13 ต.ค. 2020 เวลา 18:27 • ไอที & แก็ดเจ็ต
สรุปสเปก “iPhone 12” อย่างเป็นทางการ
ตระกูล iPhone 12 จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max
ซึ่งทุกรุ่นจะรองรับเทคโนโลยี 5G
จอภาพเป็น Super Retina XDR
รองรับ Face ID (สแกนใบหน้า)
1
และมาพร้อมกับชิป A14 Bionic (6-Core CPU และ 4-Core GPU)
โดย Apple อ้างว่า ชิปนี้แรงกว่าสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นในตลาดถึง 50% ทั้งด้าน CPU และ GPU
1
ส่วนดีไซน์ iPhone 12 จะเป็นทรงเหลี่ยมหรูหรา
คล้าย iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่
ทั้งนี้ iPhone 12 mini และ iPhone 12
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max
จะมีสเปกเดียวกัน ต่างกันเพียงขนาดหน้าจอ และราคา
-iPhone 12 mini
ราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์ (คาดราคาไทย 24,900 บาท)
ขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว (476 ppi)
กล้องหลัง 2 ตัว = Wide 12MP + Ultra Wide 12MP
-iPhone 12
ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ (คาดราคาไทย 27,900 บาท)
ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว (460 ppi)
กล้องหลัง 2 ตัว = Wide 12MP + Ultra Wide 12MP
-iPhone 12 Pro
ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ (คาดราคาไทย 35,900 บาท)
ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว (460 ppi)
กล้องหลัง 3 ตัว = Wide 12MP + Ultra Wide 12MP + Telephoto 12MP
มีเซ็นเซอร์ LiDAR Scanner ช่วยยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพกล้องและ AR
-iPhone 12 Pro Max
ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ (คาดราคาไทย 39,900 บาท)
ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว (458 ppi)
กล้องหลัง 3 ตัว = Wide 12MP + Ultra Wide 12MP + Telephoto 12MP
มีเซ็นเซอร์ LiDAR Scanner ช่วยยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพกล้องและ AR
สำหรับสี
iPhone 12 mini และ iPhone 12
มี 5 สี ได้แก่ สีดำ, น้ำเงิน, เขียว, แดง และขาว
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max
มี 4 สี ได้แก่ สีเงิน, กราไฟต์, ทอง, แปซิฟิกบลู
สำหรับความจุ
iPhone 12 mini และ iPhone 12 มีให้เลือก 64 / 128 / 256 GB
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max มีให้เลือก 128 / 256 / 512 GB
ทั้งนี้ iPhone แต่ละรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในระยะเวลาที่แตกต่างกัน
โดย iPhone 12 และ iPhone 12 Pro เริ่มเปิดจองวันที่ 16 ตุลาคม และจำหน่ายจริง 23 ตุลาคม
iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini เริ่มเปิดจองวันที่ 6 พฤศจิกายน และจำหน่ายจริง 13 พฤศจิกายน
ที่สำคัญ ในกล่อง iPhone 12 ทุกเครื่อง
จะไม่แถมหูฟัง กับ หัวอแดปเตอร์
ให้เฉพาะสายชาร์จเท่านั้น..
โฆษณา