษจันจากภาพยนตร์ดิสโทเปียชื่อดังอย่าง Surrogates หรือ Sleep Dealer ที่มนุษย์ในเรื่องสามารถควบคุมหุ่นยนค์ให้ทำงานแทนตนเอย่างอิสระ
หุ่นยนต์ดังกล่าวมีชื่อรุ่นว่า Model-T (ถ้าดูจากรูปทรงหัวน่าจะเรียก Model-Y มากกว่าครับ) กล่าวถูกพัฒนาโดยบริษัท Telexistence โดยถูกออกแบบมาเพื่อให้มนุษย์สามารถควบคุมหุ่นยนต์จากระยะไกลผ่านกลไกของเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) โดยเจ้าหุ่นยนต์ Model-T จะช่วยให้เหล่าพนักงานสามารถทำงานที่ต้องอาศัยแรงงานกับการสัมผัส เช่น หยิบ ยก จับ ของต่างๆ โดยไม่ต้องเข้ามาที่หน้างานด้วยตนเอง
คุณ Yuichiro Hikosaka กรรมการของบริษัท Telexistence กล่าวว่า หุ่นยนต์ดังกล่าวเป็นเหมือนตัวแทนของมนุษย์ (Human Avata) เนื่องจากคนเราสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ตามที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องขยับตัวเลย
คุณ Yuchihiro ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าระบบ Telerobotics ทำให้การทำงานต่างๆ ง่ายขึ้นมาก และประหยัดเงินและเวลามากขึ้นครับ ถึงแม้จะเป็นงานง่ายๆ ใช้เวลาทำไม่ถึง 10 นาทีอย่างการจัดของเข้าตู้ขายแช่ใน FamilyMart แต่ด้วยระบบดังกล่าวทำให้พนักงานสามารถจัดของที่โตเกียว แล้วเลี้ยวไปจัดของต่อที่ฮอกไกโดในระยะเวลาไม่นาน
พนักงานเหล่านี้แค่ loginเข้าไปดูตลาดงาน online เลือกงานที่เขาอยากทำ และต่อ VR Headset ของเขาเพื่อเชื่อมต่อตัวเขาเองเข้ากับหุ่นยนต์ที่ประจำที่หน้างานนั้นๆ ครับ ความคิดนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะช่วง COVID-19 กำลังระบาด เพราะคนเราก็ไม่อยากออกไปผจญกับ COVID-19 อยู่แล้วครับ
อุปสรรคและอนาคตของเทคโนโลยี Telerobotics
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดีอย่างไรก็ตาม ประเด็นแรกที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้คือเรื่องของการให้ผู้ประกอบการเข้าใจและตอบรับเทคโนโลยีนี้ครับ เพื่อลดต้นทุนการผลิตหุ่นยนต์ดังกล่าว จำเป็นอย่างมากที่ต้องอาศัยการผลิตจำนวนมาก (Economics of Scale)
ถ้าวิเคราะห์ในตลาดของญี่ปุ่นเอง ร้านสะดวกซื้อกว่าหมื่นสาขาถูกดำเนินการโดยผู้ประกอบการเพียง 3 เจ้า (ผมเข้าใจว่าคือ 7-11, Lawson, FamilyMart) หากมีสักเจ้าสนใจในเทคโนโลยีนี้โดยนำเจ้า Model-T ไปช่วยงานในร้านสักพันสาขา ก็อาจจะทำให้ Telerobotics เป็นที่นิยมได้ครับ
อุปสรรคอีกข้อหนึ่งคือตัวหุ่นยนต์เอง ประสิทธิภาพของแขนกลหุ่นยนต์อสจจะยังไม่ดีเท่ากับกล้ามเนื้อของมนุษย์ครับ ดังนั้นการหยิบ จับ เหนี่ยว สิ่งของต่างๆ ในโกดังหรือในร้านค้าก็ยังสู้มีมนุษย์จริงๆ เข้าไปทำไม่ได้ครับ อย่างน้อยๆ ของที่ตกแตกง่าย หรือต้องการการจับแบบพิเศษก็ยังต้องการมนุษย์อยู่ดีครับ
เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการยึดจับของมือหุ่นยนต์ เริ่มมีการนำเทคโนโลยีการดูดจับ หรือแรงดันเข้ามาช่วยครับ สำหรับคุณ Yuchihiro นั้นข้อมือที่มี 3 นิ้วของ Model-T ก็อยู่ระหว่างการทดสอบอยู่ครับ
อุปสรรคข้อสุดท้ายของหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลคือมีต้นทุนทั้งการจ้างงานคนและการจัดหาหุ่นยนต์ และในระยะยาวถ้าหุ่นยต์เก่งขึ้นจนสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์อีกต่อไป ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เทคโนโลยี Telerobotics จะโดน disrupt ไปในที่สุดครับ
Teleborotics คือจุดเชื่อมต่อสู่อนาคต
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้มีโอกาสจะล้มหายตายจากไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ความจริงคือข้อมูลที่ได้จากการพัฒนา Model-T จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์แบบอัตโนมัติครับ โดยคุณ Yuchihiro มองว่า Model-T จะสามารถเรียนรู้ logic ในการเรียงของของมนุษย์เพื่อนำไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ และใช้ Logic ได้อย่างมนุษย์ในท้ายที่สุดครับ
นอกจากนี้ข้อมูลในการบังคับข้อมือ หรือข้อต่อต่างๆ ของหุ่นยนต์จะช่วยให้นักวิจับสามารถพัฒนาหุ่นยนต์หี้การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นครับ
ท้ายที่สุด จุดตัดที่แท้จริงคือเมื่อหุ่นยนต์สามารถทำงานได้ดีจนการทำงานแบบ Telerobotics ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป จุดนั้นแหละครับจะเป็นจุดที่มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ จะตกงานกัน
โฆษณา